เพราะการรักใครสักคน นั่นก็หมายถึงการรักตัวเองในอีก 1 รูปแบบ เลยไม่
แปลกที่เวลาเราทำอะไรให้กับใคร สิ่งที่ได้กลับมาก็คือความชุ่มชื่นใจแก่ตัวเอง
เติมให้เขา เราก็ได้
เป็นไหม ที่ความตื่นเต้นจะติดตัวเสมอทุกครั้งที่เรายกโทรศัพท์หาใครสักคนที่
เราชอบ แม้จะยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะชอบเราบ้างหรือเปล่า หรือแม้กระทั่งการส่ง
ดอกไม้ไปให้เขา และเราก็ลุ้นด้วยอาการใจจดจ่อว่า คนปลายทางจะรู้สึกยังไง
ชอบไหม และจะรู้สึกดี ๆ กับคนต้นทางบ้างหรือไม่สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นความ
พิเศษที่เกิดขึ้น จากคนหนึ่งถ่ายทอดไปยังอีกคนหนึ่ง เหมือนกับคลื่นลูกแล้วลูก
เล่าที่ทยอยกันซัดเข้าสู่ฝั่ง พื้นทรายทยิ่งซึมซับน้ำได้มากเท่าไหร่ซัดไปก็หายไป
เท่านั้น ส่วนผืนทรายที่เกาะตัวกันอย่างหลวม ๆ ก็ง่ายที่จะหวั่นไหวไปตามเกลียว
คลื่น และความหวั่นไหวนี่เองที่หลังจากก่อตัวขึ้นมาแล้วมันก็จะแปรสภาพกลาย
เป็นความพิเศษที่ถ่ายทอดกลับคืนไป จนทั้งเกลียวคลื่นและผืนทรายกลายเป็น
ความพิเศษของกันและกัน
และคำว่า กันและกัน ที่ได้มามันคงไม่ยากเท่ากับการรักษาเอาไว้ให้ได้...นาน
แสนนาน แต่จะมีสักกี่คนเล่าที่จะกอดเก็บมันไว้ได้จนตลอดรอดฝั่ง หลายคู่ตั้งแต่
เริ่มจีบจนเลิกจีบก็ยังคงมีความพิเศษให้กันได้อย่างสม่ำเสมอไม่ว่าจะเป็น
ดอกไม้ พาไปกินข้าว ซื้อของ โทรหากันทุกวัน การแสดงออกถึงความรักด้วยคำ
พูดและการกระทำ และสิ่งที่อาจจะหายากที่สุดในบางคู่คือ เวลา ก็ยังไม่หลงลืมที่
จะหยิบยื่นให้กัน ส่วนอีกหลายคู่ที่ปล่อยให้จืดจางลงไปก็โยนความผิดให้กับ เวลา
บ้าง ระยะทางบ้าง จนหลงลืมว่าบางครั้งสาเหตุจริง ๆ แค่ก้มลงมามองที่ใจตัวเองก็
หาเจอแล้ว
อย่าโทษใคร ถ้าหัวใจเรานั่นล่ะที่เปลี่ยนแปลง
P.s ขอขอบคุณบทความจาก-`๏- มิสเกรนเจอร์ -`๏-
โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน ( ใครเคยอ่านมาแล้วขอโทษด้วยละกัน )
เรื่องธรรมดาของหัวใจ
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!