หลังจากการตายของลูกสาวผ่านพ้นไป พ่อแม่ก็เหลือเพียงความเจ็บปวดที่อยู่ในใจ พวกเขาจึงช่วยกันรณรงค์บนอินเตอร์เน็ต รวมถึงตั้งเพจในเฟซบุ๊กด้วย เรียกร้องให้คนหันมาร่วมกันต่อต้านการข่มเหงรังแกคนอื่น และยังบอกเล่าเรื่องของลูกสาวว่าเธอเป็นเด็กสาวที่ร่าเริงและน่ารัก สักเพียงใด เป็นมิตร ช่างคุยกับทุกคน
ความเศร้าสลดใจก็มาเยือนผู้เป็นพ่อและแม่อีกครั้ง เมื่อพวกเขาได้เห็นไดอารีลาตายที่เธอเขียนลงในอินเตอร์เน็ต พร้อมกับมีคลิปวิดีโอความยาวประมาณ 5 นาทีด้วย สาวน้อยเธอได้ระบายความทุกข์และความอึดอัดใจทั้งหมดที่เธอมีลงไปในคลิปนั้น เธอใช้วิธีระบายโดยการเขียนข้อความลงบนแผ่นกระดาษแล้วยกขึ้นให้อ่าน ซึ่งทำให้พอทราบได้ว่าเธอถูกคนอื่นๆรังแกและดูถูกมาสารพัดจนเกินจะทนไหว ทั้งเรียกว่านังโง่ นังหน้าปลวก นังคนไร้ค่า หรือนังคนน่าสมเพช แรกๆเธอยังยอมทนฝืนยิ้มไหวจนใครๆล้วนคิดว่าเธอสบายดี ไม่รู้ว่าข้างในปวดร้าวแค่ไหน แต่แล้วในที่สุดเธอก็หมดความอดทน เธออยู่แบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว
"หนูแค่อยากให้ทุกอย่างมันจบๆ ฉันต้องเข้าบำบัดและนอนโรงพยาบาลมาบ่อยพอแล้ว ฉันพยายามทำให้ตัวเองมีความสุข แต่ก็ไม่เวิร์ค หนูทนฝืนยิ้มต่อไปไม่ไหวแล้ว ทนโดนรังแกไม่ไหวจริงๆ กับการที่แสร้งทำเป็นว่าตัวเองโอเค เพราะงั้นฉันขอลาโลกแล้ว โดยที่จะไม่มีใครสังเกตเห็นด้วยซ้ำว่าฉันไป"
เธอยังฝากถึงทุกๆคนด้วยว่า หากพบเพื่อนหรือคนรู้จักคนใดก็ตามที่มีอาการทางจิต อย่าลืมให้ความรักและความช่วยเหลือพวกเขาเหล่านั้นด้วย
"ขอให้คุณคุยกับเพื่อนๆคุณถ้าคุณเห็นว่าเขามีอาการเข้าข่ายทางจิตเวช เพราะทำงั้นคุณอาจช่วยชีวิตพวกเขาได้ ในขณะที่ไม่มีใครช่วยฉันได้เลย ขอบคุณที่ดูคลิปวิดีโอของฉัน ฉันรักคุณและคนอื่นๆอีกหลายคน ชีวิตพวกคุณมีค่ามากสมควรที่จะอยู่บนโลกนี้ต่อไป" เธอบอกทิ้งท้ายไว้ก่อนที่จะส่งจูบให้กับกล้องที่เธออัดไว้