ศัลฯเปลี่ยนชีวิต!!สาวอ้วนทุ่ม5ล้าน เนรมิตรหุ่นใหม่ถึงเกาหลี ปัจจุบันคือดีอ่ะ!!!
ศัลยกรรมเปลี่ยนชีวิตที่เกาหลี จากสาวอ้วนที่ไม่ชอบถ่ายรูป ด้วยเงิน 5 ล้านบาท รูปเยอะหน่อยนะคะ
เกิดเป็นหญิงยากแท้แสนลำบากกันนะคะทุกท่าน ดังคำกล่าวที่ว่า "ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง" และยังมีคำอื่นๆที่เจ็บปวดได้อีกมากกว่านั้นว่า "เป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวย" ซึ่งไม่หยุดอยู่แค่นั้น ยังมีคำต่อท้ายให้ด้วยที่ว่า "ถ้าไม่สวยก็หยุดเถอะคร่า" โอ้ววววววววววว!!! มันก็ดูเป็นการทำร้ายจิตใจกันมากเกินไปนะคะ จะยอมกันได้อย่างไร ไม่ได้ชะมะ ใช่สิ...อิอิ ไม่ได้หรอกค่ะ เปลี่ยนเป็น ฮันนะซังรวมพลังจัมโบ้ว่า "ถ้ายังไม่ตาย ฉันก็ไม่ยอมมมม..ที่จะหยุดสวยดีกว่า"
ใครจะไปยอมกันได้ละคะ เกิร์ลพาวเวอร์อย่างเรา แน่นอนว่า คนเราเกิดมามีไม่เท่ากัน อยู่แล้ว "ตูด นม เดือย (อั้ยยยยยยยย)" หรืออะไรก็แล้วแต่ คุณพ่อคุณแม่ให้มามากน้อยไม่เท่ากัน คนเบื้องบนก็อาจจะให้มาตามมีตามเกิดกันไป บางคนก้นแฟ่บ(ตูดฟีบ) เอวกิ่ว สะโพกเล็ก ดั้งแหมบ หรือที่เจ็บที่สุดของฝ่ายหญิงอย่างเราก็คือ "หน้าอกเล็ก" เหอะๆๆๆ ซึ่งยอมไม่ได้ยิ่งกว่า "อกหัก" อีกนะคะ แฟนใหม่ไม่ตายก็หาไม่ได้ แต่ นมใหญ่ตายกี่ชาติก็ยังขาดๆเกินๆกันอยู่ หุหุ..
เพราะฉะนั้น ฉันจึงทระนง สวมวิญญาณบุญรอด กันไปเลยค่ะคุณขา มือขวาปาดน้ำตา และสองเท้าก้าวเดินไปหาคุณหมอดีๆ เพื่อทำ "ศัลยกรรมนำพาชีวิตที่ดีงามและเลอค่ากันดีกว่าค่ะ" ใครจะว่าสิ้นเปลือง ใครจะว่าหน้าปลอม หรือเห็นเราเป็นแค่ดอกไม้พลาสติก ไม่ต้องแคร์ลลลลลลล เดินหน้าเชิด สองขาพ้อยน์ ยิ้มอ่อนให้ และเบะปากใส่แรงๆไปหนึ่งที พร้อมกับยึดมั่นในคติอันดีและคิดบวกเข้าไว้ค่ะว่า "ทำบุญสวยชาติหน้า ทำหน้าสวยชาตินี้" ว่าแล้วก็อยากชวนทุกท่านมาชมประวัติของผู้เขียนกันสักนิด เพื่อเป็นการน้อมนำทำความรู้จักกันเล็กๆน้อยๆค่ะ
สวัสดีค่ะ ชื่อ จูน นะคะ หรือ จะเรียกว่า "ปลา" ก็ได้ มี 2 ชื่อค่ะ ขออธิบายกันสักนิดว่าทำไมต้องมีสองชื่อนะคะ ชื่อเล่นจริงๆก็คือ "จูน" ในวงการก็คือ "จูนนี่" นั่นเอง (วงการบิ๊กมาม่าไม่อ้วนเอาเท่าไหร่) แต่อีกชื่อ คือ "ปลา" นั้นมาจาก ความอวบอิ่มพริ้มเพราเขย่าโลกของตัวเอง แล้วเป็นคนความจำสั้นมากๆ ยิ่งกว่าปลาทอง เพื่อนสาวก็เลยเรียกว่าปลานะคะ (ทั้งเพื่อนสาวและเพื่อนเกือบสาวเลยก็ว่าได้ค่ะ) และเหตุผลอีกอย่างก็มาจาก ความยุ้ยอุ้ยอ้ายแก้มป่องหน้าพองยิ่งกว่าปลาทองนั่นเองค่ะ อายุอานามตอนนี้ 18 ค่ะ (ล้อเล่น) 555 บวกไปอีก 14 ปี ตอนนี้ 32 (งวดนี้ใครอยากถูกไม่ต้องไปขูดเอาจากเจ้าแม่จูนนี่ไปได้เลย)
ออกตัวไว้ก่อนค่ะว่าเป็นคนที่รูปร่างท้วมมาตั้งแต่เด็กๆ แต่เคยมีอยู่ช่วงนึงสมัยวัยรุ่น 16-17 เริ่มเป็นสาวสะพรั่งขึ้นมาก็เริ่มอยากจะผอม อยากจะสวยกับเค้ามาบ้าง ก็เริ่มปฏิบัติการฮันนะซังเมคโอเวอร์ตัวเอง ให้ผอมลงโดยการออกกำลังกาย ตีแบดทุกวันหลังเลิกเรียนกับเพื่อนๆ และอดอาหาร ทานน้อยมากๆ ไอศกรีม เค้ก น้ำอัดลม แม้แต่ไก่ทอดฟาสต์ฟู้ดที่เคยชอบกิน ดิฉันเลิกเด็ดขาดค่ะ และอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่ขาดไมได้เลย คือ เข้าคอร์สกับคุณหมอขอยาลดความอ้วนสิคะ และไม่พลาดที่จะไปรับยาและพบแพทย์ ที่ ร.พ.ลดน้ำหนักอันดับต้นๆของประเทศ ก็ยอมรับค่ะว่า จากอ้วนๆท้วมๆ มาตั้งแต่เด็กๆ ก็เริ่มผอมลงๆๆๆๆ เรื่อยๆ จนกระทั่งมีครอบครัว ตายละสิคะ หลังจากมีปั๋ว ใช่ค่ะก็มีชีวิตน้อยๆของ เราก็ตามมา ได้หนุ่มน้อยเข้ามาเพิ่มเติมในชีวิต 1 คน แต่ผลที่ตามมาหลังจากนั้น คุณแม่ก็ยุ้ยขึ้นๆ บวมเอาๆจนน้ำหนักขึ้นพรวดไปถึง 107 กก. ฟังไม่ผิดหรอกค่ะ (ขอให้ถูกสามตัวบนกันทุกท่านถ้วนหน้าถ้วนตา) ความที่ดิฉันเป็นแม่บ้าน ทำแต่งานและดูแลสามีและลูกอย่างเดียว อย่างว่านะคะ คุณแม่บ้านสมัยนี้ก็น่าจะเข้าใจ หลังจากคลอดหนูน้อย ก็ต้องเอาใจใส่ปรนนิบัติพัดวี สมาชิกในครอบครัวทั้งสองหน่อ ให้อยู่กันอย่างอิ่มหมีพลีมัน แล้วกรรมก็มาตกอยู่กับอิชั้นที่เป็นคุณแม่บ้าน อาหารสารพัดอร่อยทั้งนั้น มีประโยชน์ทั้งนั้น ของคาว ของหวาน ความสุขในบ้านคือการกินๆๆๆๆ ดังนั้น แม่หมูจึงปล่อยตัวเอง อ้วนลอยนวลตาม คุณพ่อหมู และคุณลูกหมูไปค่ะ ดิฉันไม่ได้สนใจตัวเองจนครั้งสุดท้ายที่ชั่งน้ำหนัก แทบจะเป็นลมพับคาตาชั่ง (แต่กลัวตาชั่งยุบไม่มีให้ชั่งต่อ) นางเลยไปหยุดอยู่ที่หนักที่สุดของชีวิต ซึ่งบางที จูน ก็คิดนะว่าเราผ่านจุดนั้นมาได้ยังไง จุดที่อีกนิดนึงก็เป็นเพื่อนกับแม่หมีหลินฮุ่ยได้แล้ว
