อย่าปล่อยบุตรหลานไกลสายตา เพราะคนที่ไว้ใจอาจร้ายที่สุด ไม่งั้นอาจโชคร้ายแบบนี้
หน้าแรกTeeNee อาหารสมอง อาหารสมอง อย่าปล่อยบุตรหลานไกลสายตา เพราะคนที่ไว้ใจอาจร้ายที่สุด ไม่งั้นอาจโชคร้ายแบบนี้
จขกท เป็นเด็กต่างจังหวัด สมัยเด็กๆ อาศัยอยู่กับคุณปู่คุณย่า เพราะคุณพ่อคุณแม่ต้องไปทำงานต่างจังหวัด ฐานะทางบ้านถือว่าค่อนข้างดี ไม่ลำบากเป็นหลานคนแรกของทั้งฝั่งคุณพ่อและคุณแม่ ปกติจขกท จะเป็นเด็กเงียบๆ ไม่ค่อยพูด พอมองย้อนกลับไป เหมือนเป็นเด็กที่ขาดความอบอุ่น คุณปู่และคุณย่ารักเรามาก อยากได้อะไร ซื้อให้ทุกอย่าง(ที่ไม่เกินกำลัง) แต่ไม่ค่อยได้รับความอบอุ่นทางใจ อาจจะเป็นเพราะตอนนั้นพวกท่านยุ่ง และคุณปู่คุณย่าเพิ่งอายุ 40 กว่าๆ เราเลยรู้สึกว่าโดดเดี่ยวพอสมควร
ตอนอายุ 4-5 ขวบ เรามีญาติๆและลูกพี่ลูกน้องเยอะ แถวบ้านเราญาติๆ จะสร้างบ้านติดๆกัน เวลาว่าง จำไม่ได้ว่าตอนนั้นเข้าโรงเรียนหรือยัง เรามักจะไปเล่นที่บ้านญาติๆบ่อยๆ เราจำได้ว่ามีวันนึง เราไปบ้านของลูกพี่ลูกน้องที่เราสนิทเป็นลูกของป้า (เป็นพี่สาวของพ่อ) และที่บ้านมักจะมีสามีของป้าอยู่ ขอเรียกว่าลุงช ละกัน วันนั้นเราก้เล่นกะพี่ๆปกติ แล้วอยู่ๆ พี่ๆก้พาเราไปหาลุงช ซึ่งก้คือพ่อแท้ๆของลูกพี่ลูกน้องเรา เดาได้ไม่ยากใช่ไหมคะ ว่าต้องมีอะไรไม่ดีแน่ๆ ใช่ค่ะ ลุงช พาเราไปกอด และจูบเรา !! จูบแบบแลกลิ้น กับเด็ก5 ขวบค่ะ !!เรายังจำกลิ่นปากซึ่งมีกลิ่นเหม็นบุหรี่กลายๆ และรสขมของมันได้เลย พอจูบเราเสร็จ เราตกใจมากๆ ลุงช ก้บอกว่าอย่าบอกใครนะ ไม่งั้นไม่ให้มาเล่นที่บ้านอีก ด้วยความที่เราเป็นเด็ก เราจึงไม่บอกใคร เพราะกลัวจะไม่ได้มาบ้านพี่ๆอีก
เหตุการณ์แบบนี้ก้ไม่ได้เกิดขึ้นอีก จนกระทั่งเวลาใกล้ๆกัน เราไปบ้านลูกพี่ลูกน้องอีกคน ขอเรียกว่าบ้านป้าบี ซึ่งเป็นป้าอีกคนของเรา ป้าบีมีสามี ขอเรียกว่าลุงทีแล้วกันนะคะ เราจำได้ว่าเรากำลังเล่นอยู่กะพี่ๆ แล้วลุงที ก้มากอดเรา และลูบไล้ แล้วก้จูบเรา !! จูบแบบแลกลิ้นอีกเหมือนเดิม เราบอกตามตรงว่า ตอนนั้น เรายังเด็ก เราไม่รู้ว่าจูบกันทำไม แต่เรายังจำกลิ่นบุหรี่จัดๆในปากลุงที ได้ แล้วลุงที ก้ขู่เราว่าห้ามบอกคุณปู่ ไม่งั้นเดี๋ยวตีให้ตาย และลุงทีก้จูบเราอีกหลายครั้งที่มีโอกาส (ปัจจุบันลุงทีเสียชีวิตแล้ว)
ด้วยความที่เราเป็นเด็กเงียบๆ และกลัวโดนตี และไม่ค่อยได้คุยกับคุณปู่คุณย่าบ่อยนัก เราเลยไม่เคบได้เล่าเรื่องนี้ให้คนในครอบครัวฟังเลยจนถึงทุกวันนี้ มีแต่เพื่อนสนิทสองสามคนเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้
