นายแพทย์อาจินต์ : พรุ่งนี้เช้าหรือ จะผ่ากระโหลกศีรษะพ่อหรือ
พิมพวดี : (เธอก็พยักหน้ารับคำ) หนูจะไปก่อนล่ะ
จากนั้นหนูน้อยคนนั้นก็หายตัวไป รุ่งขึ้นเวลา 8 นาฬิกา อาจารย์หมออุดม มาตรวจเยี่ยม ได้รับรายงานว่า เมื่อคืนนี้ปวดประสาทมาก ปวดจนดิ้นถึงสองครั้ง ท่านยืนคิดสักครู่หนึ่ง แล้วจึงพูดว่า “แปดโมงเช้านี้ จะเอาตัวไปผ่าตัด ผ่าเอาปมประสาทที่ปวดออก” แล้วหันมาสั่งพยาบาลให้ไปบอกหัวหน้าตึกให้เตรียมนำคนไข้รายนี้ไปผ่าตัด
ภรรยาและพยาบาลมองหน้ากันด้วยความงุนงงเต็มที่ เพราะไม่มีใครเชื่อว่าจะนำผมไปผ่าตัด ที่งงเพราะเมื่อคืนนี้ได้ยินผมพูดคนเดียว คือทวนคำพูดของแม่หนูว่า พรุ่งนี้ 8 นาฬิกา หมอจะเอาไปผ่าตัด ตอนนั้นเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง….มาตอนนี้เชื่อแล้ว เชื่อไม่มีความสงสัย! และการผ่าตัดประสาทสมองนี้กินเวลาราว ๆ สี่ชั่วโมง พอราว ๆ เที่ยงเขาก็เข็นรถกลับมาที่เดิม ที่ในห้องมีแม่ผม ภรรยา พ่อตา แม่ยาย ค่ำวันนั้นก็เกิดอาการปวดขึ้นมาอีก ทีนี้ปวดสองอย่างคือ ปวดเจ็บในสมองที่ผ่า ปวดแผล มิหนำซ้ำโรคปวดเดิมก็ไม่ทุเลา ทำให้เกิดทุกข์ทรมานมากกว่าเก่า และแล้วก็นึกขึ้นได้ จึงพูดออกมาว่า “หนู! ช่วยพ่อด้วย” ผมตะโกนออกมาดัง ๆ ชั่วอึดใจเดียวก็ปรากฏร่างของเด็กหญิงคนเดิมมานั่งอยู่ข้างเตียง ผมจึงถามว่า
นายแพทย์อาจินต์ : มาแล้วหรือลูก ช่วยพ่อที ตอนนี้ปวดเหลือจะทนแล้ว
พิมพวดี : (แม่หนูก็เอามือมาวางที่ศีรษะ) เดี๋ยวจะทุเลา
นายแพทย์อาจินต์ : (ก็เป็นจริงดังว่า อาการปวดก็ทุเล)) หนูชื่ออะไรจ๊ะ
พิมพวดี : ก่อนที่จะตายนี้หนูชื่อพิมพวดี
นายแพทย์อาจินต์ : หนูเป็นอะไรตาย
พิมพวดี : หนูเป็นไข้เลือดออกตายค่ะ
นายแพทย์อาจินต์ : ตายที่นี่หรือ
พิมพวดี : ตายที่ตึกเด็กค่ะ
นายแพทย์อาจินต์ : ตายเมื่อไหร่จ๊ะ
พิมพวดี : เมื่อปี 2502 ค่ะ
นายแพทย์อาจินต์ : หนูมีพี่น้องกี่คนจ๊ะ
พิมพวดี : มี 5 คนค่ะ
นายแพทย์อาจินต์ : ผู้หญิง ผู้ชาย กี่คน
พิมพวดี : หนูเป็นผู้หญิงคนเดียว
นายแพทย์อาจินต์ : พ่อแม่คงจะเสียใจมากที่หนูตายไป
พิมพวดี : พ่อแม่เสียใจมาก เพราะหนูเป็นลูกผู้หญิงคนเดียว พ่อสร้างศาลาอุทิศส่วนกุศลให้หนูที่วัดมกุฎฯ เอาชื่อหนูไปตั้งศาลานี้ มีรูปหนูและมีคำจารึก มีกระดูกที่เผาแล้วของหนู ฝังอยู่ในนี้ด้วยค่ะ พ่อดีขึ้นแล้ว หนูลาไปก่อน แล้วจะมาหาพ่ออีกค่ะ