ดิฉันจึงคิดลดน้ำหนักและปฏิวัติตัวเองเสียใหม่ โดยเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น ออกกำลังกายมากขึ้น T25คูณสองกันไปเลยค่ะ ปัจจุบันน้ำหนักจึงมาหยุดอยู่ที่ 80 ก.ก. ภายใน 3 ปี เท่านั้น แต่ไม่ใข่แค่จะลดน้ำหนักแล้วต้องผอมและสวยขึ้นมาทันตาเห็น ท้องแฟ่บ ไชมันไม่มี ไม่คงเหลือสภาพปลากระป๋องปุ้มปุ้ยอีกแล้ว ผิดคาดค่ะถึงน้ำหนักก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีวิธีกำจัดส่วนเกินของชีวิตที่เราแบกไว้มานานอย่างไขมันได้ แต่จะเป็นวิธีไหนขอตัดภาพไปที่การทำศัลยกรรมก่อนนะคะ เดี๋ยวจะรีเทิร์นกลับมาเล่าให้ฟังกันค่ะ
ส่วนเรื่องหน้าตาก็อย่างว่าค่ะ ไม่ได้เป็นคนหน้าตาสวยงามมาตั้งแต่แรกเกิด แต่ก็พอจะเห็นแววความน่ารัก ฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้ง และตาหวานหยาดเยิ้มจากดิฉันกันนะคะ เดี๋ยวจะสาธยายให้ฟังกันค่ะ ว่าจุดเริ่มต้นของการลากกระเป๋าเข้าบ้านมีดหมอของดิฉันเริ่มต้นตั้งแต่ตอนไหน
ลงรูปเพิ่มเติมอีกหน่อยนะคะ อิอิ
เอาล่ะค่ะ เมื่อคิดตรึกตรองอยู่นาน จึงกระซิบไต่ถามสามีสุดหล่อ (ในใจจูน) ว่า ตัวเองเค้าจะบินไปแก้จมูกที่เกาหลี ตัวเองโอเคมั้ย โชคดีมากค่ะ ที่สามีเป็นคนน่ารัก (แม้บางครั้งจะหน้าเหมือนลิงไปหน่อย) ตามใจภรรยาทุกอย่าง แม้จะต้องทุ่มเงินแค่ไหน แต่อยากให้ภรรยามีความสุขและไม่เบียดเบียนใคร ส่งเสริมให้ความฝันของภรรยาได้เป็นจริง จึงจูงมือกันเดินทางไปศัลยกรรมแก้จมูกที่เกาหลีค่ะ เมื่อไปถึง ด้วยมาตรฐานของโรงพยาบาลซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียง และฝีมือของคุณหมอที่ขึ้นชื่อลือชา โด่งดังในเรื่องดั้งโด่ง ดิฉันก็สบายใจไปหนึ่งเปลาะและค่ะ ว่าจมูกตรูไม่เน่าแล้ว หลังจากหมูกพี่กลัดหนองมานาน วิธีการรักษาแก้จมูกของคุณหมอน่าทึ่งมากๆ เพราะใช้วิธีปลูกถ่ายเนื้อเยื่อและกระดูกอ่อนในร่างกายมาเสริมให้จมูกเราได้รูปมากขึ้นค่ะ แทนที่จะใช้ซิลีโคนหรือของที่เป็นสารที่อันตรายต่อร่างกายเรานะคะ ใช้เวลาร่วมวัน ดิฉันก็ออกมาพักฟื้นและได้จมูกที่คืนรูปดูสวยสดงดงามเช่นเดิม แถมไม่ต้องกลัวว่าจะมีหนอนบ่อนไส้มาทำลายอีกมั้ย 3 ปีให้หลังมานี้ จมูกดิชั้นยังหายใจรับออกซิเจนได้ดี เอาจมูกไปถูที่แก้มของคนเรารักได้อย่างปลอดภัย ไม่มีเจ็บ ไม่มีหักทั้งลูกและสามีค่ะ
