อุทาหรณ์!!!ตัดเล็บพลาดนิดเดียว ทำให้เธอเข็ดไปอีกนาน!!!
ต้องดึงให้มันสิ้นซาก ดึงจนกว่าจะหลุด ถึงแม้ว่าจะเลือดตกยางออกยังไงก็ตาม เจ็บๆคันๆมันดี
ตั้งแต่จำความได้เป็นคนที่ดึงสิ่งที่อยู่ข้างๆเล็บทุกสิ่งอย่างที่มันโผล่มา บางครั้งดึงจนเลือดกระฉูด ก็ไม่เคยเป็นอะไร
ล่าสุดเกือบสองอาทิตย์ที่ผ่านมา มีหนังข้างเล็บที่นิ้วนางข้างขวาโผล่มานิดนึง เมื่อเห็นอย่างนั้น ไม่รอช้าแต่อย่างได้ รีบดึงทันที
แต่แปลกมาก ดึงเท่าไหร่มันก็ไม่ออก ยิ่งดึงไม่ยิ่งลึกลงไปเรื่อยๆ จนมีเลือดซิบๆและเจ็บแล้วก็ไม่ออกซักที
จนหงุดหงิดทนไม่ไหวคว้ากรรไกรมาตัดอย่างไว
ตัดเสร็จก็ล้างมือ ตอนโดนน้ำก็แสบเล็กน้อย ปกติของแผลเวลาโดนน้ำ ทำนู่นทำนี่ใช้ชีวิตปกติไปตลอดทั้งวัน
วันรุ่งขึ้นตื่นมาเป็นวันเสาร์ก็ออกจากบ้านทำธุระต่อด้วยไปช๊อปปิ้งทานข้าว กลับเข้าบ้าน6โมงเย็น
พอกลับบ้านมาได้สักพักเริ่มเจ็บๆ และเจ็บขึ้นเรื่อยๆ ดูที่นิ้วบวมและแดงเล็กน้อย
ได้ยาแก้ปวดกับยาฆ่าเชื้อมา
พอทานยาไป ทั้งคืนนั้นไม่ได้นอนเลย ปวดทั้งคืน หลับๆตื่นๆ ใครจะไปเชื่อแผลนิดเดียว ทำเอาปวดไปทั้งมือทั้งแขนแบบไม่น่าเชื่อ
พอตื่นมาตอนเช้า เห็นนิ้วตัวเองตกใจมาก
รีบอาบน้ำแต่งตัวไปโรงพยาบาลเลย
(หลังจากเมื่อวานตอนปวด เราก็งดให้แผลโดนน้ำตั้งแต่ตอนนั้น)
แฟนจะพาไปสมมติเวช ศรีนครินทร์ เพราะใกล้บ้าน แต่เราเลือกไปโรงพยาบาลประกันสังคมที่เลือกเอาไว้แถวทองหล่อ เพราะอยากประหยัด
พอไปถึง ยื่นบัตร เราบอกเจ้าหน้าที่ว่าขอไปห้องผิวหนัง เค้าก็ส่งเราไป
พอไปถึง ห้องผิวหนัง รอประมาณครึ่งชั่วโมงถึงได้เรียกชื่อ ช่างน้ำหนัก ซักประวัติ ระหว่างรอก็ปวดสุดๆ
พอเจ้าหนี้ที่ถามอาการ เราก็เอานิ้วให้เค้าดู เค้าก็บอกว่าแผนกผิวหนังทำแผลให้ไม่ได้ ต้องไปศัลยกรรม
แต่เสาร์อาทิตย์ศัลยกรรมปิดต้องมาวันจันทร์ตอน8โมง
เราก็บอกว่าให้คุณหมอดูก่อนได้ไหมคะ ถ้ารอถึงพรุ่งนี้มันไม่ลามไปทั้งนิ้วเลยหรอ
เจ้าหน้าที่ก็บอก ถ้าจะรอเจอคุณหมอก็ได้นะคะ แต่ถ้าจะให้แนะนำไปศัลยกรรมดีกว่า เพราะคุณหมอผิวหนังก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
โอเค ไม่เป็นไร เราผิดเอง เราเข้าใจแผนกผิดเอง เราเลยเปลี่ยนโรงพยาบาล
ถ้ารอถึงพรุ่งนี้คงปวดตายพอดี ไปโรงพยาบาล ว. แถวพัฒนาการ
มาถึงที่นี่ไวมาก เนื่องจากเป็นเงินสด ยื่นบัตรปุ๊บ ส่งต่อแผนก เจ้าหน้าที่ดูอาการ ไม่ถึง5นาทีได้พบแพทย์
พอไปถึง คุณหมอก็จับๆกดๆที่แผล แล้วบอกว่าต้องเลาะหนังที่ตายออก แล้วอาจจะต้องถอดเล็บ
เราก็หะ แค่เจาะหนองออกไม่ได้หรอ คุณหมอก็ถามกลับว่า แล้วไง เจาะแล้วทำไรต่อ
เราก็เลยบอกว่าก็เอาหนองออกแล้วทานยา ไม่ได้หรอคะ