นอกจากนั้น ยังมีอีกเหตุการณ์ที่เป็นรอยด่างพร้อยในความทรงจำวัยเด็กของเราจนถึงทุกวันนี้คือ ตอนเรา5 ขวบ มีอยู่เย็นวันนึง หลังจากกลับจากโรงเรียน เราไปบ้านป้าบี เพื่อไปดูทีวีกับพี่ๆสามพี่น้องเหมือนทุกวัน วันนั้นไม่มีใครอยู่บ้านนอกจากพี่แบต (เป็นลูกชายป้าบี) อายุประมาณ 10 ขวบในตอนนั้น แล้วสักพัก พี่แบตก้ชวนเราเข้าห้องบอกว่าจะเล่นแต่งหน้ากัน เราตื่นเต้นดีใจมาก เพราะเราชอบเล่นแต่งหน้า เราเลยเข้าห้องไป พอเข้าห้องพี่แบตก้ปิดประตูแล้วบอกให้เราถอดเสื้อผ้า เราก้ถามว่าทำไมต้องถอด ชุดถอดยากไม่ถอดได้ไหม แล้วพี่แบตก้เข้ามาเปิดกระโปรงและถอดกางเกงในเรา ตอนนั้นเราก้ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่พี่แบตกดตัวเราไว้และพยายามเอาน้องชายมาถูๆ กับน้องสาวเรา ตอนนั้นเราก้ดิ้นแบบงงๆ เพราะมันจั้กกะจี๋มาก เเละเราไม่รู้ว่าพี่แบตทำอะไร แล้วพี่แบตก้พยายามถูแรงๆและจะสอดใส่ โชคดีที่คุณย่ามาตามเรากลับบ้าน มาเคาะหน้าต่างห้องนอนปังๆๆ จนพี่แบตตกใจปล่อยเรา แต่เราก้ไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้คุณย่าฟังเลย
ตอนนี้เราอายุ 25 ปีแล้ว มันมีบางครั้งที่นึกถึงเหตุการณ์พวกนี้ แล้วรู้สึกว่าขยะแขยงตัวเองทุกครั้ง และรู้สึกโล่งอกว่า ตัวเองโชคดีที่ไม่โดนลุงๆหรือพี่ๆล่วงละเมิดทางเพศมากไปกว่านั้น แต่ยังไงก้เถอะ วัยเด็กควรเป็นวัยที่สดใสและบริสุทธิ์ เพราะมันมีผลถึงบุคลิกภาพโดยรวมในอนาคต เรายอมรับว่าในบางครั้งเราก้เป็นคนเก็บกด เกลียดผู้ชาย คิดว่าผู้ชายจ้องจะทำร้ายเราฝ่ายเดียว กว่าเราจะโอเคกับแฟนคนปัจจุบันนี่นานพอสมควรเลยค่ะ
เราอยากฝากเตือนถึงผู้ปกครองทุกคน โปรดดูแลบุตรหลานให้ดี หมั่นสังเกตความผิดปกติ และใช้เวลาพูดคุย ให้ความอบอุ่นทั้งทางกายทางใจแก่เด็กเยอะๆ เราคิดว่าถ้าเราได้รับความอบอุ่นและสนิทกะคุณปู่คุณย่ามากกว่านี้ เราคงยอมเล่าให้พวกท่านฟังตั้งแต่เหตุการณ์แรก และคงไม่มีเหตุการณ์ที่น่าเศร้าเกิดขึ้นตามมา ถ้าหากเด็กรู้สึกสนิทสนมและอบอุ่นใจ เด็กก้จะกล้าที่จะเล่าให้ฟังค่ะ และก้อยากฝากว่า แม้แต่คนใกล้ชิดก้อย่าไว้ใจเกินไปนะคะ เพราคนที่รู้ทุกความเคลื่อนไหวในบ้านก้คือคนใกล้ชิดนะคะ เราไม่อยากให้เด็กๆคนไหนต้องโตมาแล้วมีความทรงจำด่างพร้อยแบบเราหรือมีเหตุการณ์ที่ร้ายแรงกว่านี้เกิดขึ้นเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ
ขอบคุณเนื้อหาจากกระทู้พันทิป จาก สมาชิกหมายเลข 2350236
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!