เรื่องที่ 2 คนโดยทั่วไปมักจะมีวิธีลดหย่อนภาษีอย่างชอบธรรม และวิธีการส่วนใหญ่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น การซื้อประกัน การซื้อกองทุนต่าง ๆ เพื่อไปลดหย่อนภาษี หรือแม้แต่บริษัทองค์กรใหญ่ ๆ ก็มักจะนำเงินบางส่วนออกมาช่วยบริจาคตามองค์กรการกุศลเพื่อนำไปลดหย่อนภาษีได้เป็นอย่างดี ซึ่งไม่ได้บอกว่าผิด แต่เป็นกระบวนการที่ถูกต้องในการลดการจ่ายภาษีเท่านั้นเอง คนไทยไม่รู้ มักจะไม่เข้าใจ และไม่เคยหาคำตอบว่าทำไม ต้องจ่ายภาษีแพง ๆ ทุกปี
เรื่องที่ 3 ระบบการสอนเรื่องการเงิน การออม ของการศึกษาไทย นั้น ไม่มีและยังไม่มีวี่แวว จะถูกบรรจุเข้าไว้ในระบบการศึกษาไทยเลย ทั้ง ๆ ที่เป็นส่วนที่สำคัญสำหรับเด็กไทย และอนาคตของเยาวชนไทยด้วยซ้ำ !! น่าเศร้าตรงที่ เด็กไทยที่ผ่าน ๆ มาต้องโตขึ้นมา โดยเรียนรู้เรื่องการเงินเอาเองตอนเป็นผู้ใหญ่ และบางครั้งก็ไม่ทันกับสถานการณ์ เพราะบางคนเป็นหนี้หัวโต การเงินติดลบตัวแดง แทบล้มละลาย ไม่สามารถทำอะไรต่อไปได้ เพราะเพิ่งจะมาเข้าใจตอนเป็นผู้ใหญ่ และต้องใช้เวลาในการจัดการหนี้สินให้จบ ทำไมการศึกษาไทยบ้านเราไม่บรรจุสิ่งเหล่านี้ไปไว้ในบทเรียนเพื่อสอนให้เด็ก ๆ ของเรา เติบโตขึ้นมาพร้อมกับความรู้ทางการเงิน ไม่ใช่แค่เรียนเพียงบัญชี อย่างเดียว !!!
เรื่องที่ 4 เงินออม เป็น "ต้นน้ำ" ที่สำคัญที่จะขาดไม่ได้เลยสำหรับการมีความมั่งคั่งในด้านการเงินต่อไปในอนาคต เงินออมเกิดขึ้นได้โดย การมี "วินัย " อย่าง " สม่ำเสมอ " .... กับพฤติกรรมการใช้เงิน กล่าวคือ ใช้จ่ายเงินเฉพาะเรื่องที่จำเป็น รู้จักประหยัด ไม่สุรุ่ยสุร่ายจ่ายเงินอย่างโงเขลาในเรื่องต่าง ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะต้องทำเป็นนิสัย เมื่อมีเงินออมแล้ว นำไปลงทุนต่อ ทำให้เกิดการ ออกลูกออกหลาน ของเงินออม และนำเงินที่ได้ ไปลงทุนต่อให้ให้เกิดการพอกพูนของความมั่งคั่งต่อไปเรื่อย ๆ
เรื่องที่ 5 ความมั่งคั่ง ควรมีก่อน ความมั่นคง ... โดยพฤติกรรมส่วนใหญ่ของคนไทย ชอบที่จะมีความมั่นคงก่อน ความมั่งคั่ง นิสัยคนไทยเราชอบอะไรที่สะดวก สบาย จ่ายเงินซื้อความมั่นคงให้ตัวเองก่อนเพราะคิดว่านี้คือรางวัลของการทำงานหนัก เช่น ซื้อบ้าน มือถือใหม่ ๆ รถหรู ๆ ซื้อสิ่งของแพง ๆ หรือแม้แต่เลือกที่จะผ่อนจ่ายสบายๆ ไม่มีดอกเบี้ย เพื่อให้ตัวเองครอบครอง สมบัติ สิ่งของ ที่บางครั้งไม่ได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวเอง ... ไม่ได้บอกว่าผิดถ้ารู้จักการบริหารเงินเป็น แต่บางคนเลือกที่จะไม่ ออมเงินไว้ก่อน เพื่อความสร้างมั่งคั่ง แล้วควรจะมีอิสระในการซื้อ ความมั่นคงทีหลัง ....
