พ.ศ.๒๕๐๑ : พระฌอน ชยสาโร ท่านเกิดที่ประเทศอังกฤษ เมื่อยังเล็กมีสุขภาพไม่ดี มีอาการหอบหืด ต้องหยุดโรงเรียน บ่อย จึงใช้เวลาในการศึกษาด้วยตนเอง ท่านสนใจว่าอะไรคือสิ่งสูงสุดที่เราจะได้จากการ เป็นมนุษย์อะไรคือความจริงสากลที่ไม่ขึ้นอยู่กับสมมุติของแต่ละสังคม ทำไมคนเรา อยากจะอยู่อย่างเป็นมิตรแต่กลับรบราฆ่าฟันกันอยู่เรื่อยไปเมื่อไปโรงเรียน เป็นนักเรียนที่ช่างคิด ช่างค้นคว้า และมีผลการเรียนที่ดีเยี่ยมจนโยมบิดามี ความหวังให้เข้าสอบชิงทุนเพื่อเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในประเทศอังกฤษ
เมื่อศึกษาอยู่ได้อ่านหนังสือมากมายหลากหลาย จนกระทั่งพบ คำสอนของ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธา ว่าเป็น "สัจธรรมความจริง " ที่กำลังแสวงหาอยู่ จึงสนใจการฝึกจิต และศึกษาหาความรู้ทางพุทธศาสนาตั้งแต่อยู่ในวัยรุ่น
ท่านทำงานเก็บเงินระหว่างที่กำลังเรียนและออกเดินทางหาประสบการณ์ในประเทศต่างๆ ตั้งแต่อายุ ๑๗ ปี ใช้เวลา ๒ ปี จนแน่ใจว่าการศึกษาและปฏิบัติธรรม เป็นหนทางที่ต้องการ แทนการเรียนต่อใน มหาวิทยาลัย โดยเริ่มปฏิบัติกับ ท่านพระอาจารย์สุเมโธ (พระราชสุเมธาจารย์ ในปัจจุบัน และ เป็นพระชาวต่างชาติรูปแรก ที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อชา) ที่ประเทศอังกฤษ เป็น "ปะขาว" ถือศีล ๑๐ เป็นเวลา ๑ พรรษา
พ.ศ. ๒๕๒๑ : เดินทางมาประเทศไทยเพื่อฝึกปฏิบัติกับ หลวงพ่อชา สุภัทโท ( พระโพธิญาณเถร ) ที่วัดหนองป่าพง จังหวัด อุบลราชธานี
พ.ศ. ๒๕๒๒ : บรรพชาเป็นสามเณร อยู่ที่วัดหนองป่าพง
พ.ศ. ๒๕๒๓ : อุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมีหลวงพ่อชา สุภัทโท เป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ. ๒๕๒๙ - ๒๕๓๙ : เป็นรองเจ้าอาวาสวัดป่านานาชาติ โดยมี ท่านพระอาจารย์ปสันโน เป็นเจ้าอาวาส
พ.ศ. ๒๕๔๐-๒๕๔๕ : เป็นเจ้าอาวาสวัดป่านานาชาติ แทนท่านพระอาจารย์ปสันโน ซึ่งได้รับ นิมนต์ไปตั้งวัดสาขาที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
ก่อนเดินทางมาประเทศไทยได้ตั้งใจว่าจะอยู่ที่วัดหนองป่าพงให้ครบ ๕ ปี โดยไม่มีเงื่อนไขเพื่อศึกษาปฏิบัติธรรม เมื่อมาพบ หลวงพ่อชา ก็เกิด ความเลื่อมใส ศรัทธา ในปฏิปทาและความเป็นครูที่มีทั้งเมตตาและปัญญา