ความขาดแคลนไม่ใช่ข้ออ้าง!! ลูกกำพร้าพ่อแม่ตาย! ดิ้นรนส่งตัวเองเรียนจน เป็นว่าที่ ดร.

หน้าแรกTeeNee อาหารสมอง อาหารสมอง ความขาดแคลนไม่ใช่ข้ออ้าง!! ลูกกำพร้าพ่อแม่ตาย! ดิ้นรนส่งตัวเองเรียนจน เป็นว่าที่ ดร.

ความขาดแคลนไม่ใช่ข้ออ้าง!! ลูกกำพร้าพ่อแม่ตาย! ดิ้นรนส่งตัวเองเรียนจน เป็นว่าที่ ดร.

คนที่ว่าชีวิตคุณลำบากยากแค้นอยู่แล้ว ถ้าหากได้รู้เรื่องราวของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ดิ้นรนแบบสุดโต่งกว่าจะมามีวันนี้ คุณจะรู้สึกอึ้งและทึ่งเลยว่า ปัญหาหรืออุปสรรคของคุณนั้นมันช่างเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเรื่องของ นกยูง กุลภัทร กมล เฟสบุค Kunlapat Nokyoong Kamol เด็กกำพร้าพ่อแม่ตายตั้งแต่ยังเด็กๆ แต่ปัจจุบันเธอกำลังจะเรียนจบปริญญาเอกสาขาการจัดการสาธารณะ เป็นดอกเตอร์ด้วยสมองและสองแขนของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งที่ดิ้นรนกัดก้อนเกลือกินส่งเสียตัวเองเรียนมาได้ถึงขนาดนี้ พูดเลยอยากปรบมือให้รัวๆกับสาวน้อยคนนี้ ไม่ใช่แค่นั้นด้วยวัยยังไม่ถึง 30 แต่ความมุ่งมั่น นกยูง ยังถีบตัวเองขยันหาเงินทุกอย่างที่ไม่ได้คดโกงใคร เจ้งบ้าง เจ็บบ้าง กำไรบ้าง ถูๆไถๆ แต่เพราะความที่กัดไม่ปล่อยทำให้ปัจจุบัน ลูกกำพร้าคนนี้กลายเป็นเจ้าของธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพและความงามขาใหญ่ที่ชลบุรี มีพนักงานหลายสิบคน

“ตอนเด็กๆ นั้นคุณพ่อคุณแม่เสียตั้งแต่เรายังเด็กๆ พ่อประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตตั้งแต่ที่นกยูงอายุ 6 ขวบแล้วพอมาตอน ม. 5 คุณแม่ก็มาด่วนจากไป ด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตกกะทันหัน นกยูง ก็เหมือนเหลือตัวเดียว มีเพียงยายที่ดูแลเลี้ยงดูนกยูงมา ก็ต้องดูแลตัวเองบริหารจัดการตัวเอง โชคดีหน่อยที่พี่ชายมาช่วยให้คำปรึกษาหนูบ้าง”

ถึงวัยเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ลำบากสุดๆ อย่าหวังได้เที่ยวสนุกตามประสาวัยรุ่นมักม่วนเลย เพราะจะซื้อข้าวกินแต่ละมื้อเรียกได้ว่าเขียมแล้วเขียมอีก “พอเข้ามหา’ลัย ที่มอบูรพา มีทุนจำกัดเดือนละ 4500 รวมค่าหอค่ากินอยู่ทุกอย่าง ต้องอยู่ให้ได้ ไม่ได้ก็ต้องได้เพราะทางบ้านไม่มีให้อีกแล้ว เด็กอย่างเราจะทำยังไงตอนนั้นคิดแค่ว่าใช้เงินประหยัดๆก็คงรอด แต่เอาตรงๆเลยนะ มันไม่รอด เจอค่าใช้จ่ายจุกจิกจิปาฐะ นกยูงว่าเราประหยัดสุดๆแล้วนะแต่สุดท้ายไม่รอด ทางออกคือยอมอดตายหรือลุกขึ้นสู้ ถ้าเราคิดว่าเหลือวัน 100 กินได้ลำบากช่วงปี 47-48 ที่เราเรียนหนังสือค่าครองชีพก็ไม่ต่างจากตอนนี้ นกยูง จึงคิดว่าเราต้องหารายได้เพิ่มเองแล้วหล่ะ”