เอาล่ะสิ เมื่อชีวิตเริ่มหย่อนเท้าเข้าไปในเมืองแห่งการศัลยกรรมแล้ว มาเฟียดั้งโด่งจากไทยก็ไม่ขอหยุดอยู่แค่นั้นค่ะ ไหนก็รักที่จะมาทางนี้แล้ว ก็คงต้องไปให้สุดๆทาง เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้ว ย้อนกลับไปดูหน้าของนางเอกเกาหลีแต่ละคน ยลโฉมของนางฟ้าทั้งหลาย คิมแตฮี ลียองเอ ยุนอึนฮเย หรือ 9 สาว โซยอนชิแด ขวัญใจเหล่าโซวอน แต่ละคนหน้าเรียว เพรียวยิ่งกว่า ไข่ในหินอีกค่ะ พอส่องกระจกมองตัวเองอีกครั้ง เอ...ทำไมหน้าฉันกลมยิ่งกว่าหมีแพนด้าอีก ณ เวลานั้น จมูกของดิฉันก็เรียวคมราวพร้อมจะพุ่งแหลนในโอลิมปิกเกมส์ได้ตลอดเวลา แต่ทว่าหน้ายังกลมดิ๊กๆอยู่ แล้วก็อีกนั่นแหละค่ะ เมื่อสืบเสาะ เจาะเกราะค้นหาไป จึงไปพบกับภาพก่อนศัลย์ของเหล่าสาวเจ้าไอดอลทั้งหลาย ว้ายยยยยยยย! บางท่านยิ่งกว่าจานกระด้งกันอีกนะคะ และนั่นแหละจึงได้ปรึกษากับล่ามสาวจากแดนโสม และหาโรงพยาบาลและคุณหมอที่ขึ้นชื่อในเรื่องทำหน้าจากรูปไข่ห่าน ให้เป็น ไข่หงส์ การผ่าตัดทำหน้าให้เป็น Vshape จึงเกิดขึ้นค่ะ การทำครั้งนี้ใช้นวัตกรรมที่เรียกว่า V3 lifting คือการดูดไขมันบนใบหน้าและร้อยไหมกระชับ เพื่อทำให้ใบหน้าที่เคยแก้มอ้วน คางห้อย เหนียงย้อย กลับคืนสู่สภาพเป็นหน้าหญิงสาวราวเจ้าหญิงได้คืนสู่เหย้าหลังจากเป็นธิดาช้างมานาน การผ่าตัดผ่านพ้นไปด้วยดี ได้หน้าเรียววีเชพถูกใจพี่เป็นอย่างมาก
หลังจากพาชีวิตตัวเองขึ้นมาที่จุดสูงสุดของชีวิตถึงขีดสุดที่ 107 ก.ก. พี่ก็เริ่มส่องกระจกมองตัวเองอีกครั้ง หลังจากที่ผู้คนใกล้ชิดรอบข้างพยายามจะยกกระจกบานใหญ่มาให้ดู แต่พี่กลัวที่หลุดเข้าไปในห้วงแห่งกาลเวลาแห่งอดีตแบบแม่มณีในทวิภพ โชคดีนะคะที่ไมได้ส่องไม่งั้นอาจจะพาตัวเองหลงไปเจอตะพุ่นหญ้าหน้าหนวดแบบพ่อเหมก็ได้ หลังจากพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองผอมลง อดอาหารทรมานร่างกายประท้วงก็แล้ว เล่นกีฬาตีแบดยิ่งกว่าน้องเมย์ รัชนก ชิงแชมป์โลกก็แล้ว ทานยาลดความอ้วนและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่คิดว่าพี่จะต้องผอมแบบวุ้นเส้นให้ได้ แต่พี่ก็ไม่ได้ผอมลงเท่าที่ควร