คุณหมอบอกว่าเชื้อมันไปไกลแล้ว ถึงไม่ถอดเล็บออก ตอนนี้เล็บก็ไม่โต โตมาก็ผิดรูปเสียหมดแล้ว และก็นู่นนี่นั่นเราจำประโยคเต็มๆได้ไม่หมด
แต่ตอนนั้นกลัวมาก แค่คิดว่าถอดเล็บก็สยองแล้ว แล้วคุณหมอถามว่า สรุปเอาไง จะทำหรือไม่ทำ เราก็ลังเล
แฟนนั่นอยู่ด้วยก็บอกทำเลย จะได้หาย ไม่ปวด
เราก็เลยตามเลย ทำก็ทำ สักพักเจ้าหน้าที่เชิญเราออกด้านนอก ขอประเมินค่าใช้จ่ายก่อน
นั่งรอสักพักเจ้าหน้าที่เดินมาชี้แจงรายละเอียดค่าใช้จ่าย
เลาะหนังที่ตายประมาณ 4000 บาท
ถอดเล็บ ประมาณ 4000 บาท
เราก็โห ขนาดนั้นเลยหรอ
ถ้ารวมค่ายานู่นนี่นั่น คงเป็นหมื่น
เจ้าหน้าที่ก็แนะนำว่ามีประกันสังคมที่ไหนไหม ถ้ามีไปทำประกันสังคมก็ได้ เพราะขั้นตอนการทำก็เหมือนที่ทำกับประกันสังคม
เราเลยหันไปถามแฟน แฟนเราบอกว่างั้นไปโรงพยาบาลอื่นก่อน
เราออกจากโรงพยาบาล ว. มา และขับตรงมาที่ สมมติเวช ศรีนครินทร์เลย (สุดท้ายก็ต้องมา)
พอมาถึงยื่นบัตร นู่นนี่นั่น รอไม่ถึง10นาที คุณหมอก็ลงมา ก็ดูแผล จับๆ กดๆ ตรงแผล แล้วถามว่าโดนอะไรมา "แปลกดี ไม่เคยเจอ เคยเจอแต่ที่เท้า"
เราก็เล่าให้ฟังว่าเราดึงจมูกเล็บแล้วก็เอากรรไกลตัดเล็บมาตัด นู่นนี่นั่น คุณหมอก็ อ๋ออออออออ
เราก็เลยรีบชิ่งพูดก่อนว่า ทำอะไรก็ได้นะคะ แต่ไม่ถอดเล็บนะ
คุณหมอบอกว่า ถอดทำไมคะ แค่นี้เอง แค่เอาหนองออกก็พอแล้ว
เรานี่โล่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง เลย
ถามเราว่าเลี้ยงสัตว์เลี้ยงไหม เราบอกไม่ค่ะ คุณหมอเล่าให้เราฟังว่า แฟนคุณหมอก็ชอบเอาที่ตัดเล็บไปตัดให้แมว
เค้าจะเอามาตัดก็ต้องมาล้างแอลก็ฮอล์ คุณหมอบอก ไม่ได้นะคะ สัตว์เลี้ยงที่รักก็มีเชื้อโรคนะคะ น่ารักมากเลย
ปลื้มผู้ชายพูดคะ ขา
พอทำแผลเสร็จ รับยาจ่ายตังค์และใบนัดมาล้างแผลวันรุ่งขึ้น
จ่ายค่าทำแผลกับค่ายาไปประมาณ 2000 บาท
วันรุ่งขึ้นมาล้างแผล คุณหมอท่านเดิมลาป่วย เจออีกท่าน ต้องมาเล่าใหม่ ยาวเลย
คุณหมอบอกวันนี้กลับไปดูอาการก่อน พรุ่งนี้ถ้าไม่ดีขึ้นก็กลับมากรีดใหม่
โดนค่าล้างแผลไปประมาณ 500
พอตอนดึกๆเราล้างแผลเอง พยายามรีดหนองที่รูเดิม ดันๆหนองให้ออกมาแล้วทำแผล
ตื่นเช้ามาแผลดีขึ้นเล็กน้อยแต่ยังมีหนองอยู่ รูเดิมมันสมานกันเรียบร้อยบีบหนองแล้วไม่ออกแล้ว
ด้วยความงกไม่อยากไปโรงพยาบาลแล้ว เลยจัดการกรีดแผลเองเลย (อันนี้ไม่แนะนำนะคะ อันตรายมากๆ เสี่ยงติดเชื่อเพิ่ม ถ้าใครพอมีกำลังจ่ายก็ไปหาหมอดีกว่า)
ก่อนทำเราล้างแอลกอฮอลล์ที่อุปกรณ์ แล้วเจาะลงไปที่แผล แค่นิวเดียว หนองก็ออกมา
ก็คอยๆบีบออกจนหมด
จนตอนนี้ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์กว่าๆ แผลแห้ง ดีขึ้นมากแล้วค่ะ แต่ต้องคอยดึงหนังที่ตายแล้วออกเพราะมันล่อนออกมา