บากหน้าฝ่าความอาย หาของมาขายอย่าอายทำกินอย่าหมิ่นเงินน้อย ยึดหลักตรงนี้ใส่หัวสมอง นกยูง ขายทุกสิ่งที่ได้เงินมาเลี้ยงชีวิตตัวเองไม่ให้ลำบาก “ต้องหางานทำ!! ต้องหารายได้ในระหว่างเรียน นกยูงบอกตัวเองอย่างนี้ รู้มั้ยคะ งานที่เริ่มง่ายสุดของนักศึกษาต้นทุนต่ำอย่างนกยูงคืองานขายของ เอาของมือสอง เอาของที่เราไม่ใช้แล้วหรือที่แบบไปซื้อมาถูกๆมาขายต่อ เพราะเรารู้เลยว่าเงิน 4 พันกว่าบาท อยู่ไม่ได้แน่ๆ เพราะหักค่าหอออกไป นกยูง เหลือเงินใช้วันละไม่ถึง 100 เลยต้องหางานพิเศษทำ ทำหมดแหละในระหว่างที่เรียน ทั้งไปเป็นลูกจ้างร้านขายเสื้อผ้า เอาของเก่าที่ไม่ได้ใช้มาขาย ตอนนั้นดีใจมาก มีเงินเก็บอยู่ 2000 ถือว่าเยอะเลยนะ เลยเอาไปทำทุนต่อด้วยการไปซื้อของกิ๊ฟซ็อปมาขาย แต่ก็ขายไม่ค่อยดี เรียกได้ว่าหากินเอง ส่งเสียตัวเอง ถึงเราจะทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย แต่ผลการเรียนก็ไม่ได้แย่ พอเริ่มมีประสบการณ์ก็เริ่มขยับขยาย มีตลาดแถวห้างแหลมทอง นกยูงก็ไปหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านขายของ ต้องทำเองหมด แบกหาม งานหนักเหนื่อยแค่ไหน เราก็ต้องสู้เพราะเราไม่มีใคร กายอาจไม่แกร่งเท่าผู้ชายแต่ลูกกำพร้าอย่างนกยูงหัวใจแกร่งกว่าหินผาซะอีกค่ะ”

ไม่เคยทิ้งการเรียนแม้จะต้องดิ้นรน นกยูง ใฝ่ดีรักการเรียนแม้จะไม่ได้เกียรตินิยมตามที่ฝันไว้ แต่พอจบ ปริญญาตรีมาก็มุ่งมั่นเก็บหอมรอมริบเอามาสมัครต่อปริญญาโท “จบมาก็หางานประจำทำ แล้วทำเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ หาเงินทุกช่องทาง เพื่อนๆรอบตัวเขาก็แซวว่า เรานี่ขยันเนอะ อยู่นิ่งๆไม่เป็น ก็อยากตอบกลับนะว่า ถ้าไม่ขยันก็อดตายนะซิ ชีวิตเหมือนตัวคนเดียว ถ้าไม่ยืนหยัดด้วยตัวเอง ยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง จะไปพึ่งใคร แต่สิ่งเดียวที่ นกยูงไม่เคยทิ้งคือการเรียน หนูจบ ป.ตรี ก็หาเงินค่าเทอมมาเรียนต่อ ในระดับปริญญาโท ความภูมิใจที่มีแม้ว่าวันที่เราสำเร็จไม่มีพ่อแม่เคียงข้างกาย แต่พ่อแม่เขาอยู่ในใจเราเสมอนะ ถึงลูกคนนี้จะตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ไม่ทัน แต่นกยูง บอกกับพ่อแม่บนสวรรค์ว่าจะเป็นคนดี ตั้งใจกับชีวิต มุ่งมั่นกับเป้าหมาย ช่วยเหลือผู้คน ซึ่งการเรียนเราต้องไปถึงจุดสูงสุด นั่นคือการต่อปริญญาเอก โดย นกยูงเลือกเรียนต่อในสาขา ปริญญาเอกปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาการจัดการสาธารณะ(Ph.D.PM) ตอนนี้เหลืออีกไม่กี่บทในการสอบดุษฎีนิพนธ์ก็จะจบแล้วค่ะ”