เห็นเป็นเจ้าแม่ในเรื่องศัลยกรรม (หรือเปล่า) อย่างที่คุณๆเห็นแบบนี้ใช่ว่า จูน จะไม่มีข้อผิดพลาดที่เกิดจากการศัลยกรรมเกิดขึ้นในชีวิตเลยนะคะ จูนเองก็เคยพลาดมาบ้างเหมือนกัน จากการที่ทำหน้าอกและผ่าตัดกระชับต้นแขนของตัวเอง บอกไว้ก่อนว่าที่ไปทำหน้าอกนี่ไม่ได้อยากจะแข่งกับ เอมมี่ แม็กซิม แต่อย่างใดนะคะ และไม่ได้คิดที่อยากจะมีอัลบั้มลับเฉพาะไว้ปลุกใจเสือป่า หรือ ถ่ายปฏิทินแถมเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ทั้งหลายช่วงปลายปี ขี้เกียจไปคุยกับกระทรวงวัฒนธรรม แต่ผลจากการทำดูดไขมัน และร่างกายผอมลง และเป็นคุณแม่ลูกหนึ่งด้วยแล้ว หัวอกคนเป็นแม่ก็ไม่ได้อยากที่ให้ทรวงอกหย่อนคล้อย เมื่ออายุมากแล้วยานเป็นถุงกาแฟแบบนี้นะคะ ซึ่งจริงๆแล้วสามีก็ห้ามเพราะเห็นว่าทำหลายสิ่งหลายอย่างมากไปซะแล้ว ให้เหตุผลที่ออกแนวพระเอกหนังไทยว่า
มาถึงในพาร์ทนี้หวังว่าทุกคนคงจะไม่เบี่อจูนกันไปก่อนนะคะ เพราะครั้งนี้ถือเป็นการทำศัลยกรรมครั้งสุดท้ายและท้ายสุดแล้ว เพราะหลังจากนี้อดีตนางพญาช้างสาร จะกลายร่างเป็นเจ้าหญิงเอลซ่าที่ถึงแม้ว่าร่างจะยังเจ้าเนื้ออยู่บ้างแต่ก็ได้มาถึงจุดที่ตัวเองพอใจและมาไกลเท่านี้ก็ดีเหลือเกินแล้ว การศัลยกรรมในครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะ ในเมื่อลดความอ้วนมาแล้ว หน้าก็เรียวแล้ว นวัตกรรมดีๆอะไรต่างๆก็ได้ลองมาหมดแล้ว และที่สำคัญอายุตัวเองก็เริ่มมากพอแล้ว ริ้วรอยด่างดำบางครั้งก็ยากที่จะลบเลือน หน้าที่เคยกลมก็เริ่มเรียวรีขึ้นมาแต่ทว่า โหนกแก้มนั้นยังไม่ยุบเท่าที่ควร จะทำยังไงต่อไปดีล่ะคะ พี่ไม่รอช้า จัดหานวัตกรรมจากเมืองแห่งความสวยงามเพราะมีดหมอ ทำการเช็คโครงหน้า พบแพทย์และคุณหมอก็แนะนำว่าถ้าอยากหน้าเล็กถาวรมีอยู่วิธีเดียวคือ “ทุบ” ใช่ค่ะ “ทุบ” ฟังดูโหดร้าย แต่ผลลัพธ์ไม่ได้ร้ายอย่างที่คิด จึงตัดสินใจ “ทุบโหนก” ตัวเองทิ้ง ทำ Vline และ V3 lifting เพิ่มเติม เพื่อให้ใบหน้าตัวเองเรียวและเข้ารูปมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยการไปครั้งนี้ เราได้คุณหมอจากโรงพยาบาลอันดับ 1 ในเกาหลี ที่มีชื่อเสียงและมีฝีมือมากๆ ช่วยทำการศัลยกรรมค่ะ บอกไว้ก่อนว่าการทำ lifting ช่วยให้ผิวยกกระชับและลบเลือนริ้วรอยได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ สำหรับผู้ที่เริ่มมีอายุมากขึ้น เรื่องการดูแลผิวและความหย่อนคล้อยเริ่มมีมากขึ้น อาจจะไม่เต่งตึงเรียบเนียนเหมือนแต่ก่อนตอนสาวๆหยาดเยิ้มหยดย้อย สวยหยาดฟ้ามาดิน
ว้า......แอบเศร้าอยู่นิดๆนะคะ เล่ามาถึงวินาทีนี้แล้ว จบแล้วค่ะ บันทึกแห่งการศัลยกรรมของจูนในทุกครั้งของชีวิต ใช่ค่ะการทำศัลยกรรมอาจเสียเงินมาก อาจทำให้บางคนรู้สึกไร้สาระ ถ้าหากคิดว่าเอาไปทำอย่างอื่นได้ แต่จูนของบอกเลยค่ะ จูนเองทำหากินอย่างสุจริตและใช้สมองกับสองมือ ของตัวเองเป็นผู้สร้างมันมาทั้งหมด พ่อแม่ไม่ได้สร้างอะไรให้มากมาย และมีหลายครั้งที่ชีวิตล้มลุกคลุกคลานแต่ชีวิตไม่ย่อท้อต่อโชคชะตาค่ะ ไม่เอาค่ะ ไม่ดราม่านะคะ บางเรื่องพูดไปแล้วมันเศร้า เล่าไปบางครั้งเราก็สุดแสนจะsad เสียน้ำตาไปไม่รู้กี่ครั้งกับการทำศัลยกรรม แต่เสียอะไรก็ไม่เท่าเสียเงินค่ะ จูนบอกเลยว่าก่อนจะแข็งแกร่งและผ่านอะไรแบบนี้ ก็โดนมาเยอะ เจ็บมาเยอะ แต่โชคดีมากๆที่มีครอบครัวที่อบอุ่น มีสามีที่เข้าใจและช่วยกันทำมาหากิน มีลูกชายที่แม้จะซนจะดื้อไปบ้าง แต่ก็ไม่เคยทำให้แม่ท้อแท้มากมาย
ฝากถึงสาวๆทุกคนนะคะ คุณเองก็เป็นแบบจูนได้ค่ะ ขอเพียงแค่มีความเชื่อต่อสิ่งที่คุณจะทำต่อไป จูนเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนอยากจะสวย แต่คงไม่ต้องถึงขนาดไปกู้หนี้ยืมสินมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ อันนี้จูนไม่สนับสนุนนะคะ แต่ถ้าผู้ใดมีความพร้อมในด้านต่างๆ เหลือเฟือในเรื่องเผื่อแผ่ให้ผู้อี่นได้บ้าง แบ่งเบาได้ผู้อื่นได้บ้างแล้ว อย่าลืมตอบสนองความต้องการของตัวเองบ้างนะคะ อย่าลืมว่าความฝันของเรามีค่าเหมือนกัน ที่จะต้องการทำฝันของเราให้เป็นจริง อย่าทิ้งฝันไว้ให้ไกลห่างตัว ถ้าคุณอยากสวย คุณต้องทำให้เต็มที่ ชีวิตเกิดมาครั้งเดียวตายครั้งเดียว ไม่รู้ชาติหน้าจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์หรือเปล่า เพราะฉะนั้น เกิดครั้งเดียวก็เจ็บครั้งเดียว เจ็บแต่จบ สวยครบเครื่อง
เพื่อนๆคนไหนที่ผ่านแว่บๆเข้ามาอ่านมาทักทายกัน จำจูนได้ ก็ทักทายกันได้นะคะ หรืออยากจะแชร์ประสบการณ์เรื่องการศัลยกรรมกับจูน จูนก็ยินดีต้อนรับเสมอค่ะ หรือถ้าใครอยากรู้จักจูนเพิ่มเติม add facebook เข้ามาเป็นเพื่อกันได้ที่ https://www.facebook.com/junesurgery เข้ามาเยี่ยมเยียนเป็นเพื่อนกันนะคะ เพราะเราเป็นเพื่อนกันค่ะ ปรารถนาดีเป็นสิ่งสำคัญ ขอให้สวยใสไร้ที่ติกันทุกท่าน ไปแล้วค่ะ บรั้ยยยยยยยยยยBye