เรื่องที่ 6 บัตรเครดิต เป็นเครื่องมือทางการเงินของคนที่รู้จักใช้มัน ให้กลายเป็น ทาสที่ดีของการบริหารเงิน แต่สำหรับคนที่ไม่รู้จักการรใช้บัตรเครดิต มันจะกลายเป็นปีศาจที่ทำให้คนใช้กลายเป็น " ทาสดอกเบี้ย" มันทันที เพราะดอกเบี้ยจะเป็นตราบาปที่เกาะติดผู้นั้นไปยาวนาน กว่าจะใช้หนี้ได้หมด อาจจะทำให้ผู้ใช้บัตรเครดิตบางคน กลัว และขยะแขยง " บัตรเครดิต " ไปอีกนาน แสนนาน บางคนถึงกับหักหรือตัดบัตรเครดิตให้เสียไปเลย เพื่อไม่ต้องมีโอกาสได้ใช้มันอีก นั้นอาจจะไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ดีนัก เพราะอย่างที่บอกว่า ถ้าใช้บัตรเครดิตให้ถูกวิธี มันจะกลายเป็น " เครื่องมือ " ทางการเงินที่ดีอันหนึ่ง
เรื่องที่ 7 เราต้องการเงิน เพื่อสำหรับการใช้จ่ายสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต และเราก็ควรหาหนทางเพื่อให้ได้มันมาอย่างถูกต้อง ไม่ทำร้ายหรือรบกวนคนอื่น แต่เงินโดยตัวมันเอง " ไร้คุณค่า" มันคือสิ่งสมมติให้มีมูลค่าในการแลกเปลี่ยนกับสิ่งอื่น ๆ คุณค่าของเงินเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเราได้ใช้เงินในการแลกเปลี่ยนกับสื่งอื่น ๆ เรื่องนี้สำคัญมาก ก็เพราะว่าคนมากมายไม่เข้าใจ ว่าจริง ๆ แล้วพวกเขาต้องการมันมากแค่ไหน ดังนั้นควรมองว่า เงินเป็นเครื่องมือเพื่อให้ได้สิ่งที่คุณต้องการ ( ในสิ่งที่ดี ) แต่ไม่ใช่เป้าหมายโดยตัวมันเอง ... เพราะหากมองเงินเป็นเป้าหมายใหญ่ในชีวิต คุณจะทำทุกอย่างให้ได้มันมามากที่สุด แล้วก็ไม่เคยพอ ซะที
เรื่องที่ 8 สถาบันการเงินทั้งหลายของไทยเรา มักจะมีเงื่อนไขที่เอาเปรียบเสมอกับลูกค้า โดยกำหนดสัญญาค่อนข้างเอาแต่ได้ไปหน่อยทำให้ ลูกค้าที่ใช้บริการซึ่งไม่เข้าใจ " ภาษาการเงิน" ที่ระบุไว้ในสัญญาค่อนข้างเสียเปรียบ... ทำให้เวลามีปัญหา มักจะตกเป็นรองเสมอกับ ดังนั้น ก่อนทำสัญญาซื้อขาย ขอสินเชื่อ ซื้อประกัน หรือทำสัญญาจำนอง แม้แต่ทำบัตรเครดิตกับสถาบันการเงินทุกที่ ต้องอ่านและเข้าใจในเงื่อนไขให้ดีเสมอ อย่าประมาท เพราะท่านจะโดนเงื่อนไขที่บอกว่า " ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเงื่อนไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า" หรือ เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด หรือแม้แต่ข้อความที่ระบุให้ผู้ลงนาม ยินยอมรับรู้ และให้ไปเป็นไปตามเงื่อนไขในสัญญานั้นทุกประการ จงระวังให้ดี !!!!!
เรื่องที่ 9 ค่าของเงินลดลงเรื่อย ๆ เงินเฟ้อมีอยู่จริง แม้มองไม่เห็นด้วยสายตา แต่สัมผัสได้เสมอ มาทุกยุค ทุกสมัย ไม่ต้องค้นหาคำตอบว่าทำไม หรือจะป้องกันยังไง ทางเดียวเท่านั้นคือ เอาชนะเงินเฟ้อด้วยการลงทุน และออมเงินเก็บสำรองไว้สำหรับเรื่อง "ฉุกเฉิน" ให้เพียงพอ ... ค่าครองชีพในอนาคตสูงกว่านี้แน่นอน สังเกตจาก ราคาข้าวแกงทุกวันนี้ ราคา 20-30 บาท หาแทบไม่ได้แล้ว หรือแม้แต่ทุกอย่างเวลามันขึ้น มันขึ้นยกแผง อาหาร ค่าพลังงาน ค่าเดินทาง ค่าทางด่วน ค่ายารักษาโรค ราคากระดาษ ราคาวัตถุดิบ
เรื่องที่ 10 สถาบันการเงินในปัจจุบันทั้งในระบบและนอกระบบ ส่งเสริมให้คนไทยสร้างหนี้เพิ่มขึ้นในหลายรูปแบบ โดยเฉพาะหนี้สินสำหรับการบริโภคผ่านบัตรเครดิตและสินค้าเงินผ่อนทั้งหลาย โดยเฉพาะ 0% ( ไม่ได้บอกว่าไม่ดี มันขึ้นอยู่กับคนใช้สินเชื่อมากกว่า ว่ามีวินัยแค่ไหน ) ซึ่งต้องเข้าใจว่าหนี้สินเหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้คนมีรายได้เพิ่มหรือมีความสามารถในการชำระหนี้เพิ่มขึ้นในอนาคต บัตรเครดิตสามารถผ่อนมือถือ ค่าสมาชิกฟิตเนส ค่าเทอมการศึกษา ผ่อนทองคำ ผ่อนอะไรก็ได้ที่ เป็นการใช้จ่ายได้แทบทุกอย่าง !!! ปัญหาหนี้สินของภาคประชาชนส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากความไม่เข้าใจเรื่องเงินของคนไทยและปัญหาเหล่านี้เป็นต้นตอที่สำคัญของปัญหาความเลื่อมล้ำ และบั่นทอนให้สังคมไทยอ่อนแอลงเรื่อย ๆ ....