คำถามที่สุดฮิต..สารอาหารเพื่อคุณแม่มือใหม่มีอะไรบ้างนะ

โภชนาการสำหรับคุณแม่มือใหม่เป็นหนึ่งในคำถามที่สุดฮิต เพราะอาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้คุณแม่ได้รับพลังงานและสารอาหารอันส่งผลเอื้อต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็ก โดยปกติคุณแม่ที่ตั้งครรภ์จำเป็นต้องได้รับพลังงานเพิ่มเติมวันละ 300-400 กิโลแคลอรี นั่นคือการเพิ่มมื้อว่างอีก 1 มื้อต่อวัน ซึ่งควรเป็นอาหารที่มีประโยชน์และมีคุณค่าทางสารอาหาร โดยสารอาหารที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ได้แก่

ผู้ใหญ่ทั่วไปควรกินโปรตีนให้ได้ 1 กรัม/น้ำหนัก 1 กิโลกรัม/วัน แต่สำหรับคุณแม่ต้องเพิ่มอีก 7-10 กรัม ซึ่งแหล่งอาหารที่มีโปรตีนที่ดี มีไขมันแฝงน้อย ย่อยง่าย เช่น นม ไข่ เต้าหู้ เป็นต้น

ร่างกายคุณแม่มือใหม่ต้องการได้รับแคลเซียมทุกวันเพื่อทดแทนแคลเซียมที่ร่างกายใช้ไป เช่น ใช้ในการสร้างโครงสร้างกระดูกและฟันของทารกในครรภ์ การเสริมแคลเซียมลงในน้ำนมที่ร่างกายมารดาสร้างขึ้นระหว่างการให้นมบุตร โดยเฉลี่ยต้องการแคลเซียมเพิ่มอีกประมาณวันละ 400 มิลลิกรัม อาหารที่มีแคลเซียมมาก เช่น นม ปลาเล็กปลาน้อย ผักใบเขียว เช่น คะน้า บร็อกโคลี เป็นต้น

เมื่อเข้าสู่ระยะตั้งครรภ์เดือนที่ 4-6 ร่างกายคุณแม่เริ่มมีการขยายตัวของการสร้างเม็ดเลือดแดงให้ทันกับการขยายการสร้างน้ำเลือด เพื่อให้มีปริมาณเลือดโดยรวมมากพอสำหรับคุณแม่และทารกในครรภ์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ความต้องการธาตุเหล็กจึงเพิ่มขึ้น คุณแม่จึงควรได้รับโฟเลต 400 ไมโครกรัมต่อวัน เพื่อป้องกันการขาดธาตุที่เสี่ยงต่อการคลอดทารกน้ำหนักน้อย และการคลอดก่อนกำหนด อาหารที่มีโฟเลต ได้แก่ ผักโขม คะน้า กะหล่ำดอก ถั่วลันเตา เป็นต้น

ประกอบไปด้วยกรดที่สำคัญและจำเป็นต่อร่างกาย 2 ชนิด ได้แก่ ไอโคซาเพนทาอีโนอิก หรือ อีพีเอ (Eicosapentaenoic Acid) และ กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (Docosahexaenoic Acid) หรือ ดีเอชเอ ซึ่งส่งผลดีต่อร่างกายมากมาย เช่น ช่วยในการพัฒนาและเสริมการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ส่งผลดีต่อการพัฒนาการทางสมอง ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่า หญิงตั้งครรภ์ที่กินอาหารที่มีโอเมก้า-3 อย่างเพียงพอและเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ลูกที่คลอดจะมีภูมิคุ้มกันที่ดี มีสิตปัญญา สมาธิ และพัฒนาการที่ดี แหล่งอาหารที่อุดมด้วยโอเมก้า-3 เช่น ปลาทูน่า ปลาแซลมอน

คุณแม่ที่ตั้งครรภ์จำเป็นต้องรับประทานผักผลไม้ 5 สีหลากหลายวันละ 400-500 กรัม เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามิน เกลือแร่ และไฟโตนิวเทรียนท์ เพื่อป้องกันสารอนุมูลอิสระ และที่สำคัญยังให้กากใยอาหารที่ช่วยให้ระบบการย่อยอาหารและขับถ่ายเป็นปกติ

อ้างอิง

http://www.thaihealth.or.th/

http://www.inmu.mahidol.ac.th/th/knowledge/

http://www.nutrilite.co.th/nutrilite/healthcoach/topic.html?grp=6&id=3082