พอรุ่งขึ้นเช้าอาการปวดก็กำเริบ ปวดทุรนทุรายร้องครวญครางอีก และทุกครั้งที่ปวดผมก็จะนึกถึง พิมพวดี ทันที ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน ถ้าเป็นกลางวัน ก็จะได้ยินเสียงพูดว่า “พ่อ หนูมาแล้ว.” แล้วเธอก็เอามือมาช่วยกุมที่ปวดจนผมทุเลา ต่อมาในเย็นวันหนึ่ง ฯพณฯ ทวี บุณยเกตุ ซึ่งเป็นพี่ชายของผม ท่านได้ไปเยี่ยมพร้อมบุตรคือ บู๊-วีระวัฒน์ บุณยเกตุ ในนั้นอาการปวดของผมกำเริบปวดขึ้นมาก ๆ ผมนอนร้องเรียก พิมพวดี ให้มาช่วย คุณทวี ก็พอทราบเรื่องอยู่บ้าง แล้วจากคำบอกเล่าของญาติ ๆ ท่านก็เลยนั่งอยู่ ซึ่งปกติท่านไปเยี่ยมบ่อยมาก แต่ไปนั่งไม่นาน เพราะท่านทนความสงสารในความทุกข์ทรมานของผมไม่ไหว เย็นนั้นท่านนั่งอยู่นานหน่อย พอดีผมปวดมาก และร้องเรียกหนูพิมพ์ ว่า “ลูก
มาช่วยพ่อที” จากนั้น พิมพวดี ก็ปรากฎตัวให้ผมเห็น ผมก็ถามว่า …
นายแพทย์อาจินต์ : ผ่าตัดแล้วทำไมยังไม่หายอีก
พิมพวดี : ยังไม่หาย ยังไม่หมดเวรหมดกรรมที่ทำไว้
นายแพทย์อาจินต์ : แล้วเมื่อไหร่จะหาย
พิมพวดี : ก็ราว ๆ อีกสี่ปี พ.ศ.2508 นั่นแหละ
นายแพทย์อาจินต์ : แล้วจะทำอย่างไรต่อไป
พิมพวดี : พรุ่งนี้แปดโมงเช้า หมอจะเอาตัวไปผ่าตัดอีก จะต้องผ่าอีกสองครั้ง รวมเป็นสี่ครั้งในคราวนี้
นายแพทย์อาจินต์ : ต้องผ่าถึงสี่ครั้งเชียวหรือ
พิมพวดี : หนูจะลาไปก่อน วันนี้รีบหน่อย เพราะจะไปรับส่วนกุศลที่เขาอุทิศให้ที่ศาลาพิมพวดี
นายแพทย์อาจินต์ : เขาอุทิศกุศลให้เรื่องอะไร
พิมพวดี : เขาบำเพ็ญกุศลศพใครก็ไม่รู้ที่ศาลา คนตายมีเหรียญตรา มีสายสะพาย
คุณทวี นั่งฟังอย่างสงบ ก็อยากจะพิสูจน์ จึงให้ คุณวีระวัฒน์ ขับรถออกไปดูว่าที่ ศาลาพิมพวดี วัดมกุฎฯ มีการบำเพ็ญกุศลศพใคร คุณวีระวัฒน์ จึงรีบขับรถไปที่วัดมกุฎฯ ทันที และปรากฏว่าคืนนั้นมีการนำศพออกมาจากสุสาน นำมาบำเพ็ญกุศล เป็นศพของรองอธิบดีกรมเจ้าท่า รูปถ่ายหน้าโกศเป็นรูปเต็มยศ มีเหรียญตรา มีสายสะพายจริง ๆ คุณวีระวัฒน์ จึงรีบขับรถมาเรียนคุณทวีว่าเป็นจริงอย่างที่ผมทวนคำพูดทุกประการ
คืนนั้น ผมปวดอีกครั้งหนึ่ง พอเช้า อาจารย์หมออุดม ก็มาเยี่ยมอย่างเช่นเคย พอทราบว่ายังปวดอีก ท่านก็ยืนครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ แล้วหันมาสั่งพยาบาลว่าไปบอกหัวหน้าตึกให้เตรียมคนไข้นี้ไปห้องผ่าตัดอีกที เช้าวันนี้ก่อนแปดนาฬิกา ผมตะลึง ภรรยา และพยาบาล งง ทุกคนในตึกนั้น เมื่อได้ทราบคำสั่งก็ประหลาดใจ เพราะพยาบาลที่เฝ้าเธอเล่าให้เพื่อน ๆ เธอฟังตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่า เช้านี้ผมจะต้องถูกผ่าตัดอีก เพราะ พิมพวดี บอกไว้
Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday