บริจาคโลหิต มีข้อดีอย่างไรบ้าง มาดูกัน …

ข้อดีของการบริจาคโลหิต
การบริจาคโลหิต คือ การเก็บโลหิตจากผู้มีความประสงค์จะบริจาค แล้วนำโลหิตดังกล่าว ผ่านกระบวนการคัดกรอง หากมีคุณสมบัติที่ดีจะถูกนำไปเก็บใน ธนาคารโลหิต หรือส่งไปยังโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อนำออกมาใช้ในยามฉุกเฉิน

บริจาคโลหิต มีข้อดีอย่างไรบ้าง มาดูกัน …

การบริจาคโลหิต สามารถทำได้ทุกๆ 3 - 4 เดือน ตามความเหมาะสมของสภาพร่างกายของบุคคลที่จะบริจาค ซึ่งผู้บริจาคจะต้องมีคุณสมบัติ ประกอบกับสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ซึ่งมีหน่วยเคลื่อนที่บริการในการรับบริจาคโลหิต หรือสามารถบริจาคได้ที่ศูนย์รับบริจาคประจำจังหวัด ของสภากาชาดไทย

การบริจาคโลหิต เป็นสิ่งที่ดีนะคะ หลายๆคนคงเคยบริจาคกันมาบ้างเลย คงจะได้อิ่มบุญกันมากเลยกับการที่ได้เป็นผู้ให้กับคนอื่น วันนี้จะมาพูดถึงข้อดีของการบริจาคโลหิตค่ะว่ามีผลดีอย่างไรต่อเราผู้บริจาคกัน

คุณสมบัติของผู้บริจาคโลหิต คือ
- อายุ 17-60 ปี หากอายุต่ำกว่า 16 ปี ต้องมีหนังสือยินยอมจากผู้ปกครอง - น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 45 กิโลกรัม
- ควรรับประทานอาหารก่อนบริจาคเลือด และต้องนอนหลับอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
- ไม่อยู่ระหว่างกินยาปฏิชีวนะ และไม่อยู่ภายใน 72 ชั่วโมงหลังการถอนฟัน รวมถึงไม่มีแผลสด แผลติดเชื้อตามร่างกาย
- ไม่มีโรคที่อาจถ่ายทอดไปยังผู้ป่วย
- สำหรับผู้หญิงไม่ควรเป็นช่วงที่มีประจำเดือน เพราะจะทำให้เสียเลือดซ้ำซ้อน
- ไม่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร เพราะน้ำนมผลิตมาจากเลือก หากบริจาคเลือดอาจทำให้น้ำหมดลดน้อยลง
จากคุณสมบัติที่กำหนดไว้ก็เพื่อให้ได้เลือดที่มีคุณภาพและปลอดภัยมาใช้กับผู้ป่วยและเป็นการห่วงใยสุขภาพผู้บริจาคเลือดด้วยค่ะ เพราะถ้าผู้บริจาคเลือดร่างกายไม่พร้อมแล้วยังจะมาบริจาคเลือดอีก คนที่แย่อาจเป็นตัวเองก็ได้ค่ะ ตัวอย่างศิลปินดาราที่ทำเป็นแบบอย่างก็มีหลายท่านนะคะ มาดูกันว่าเขาภูมิใจกันแค่ไหนกับการบริจาคเลือด
ศิลปินมาบริจาคเลือด หน้าตาอิ่มสุขทุกคน

ข้อดีข้อที่ 1 ทำให้สุขภาพแข็งแรง

หลายๆคนคงสงสัยว่า ว่าการบริจาคเลือด เป็นการเอาเลือดออกจากตัวแล้วร่างกายจะแข็งแรงขึ้นได้อย่างไร จริงๆแล้ว เลือดที่บริจาคออกไปเป็นเลือดส่วนเกินของร่างกายค่ะ หรือประมาณ 7% ของปริมาณเลือดทั้งหมดในร่างกาย โดยก่อนจะบริจาคจะมีการพิจารณาจากน้ำหนักตัวของผู้ให้บริจาคก่อน ดังนั้นเลือดที่เสียไปจะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ตรงกันข้ามกลับกระตุ้นให้ไขกระดูกผลิตเม็ดโลหิตใหม่ขึ้นมาแทน ระบบไหลเวียนของเลือดจะดีขึ้น ทำให้ร่างกายแข็งแรมตามมา แต่อย่าลืมว่าบริจาคเสร็จไม่ได้แข็งแรงทันทีถึงขนาดออกไปเตะบอลได้นะคะ ของเหล่านี้ต้องใช้เวลาซักเล็กน้อย ที่สำคัญเมื่อบริจาคเสร็จแล้ว น้องๆ ควรนั่งพักและทานของว่างที่ทางเจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้ ให้ร่างกายปรับสภาพน้ำในร่างกายได้ก่อน แล้วค่อยเดินทางกลับนะคะ


ข้อดีข้อที่ 2 หุ่นดี เพรียวลม ผิวเปล่งปลั่ง

มีความเชื่อผิดๆ กันอยู่อย่างนึงว่าการบริจาคเลือดจะทำให้อ้วนขึ้น ทำให้สาวๆ ไม่ค่อยกล้าบริจาค แต่จากข้อมูลของ สสวท.ได้ออกมาเปิดเผยว่าเป็นความเชื่อที่ผิด การบริจาคเลือดไม่ได้ทำให้อ้วน แต่กลับทำให้ผู้บริจาคมีรูปร่างที่ดีขึ้นด้วยซ้ำไป นอกจากนี้เลือดใหม่ที่ถูกผลิตขึ้นรวมทั้งการไหลเวียนของเลือดที่ดีขึ้น จะช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล และยังช่วยให้หน้าใสขึ้นด้วยนะคะ ไม่ต้องกินวิตามินเสริม น้องๆ ก็สามารถมีผิวพรรณสดใสได้เหมือนกันนะ
ข้อดีข้อที่ 3 ลดความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งได้ด้วย

สถาบันคาโรลินสกา สตอคโฮล์ม สวีเดน ได้ศึกษาข้อมูลจากผู้บริจาคเลือดสวีเดนและเดนมาร์ค พบว่า การบริจาคเลือดช่วยลดความเสี่ยงจากมะเร็งได้หลายชนิดเลยค่ะ เช่น มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งกระเพาะอาหาร ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมว่าในรายที่มีธาตุเหล็กในร่างกายมากเกินไป มีผลต่อการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตันหรือมะเร็งบางชนิด การบริจาคเลือดจะช่วยลดปริมาณธาตุเหล็กส่วนเกินเหล่านั้นออกไปได้ และที่เซอร์ไพร์สสุดๆ เลย ก็คือ ยิ่งเราบริจาคเลือดบ่อยเท่าไหร่ ความเสี่ยงโรคมะเร็งจะลดลงมากเท่านั้น โดยเฉพาะในเพศชายค่ะ แต่ความถี่ของการบริจาคเลือดระบุไว้ว่า เพศชายสามารถบริจาคได้ทุก 3 เดือน และเพศหญิงทุก 6 เดือน ดังนั้นอย่ากลัวมะเร็งจนวิ่งบริจาคทุกเดือนนะคะ ร่างกายจะรับไม่ไหวเอา


ข้อดีข้อที่ 4 มีสิทธิพิเศษสำหรับผู้บริจาคเลือด
ผู้บริจาคเลือดยังได้สิทธิพิเศษในเรื่องการรักษาพยาบาล ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่หลายคนยังไม่รู้ โดย

1. ผู้บริจาคโลหิต 7 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ช่วยเหลือค่าห้องพิเศษและค่าอาหารพิเศษได้ไม่เกินร้อยละ50
2. ผู้บริจาคโลหิต 9 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ตรวจวิเคราะห์สารเคมีในโลหิตได้ เชน ตรวจหาน้ำตาล ไขมัน การทำงานของตับ การทำงานของไต เป็นต้น
3. ผู้บริจาคโลหติ 16 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล+ ค่าห้องพิเศษและค่าอาหาร ได้ร้อยละ 50
4. ผู้บริจาคโลหิต 24 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล100% + ค่าห้องพิเศษและค่าอาหาร ได้ร้อยละ 50
5. ผู้บริจาคโลหิต 100 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ "ขอพระราชทานเพลิงศพ" ได้เป็นกรณีพิเศษ
ข้อดีทางกาย ได้มีการตรวจเช็คสุขภาพอย่างง่ายทุกครั้งที่บริจาคเลือด เช่น ชั่งน้ำหนัก วัดความดันโลหิตและตรวจความเข้มข้นของเลือด อีกทั้งการต้องตอบคำถามที่ขั้นตอนที่ 1 เกี่ยวกับความเสี่ยงต่างๆ ก็ช่วยกระตุ้นเตือนให้ผู้บริจาคเลือดไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัส ตับอักเสบชนิดบี, ไวรัสตับอักเสบชนิดซี, ซิฟิลิสและโรคเอดส์ หรือถึงพบว่าเป็น ก็จะได้รับจดหมายแจ้งจากศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทยให้ไปตรวจวินิจฉัยยืนยันและทำการรักษา ช่วยให้ได้รับการรักษา แต่เนิ่นๆ การได้รับการวินิจฉัยเร็วเป็นผลดีทำให้ลดการแพร่กระจายของโรค ลดภาวะแทรกซ้อนและลดความพิการได้ ข้อดีทางจิตใจ ความรู้สึกว่าเป็นผู้ให้ ได้ทำทาน ได้ช่วยชีวิตคน ย่อมทำให้รู้สึกสุขใจ
ข้อดีทางสังคม ผู้บริจาคเลือดจะได้รับเข็มที่ระลึกในการบริจาคเลือดครั้งแรกและได้รับเข็ม ที่ระลึกเมื่อบริจาคเลือดครบจำนวนครั้งตามที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติกำหนด เช่น 36 ครั้ง, 48 ครั้ง, 60 ครั้ง, 72 ครั้ง เป็นต้น รวมทั้งได้เหรียญกาชาดสมนาคุณตามที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติกำหนด และหากบริจาคเลือดครบ 100 ครั้ง ก็จะได้รับการชักชวนให้เข้าเป็นสมาชิกชมรมผู้บริจาคเลือด 100 ครั้ง และร่วมทำกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสังคมต่อไป
ข้อดีทางจิตวิญญาณ การบริจาคโลหิตนอกจากให้ความรู้สึกดีเหมือนการให้ทานประเภทอื่นแล้ว ยังให้ความรู้สึกดีที่ได้ช่วยชีวิตผู้อื่นด้วย
ประโยชน์จากการบริจาคโลหิต
1. อันดับแรกเลย คือ เป็นทาน ถือว่าสำคัญมาก คือ เราได้สละเลือดของตัวเอง เพื่อนำไปช่วยชีวิตของผู้อื่น บางครั้งเลือดของเรา อาจจะทำคนนั้นรอดตายเลยก็ได้ จึงถือได้ว่าบริจาคเลือด เป็นทานที่ยิ่งใหญ่มาก

2. บริจาคเลือดนั้นเป็นผลดีต่อสุขภาพเรามาก มีการทำวิจัยหลายอย่าง
2.1) ห่างไกลจากโรคมะเร็งครับ นี้มีการวิจัยแล้วครับ ยิ่งบริจาคมาก โอกาสเกิดยิ่งน้อยลงครับ
2.2) สำหรับผู้ชาย ลดโอกาสเสี่ยงจากโรคเนื้อหัวใจตาบเฉียบพลันได้ ซึ่งโรคนี้จะเกิดจากที่ร่างกายเรามีธาตุเหล็กมีมากเกินไปการบริจาคเลือดจึงจะลดโอกาสเกิดได้ครับ ข้อนี้ก็มีงานวิจัย
2.3) กระตุ้นการทำงานของไขกระดูก เปรียบเหมือนการออกกำลังกายให้กับไขกระดูกได้ทำงานดีขึ้น
2.4) การบริจาคเลือดนั้น จะทำให้ลดโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคเลือดเสียเพราะจะได้มีการสร้างเลือดใหม่ออกมาเรื่อยๆ
2.5) จะช่วยทำให้หน้าใส กับผิวขาวครับ ไม่ถึงกับว่าขาว หรือใสมาก การบริจาคเลือด นั้นทำให้ร่างกายได้สร้างเม็ดเลือดใหม่ รวมถึงการสร้างเมลานิน(เม็ดเลือดที่เกี่ยวกับผิวหนัง)ใหม่
2.6) การบริจาคเลือดนั้น จะทำให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดใหม่ รวมถึงทั้งเม็ดเลือดขาว กับ เกล็ดเลือด ฯลฯ ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานขึ้น ซ่อมแซมร่างกาย และทำให้ร่างกายมีสุขภาพดีขึ้น

3. ข้อนี้ถือว่าเป็นประโยชน์มาก คือ
3.1) ผู้บริจาคโลหิต ตั้งแต่ 7 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ ช่วยเหลือค่าห้องพิเศษและค่าอาหารพิเศษได้ ไม่เกินร้อยละ 50
3.2) ผู้บริจาคโลหิต ตั้งแต่ 16 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล + ค่าห้องพิเศษและค่าอหาร ได้ร้อยละ 50
3.3) ผู้บริจาคโลหิต ตั้งแต่ 24 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล 100% + ค่าห้องพิเศษและค่าอาหาร ได้ร้อยละ 50
3.4) ผู้บริจาคโลหิต ตั้งแต่ 100 ครั้งขึ้นไป สามารถขอใช้สิทธิ์ "" ""ขอพระราชทานเพลิงศพ ได้เป็นกรณีพิเศษ เฉพาะผู้บริจาคโลหิตเท่านั้น ไม่สามารถโอนสิทธิ์ให้ผู้อื่นได้

ขอบคุณ >>saraupdate


บริจาคโลหิต มีข้อดีอย่างไรบ้าง มาดูกัน …

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์