ประวัติการศึกษา

พ.ศ. 2547– 2550 BBA บริหารธุรกิจบัณฑิต (การจัดการการท่องเที่ยว)

มหาวิทยาลัยบูรพา

พ.ศ. 2555 MBA บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (บริหารธุรกิจ)

วิทยาลัยพาณิชยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

ปัจจุบัน กำลังทำวิจัยเกี่ยวกับการค้าชายแดน ไทย-ลาว อยู่ในระหว่างลงเก็บข้อมูลภาคสนาม ได้ขึ้นชื่อว่า Ph.D (candidate) ด้านบริหารธุรกิจ ว่าที่ ดร.คนใหม่

เปิดใจกับการมาเป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่โตซึ่งมันมาไกลมากสำหรับเด็กกำพร้าแต่ด้วยหัวใจที่ยิ่งใหญ่ทำให้ นกยูง ก้าวผ่านช่วงเวลาทดสอบชีวิต “ถือว่านกยูงอยากแชร์และแบ่งปันการต่อสู้ชีวิตของเราแล้วกันนะค่ะ จำได้ว่าเมื่อ 7 ปีที่แล้วร้าน100 B Shop สมัยก่อนเป็นห้องเล็กๆ ปีแรกๆ นกยูงเปิดร้านเอง 12.00-24.00 เปิดร้านแค่ช่วงเช้าไปเอาของ อยู่ร้านเองคนเดียวไม่มีลูกน้องเลย ปีแรกขนาดตังค์ซื้อแอร์สักตัวยังไม่มีเลยค่ะ ปีสองปีแรกก็เป็นแบบนี้มีลูกค้าเข้าบ้างไม่เข้าบ้างก็สู้ ไม่ท้อ วิ่งแจกใบปลิว ติดป้ายในมหา’ลัย ทำให้คนรู้จัก เราอาศัยเป็นแม่ค้าอัธยาศัยดีใส่ใจลูกค้า ยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่นานก็มีลูกค้าประจำแบบบอกปากต่อปาก”

“กว่าจะมาได้ในปัจจุบัน เส้นทางแม่ค้า11ปีตั้งแต่อายุ18 ที่ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆทุนก็มีน้อย ค่อยๆเก็บหอมรอมริบจากสมัยขายตลาดนัดตอน18 จนเรียนจบ เจ๊งธุรกิจต่างๆมากมายกว่าจะเปิดร้าน100 B Shop สูญเงินมาไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบก็ไม่ท้อ ปัจจุบันเป็นร้าน100 B Shop มี 2คูหาสวยงาม มีทีมขาย online ทีมขายหน้าร้าน และผู้จัดการร้าน และระหว่างนี้เมื่อ4ปีก่อนขยายกิจการไปเทรนเวชสำอางในแบรนด์ senses skincare และเมื่อต้นปี นกยูงก็เปิดตัวธุรกิจใหม่อาหารเสริมลดน้ำหนักB24 อีกไม่นานประมาณปลายปีจะปรับร้าน 100shop ธรรมดา ให้เป็น 100shop fashion & beauty ขายส่งเสื้อผ้าแฟชั่นราคาเดียว และ เปิดโซนขายส่งเครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิวและอาหารเสริม อดใจรอกันนะคะลูกค้าทุกท่าน งานนี้เทสฟรี สินค้านำเข้า ราคาย่อมเยาว์เหมือนเดิมค่ะ ถ้านกยูงเจ๊งแล้วไม่ลุกขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็คงไม่มีวันนี้ ฉะนั้นเจ้งแล้วไม่ท้อลุกขึ้นมาลุยต่อ นกยูงเชื่อมันต้องมีวันของเราค่ะ”