อย่าริคบคนพาล : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
อย่าริคบคนพาล : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
พระอาจารย์เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
...
เมื่อมาเกิดเป็นคนแล้ว หากว่าพลั้งเผลอไปคบกับคนพาลเข้า
คนพาลก็ชักจูงให้ไปทำความชั่วมันก็ไปทำกับเขาได้เหมือนกันนะ
ชีวิตของปุถุชนเนี่ยนั่นล่ะมันมีเชื้อของบาปอยู่
เราจะเห็นกันได้น่ะคนเกิดมาในโลกนี้ ลองสังเกตดู
บางคนเกิดมาในตระกูลสูง เป็นคนดิบคนดีแต่ทีแรกน่ะ
เอ้าพอไปได้สมาคมกับคนพาลเข้า คนพาลก็ชักจูงให้กระทำความชั่ว
ด้วยกาย วาจา ใจ มีฆ่าสัตว์เป็นต้นเข้าไป
อย่างนี้แล้วตายแล้วก็ไม่ได้เกิดเป็นคนอีกแล้ว
บาปกรรมมันก็ฉุดคร่าไปสู่นรกอบายภูมิต่อไป
นี่ล่ะเพราะฉะนั้นจึงว่า อันโลกียธรรมนี่น่ะมันเป็น “กุปฺปธมฺโม”
เป็นธรรมที่กำเริบได้อยู่ จึงไม่ควรนิ่งนอนใจ
ควรยินดีคบหาสมาคมกับนักปราชญ์บัณฑิตเสมอไป
อย่าไปริคบหาสมาคมกับคนพาล อันคนพาลนั่นน่ะ
เป็นคนที่ไม่มีความปรารถนาดีต่อตัวเองและผู้อื่น
ไปศึกษาแต่วิชาความรู้อันที่ท่านเรียกว่า ติรัจฉานวิชา
วิชาอย่างต่ำนั่นแหละ
เช่นบางคนก็ไปศึกษาวิชาเวทย์มนต์กลคาถา เสกๆเป่าๆ อะไรหมู่นี้นะ
หรือบางคนก็ไปเรียนวิชาหาทรัพย์ในดินสินในน้ำ
บางคนก็ไปเที่ยวหาไอ้ที่ท่านเรียกว่า เหล็กไหล
เงินทองมีเท่าไรก็ใช้จ่ายไปในการแสวงหาเหล็กไหล
เพราะเข้าใจว่า เมื่อได้เหล็กไหลมาแล้วก็จะเอามาขาย
เอาเงินเป็นหลายล้าน จะรวยทันทีเลย
ทีนี้เหล็กไหลไม่ทราบเป็นยังไงน่ะ อยู่ที่ไหน
ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็นเลย เพียงแต่เล่าสืบๆต่อกันมาเฉยๆ
แล้วก็ไปเชื่อเอาว่ามีจริง เงินทองมีเท่าไรก็ลงทุนแสวงหากันไป
เนี่ยเรียกว่า ติรัจฉานวิชา บางคนก็ถึงกับลงจนก็มี
ฉะนั้นจึงได้ขอพูดไว้ในที่นี้นะ ผู้ใดได้ยินได้ฟังแล้ว
ก็อย่าไปหลงใหล อย่าไปศึกษาวิชาความรู้ต่างๆเหล่านั้น
เช่น วิชาอาคมใส่หนังบังควันเบาะ ยิงไม่เข้า ยิงไม่ออกฟันไม่เข้า
แทงไม่เข้าอะไรหมู่นี้ อย่าไปสนใจมันเลย
นั่นแหละมันหลอกล่อให้คนเราน่ะตายโหงน่ะ
ก็ไปเรียนคาถาอาคมมาแล้วก็ว่าตนอยู่คงกระพัน ไม่กลัวใคร
ใครมาล่วงเกินนิดๆหน่อยๆไม่ยอมให้อภัย
แสดงท่าทางใช้อำนาจบาตรใหญ่กับเขาอย่างนี้นะ
นั่นล่ะมันใกล้ต่ออันตรายแห่งชีวิต บุคคลผู้ที่เดินทางผิด
ผู้ศึกษาความรู้ผิด เห็นผิด ย่อมนำชีวิตให้จมลง
ไปสู่ห้วงแห่งความทุกข์แน่นอนทีเดียว
ทางที่ดีแล้วมันต้องศึกษาวิชาความรู้
ที่มันจะเป็นประโยชน์แก่ชีวิตของตนและคนอื่น
ซึ่งพระบรมศาสดาทรงแนะนำสั่งสอนไว้
เช่น การกสิกรรม พาณิชยกรรม หมู่นี้
การเป็นช่างต่างๆ หมู่นี้ ทำราชการงานเมือง
อันวิชาความรู้หมู่นี้มันเป็นความรู้ประดับโลกมาแต่ไหนแต่ไร
ทำโลกนี้ให้เจริญขึ้นก็เพราะอาศัยศิลปวิทยาหมู่นี้เองแหละ
บุคคลศึกษาเล่าเรียนค้นคว้าไม่หยุดยั้ง
มันก็เลยเกิดความรู้ความฉลาดขึ้น
สามารถพัฒนาโลกนี้ให้เจริญรุ่งเรืองได้
ดังในสมัยปัจจุบันน่ะที่คนเราได้ศึกษาศิลปะวิทยาศาสตร์แขนงต่างๆ
แล้วได้ความรู้ความเข้าใจในการผลิตเครื่องไม้เครื่องมือ
เครื่องอำนวยความสะดวกสบายให้ เอามาจำหน่าย
ขายให้ผู้มีเงินมีทองซื้อไปใช้สอยอำนวยความสะดวกให้
หมู่นี้มันล้วนเกิดจากการศึกษาเล่าเรียนศิลปวิทยาความรู้ดังกล่าวมานี้แหละ
...
ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
"ควรปฏิบัติตนให้เป็นคนมักน้อยสันโดษ"
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!