วันนี้ Teenee.com จะแนะนำวิธีการดูเมฆมาฝากนะคะ การดูเมฆไม่ใช่เรื่องยาก แต่อยู่ที่ความชำนาญ ซึ่งสถานที่ในการดูถือเป็นส่วนสำคัญ โดยพื้นที่เหมาะสมต้องอยู่ในพื้นที่โล่ง หรือบนตึกสูง ไม่ควรดูในพื้นที่ซึ่งมีตึกสูงล้อมรอบ เพราะจะทำให้เห็นเมฆบนผืนฟ้าไม่หมด
เมฆฝนที่จะทำให้เกิดอันตรายต่อมนุษย์มากที่สุดคือ เมฆที่อยู่ในระดับต่ำบนผืนฟ้า ที่จะทำให้เกิดฝนฟ้าคะนอง โดยก่อตัวเป็นก้อนใหญ่ ซึ่งเมฆที่ก่อตัวเป็น แนวตั้ง (เมฆคิวมูโลนิมบัส) มีความอันตรายมากที่สุด เนื่องจากก่อให้เกิดลมกระโชกแรง และฝนตกอย่างหนัก ประกอบกับมีฟ้าผ่าเป็นอันตราย ต่อมนุษย์
เมฆก่อตัวในแนวตั้ง สามารถสังเกตด้วยตาเปล่าได้ โดยจะค่อย ๆ ก่อตัวสูงขึ้นคล้ายกะหล่ำปลี และยิ่งก่อตัวสูงเท่าไหร่จะเกิดฝนฟ้าคะนอง แรงขึ้นเท่านั้น การก่อตัวสูงของเมฆเกิดจากการเคลื่อนตัวของกระแสอากาศภายในเมฆที่ขึ้นและลง ซึ่งหากเมฆก่อตัวได้สูง ๆ จะทำให้เกิดลูกเห็บขนาดใหญ่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ได้
ช่วงกลางคืนสามารถสังเกตเมฆก่อตัวในแนวตั้งได้ด้วยการดูฟ้าแลบในกลุ่มก้อนเมฆ ถ้าฟ้าแลบในแนวตั้งมากกว่าแนวนอนแสดงว่า กลุ่มเมฆฝนกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาหาเรา แต่ถ้าฟ้าแลบ ในแนวนอนมากกว่าแนวตั้งแสดงถึงกลุ่มเมฆฝนเหล่านั้นกำลังเคลื่อนตัวไปจากพื้นที่ซึ่งเรายืนอยู่
การก่อตัวของเมฆในแนวตั้งจะใช้เวลาไม่เกิน 2-3 ชั่วโมง หากประชาชนเห็นการก่อตัวของเมฆเหล่านี้ควรเตรียมตัวเก็บข้าวของที่อยู่กลางแจ้งซึ่งจะเสียหายได้ ตลอดจนเตรียมอยู่ในอาคารหรือที่กำบังต่าง ๆ เพราะเมื่อเกิดฝนจะมีฟ้าผ่าถ้าอยู่กลางแจ้งอาจเกิดอันตรายแก่ชีวิตได้
ถ้าเกิดฟ้าผ่าควรอยู่ในที่กำบัง เช่น อาคาร ไม่ควรอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ซึ่งจะเป็นจุดเสี่ยงที่ฟ้าจะผ่า และควรถอดเครื่องประดับที่เป็นสื่อนำ เช่น ทองแดง ออกจากร่างกาย ตลอดจนดึงปลั๊กทีวีและเสาอากาศออก และปิดมือถือเมื่ออยู่กลางแจ้ง
"หากเมฆสูงเป็นริ้วเหมือนหางม้าแสดงว่า อากาศวันนั้นดี แต่ถ้าท้องฟ้าเหลือง แดงลมสงบให้เตรียมตัวเพราะไม่นานจะมีพายุฝนเกิดขึ้น"