มันจริงหรอ!? กินส้มตำ ทำให้เป็นเซลลูไลต์?

ทำเอาตกใจกันใหญ่กับที่แชร์กันว่า กินส้มตำ กินยำ กินอีกสารพัดอาหาร จะทำให้เป็นเซลลูไลต์ หรืออาการผิวเปลือกส้ม ได้ ... ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น สาวอีสานคงมีเซลลูไลต์กันถ้วนหน้า มากกว่าภาคอื่นๆ ไปแล้ว (แต่ก็ไม่น่าใช่)

เพจที่เกี่ยวกับสุขภาพ โภชนาการ และกายบริหาร มักจะเชื่อว่าการกินเค็ม กินโซเดียม จะทำให้เกิดอาการบวมน้ำ น้ำคั่งในเนื้อเยื่อ ห้อยลงมาเป็นพุงเป็นเซลลูไลต์

แต่สาเหตุจริงๆ ของเซลลูไลต์นั้น แม้ว่าจะมีหลายอย่าง ดังเช่น การเปลี่ยนแปลงของระดับเมตาบอลิซึม สรีรวิทยา การอดอาหารมากไป โครงสร้างผิวหนังเฉพาะกับเพศหนึ่งๆ ฮอร์โมน การอักเสบ ฯลฯ แต่จะเห็นว่า ไม่ได้เน้นไปที่การกินเค็มแต่อย่างไร ... ว่าแล้วก็กินส้มตำต่อไป

- ฮอร์โมน : เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดเซลลูไลต์ โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเชื่อกันว่าอาจจะเป็นตัวการสำคัญในการเริ่มต้นสร้างเซลลูไลต์ (แม้จะยังไม่มีหลักฐานทางคลินิกยืนยัน) ฮอรโมนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก ได้แก่ อินซูลิน คาเตโคลามีน อะดรีนาลีน นอร์อะดรีนาลีน ไธรอยด์ และโปรแล็กติน

- พันธุกรรม : พบว่าคนแต่คนมียีนที่นำไปสู่การมีเซลลูไลต์ได้ยากง่ายต่างกัน ได้แก่ ยีน angiotensin converting enzyme (ACE) และยีน hypoxia-inducible factor 1A (HIF1a)

- ปัจจัยนำมา : เพศ เชื้อชาติ ลักษณะทางชีวภาพ การกระจายตัวของชั้นไขมันใต้ผิวหนัง การไหลเวียนและระบายออกของโลหิตและน้ำเหลือง ฯลฯ ที่แตกต่างกันในแต่ละคน 

(เซลลูไลต์มักจะเกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเนื่องจากเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในผู้หญิงเรียงเป็นแนวตั้งและมีปริมาณไขมันสะสมมาก ส่วนของผู้ชายเรียงเป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนเล็กๆและมีปริมาณไขมันสะสมน้อย จึงไม่พบเซลลูไลต์ในผู้ชาย)

-ไลฟ์สไตล์ : ชีวิตที่เคร่งเครียดมากไป จะทำให้ระดับของฮอร์โมนคาเตโคลามีนเพิ่มขึ้น

ข้อมูลจาก https://en.m.wikipedia.org/wiki/Cellulite และ https://th.m.wikipedia.org

ที่มาจาก