8 ความเชื่อแปลกๆ จริงหรือหลอก? เดี๋ยวจะบอกให้รู้!

ความเชื่อของคนไทยโบราญนั้นมีหลากหลาย หนึ่งในนั้นก็คือการห้ามตัดเล็บตอนกลางคืน ที่เราได้ยินปู่ย่าพูดกันบ่อยๆ

ความเชื่อสมัยก่อนนั้นก็ไม่พ้นเอาเรื่องผีสางนางไม้มาโยง เชื่อว่ายิ่งตัดเล็บตอนกลางคืนมากเท่าไรก็จะเป็นการตัดชีวิตตัวเองลงมากเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นอุบายไว้หลอกเด็กมากกว่าเพราะสมัยก่อนยังไม่มีกรรไกรตัดเล็บมาตรฐานเหมือนทุกวันนี้ ต้องใช้มีดเจียนหมากตัด แถมฟืนไฟก็ยังไม่สว่างเหมือนปัจจุบัน การตัดเล็บเวลากลางคืนจึงอาจทำให้เกิดอันตรายจนเฉือนนิ้วตัวเองได้ ท้ายสุดเขาก็หลอกเพื่อความปลอดภัยของลูกหลานนั่นเอง

เวลาเราเล่นเฟสบุ๊คหากเราเจอเพจหรือเจอใครที่เราไม่ชอบหน้า เราสามารถแก้ไขง่ายๆ ด้วยการบล็อก ทีนี้เราก็ไม่ต้องเห็นอะไรที่มันรำคาญตาอีกต่อไปแต่มีอยู่เพจหนึ่งที่คุณไม่มีวันจะกำจัดออกไปจากสายตาคุณได้นั่นก็คือเพจของ มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก ศาสดาผู้สร้างเฟสบุ๊คนั่นเอง

ไม่เชื่อไปลองดูได้ ถ้าเราบังอาจไปกดบล็อกเพจของเขาเมื่อไรจะไม่สามารถทำได้เพราะมันจะขึ้นเซิร์ฟเวอร์บิสซี่ ตลอดเวลา คงเป็นการโปรแกรมเอาไว้ของ ซักเกอร์เบิร์ก เองให้มันเป็นแบบนี้ ว่าแต่อย่าไปพยายามบล็อกเขาเลย ให้เกียรติเจ้าของเฟสบุ๊คนิดหนึ่ง

เวลาเราดูหนังจีนกำลังภายในสมัยก่อนเรามักจะเห็นเวลานางเอกเรียกร้องความสนใจจากพระเอกว่า ถ้าหากพระเอกยังไม่มอบความรักให้นั้นตัวเธอจะกลั้นใจตายมันซะบัดเดี๋ยวนี้ เราสงสัยเหลือเกินว่ามันทำได้จริงไหม คำตอบคือทำไม่ได้ครับ

เพราะว่าลำพังตัวเราเองนั้นไม่สามารถจะบังคับร่างกายให้กลั้นใจเป็นเวลานานถึงขนาดจะก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ ไม่ว่าจะยังไงร่างกายก็จะบังคับตัวเองให้หายใจต่อไปอยู่ดี คุณไม่มีทางกลั้นใจตายได้ยกเว้นโดนคนอื่นกดด้วยหมอนจนขาดใจตาย หรือไม่ก็โดนกดน้ำจนสำลักตาย 

เราสามารถรู้ได้ทันทีตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกันเลยว่าในเดือนนั้นๆ จะมีวันที่เชื่อกันว่าฆาตกรโหดเจสัน จะออกล่าเหยื่อหรือไม่โดยดูจากวันแรกของเดือน หากเป็นวันอาทิตย์ เดือนนั้นจะมีวันศุกร์ที่ 13 แน่นอน

พอได้ยินมาตอนแรกก็ยังสงสัยแต่พอลองไปเปิดปฏิทินดูเท่านั้นแหละใช่เลย ตรงตามนั้นเป๊ะๆ จะว่าไปวันศุกร์ 13 นี่ก็เป็นเพียงความเชื่อว่าเป็นวันที่ไม่เป็นมงคลเท่าไรนัก ทั้งคริสต์ หรือพุทธเองก็ตาม แถมมีการเก็บสถิติว่าคนอเมริกันกว่า 21 ล้านคน เป็นโรคกลัววันศุกร์ 13 หรือโรคฟริกกาทริสไคเดคาโฟเบีย (friggatriskaidekaphobia) อีกด้วย

กลับมาถกกันเรื่องความเชื่อแต่โบราญกันอีกสักข้อ ร้องเพลงในครัวจะได้ผัวแก่ รับรองว่าทุกคนเคยได้ยิน แต่ก็อย่างที่ทราบว่าความเชื่อของคนเฒ่าคนแก่มักแฝงไปด้วยกุศโลบาย

สมัยก่อนการออกเรือนชาญนั้นเหมือนเป็นหน้าเป็นตาของหญิงสาว และการได้ผัวแก่ก็ดูจะเป็นเรื่องที่น่าอาย ดังนั้นเลยกลายมาเป็นคำขู่ว่าห้ามร้องเพลงในครัวนะเดี๋ยวจะได้ผัวแก่ จุดประสงค์ก็เพื่อเวลาอยู่ในครัวก็คงทำอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากทำกับข้าว หากมัวร้องเพลงอยู่อาจไม่ได้สนใจกับข้าวที่ทำจนกับข้าวไหม้ หรือน้ำลายอาจกระเด็นลงในอาหารที่ทำก็ได้ แต่สมัยนี้หลายคนก็ไม่ซีเรียสกับการได้ผัวแก่แล้วนะ อิอิ

เอกลักษณ์ของมนุษย์ทุกคนนั้นจะมีสิ่งที่บ่งบอกความเป็นตัวเราเอาไว้หลายอย่าง เรียกได้ว่ามีเพียงเราคนเดียวไม่ซ้ำแบบกับคนอื่น หนึ่งในนั้นก็คือลายที่ลิ้น

นอกเหนือจากลายนิ้วมือที่มันมหัศจรรย์ถึงขนาดว่ามนุษย์ทุกคนมีสิบนิ้วทั่วโลก ลายนิ้วมีของแต่ละคนนั้นไม่มีใครซ้ำกันเลยเป็นอีกหนึ่งความน่าทึ่งของร่างกายมนุษย์ เช่นเดียวกับลายที่ลิ้น หากเราลองเอาลายบนลิ้นมาปั๊มดูแล้วจะพบว่าทุกคนบนโลกนี้นั้นก็จะมีลายลิ้นที่ไม่ซ้ำเช่นเดียวกัน ไม่รู้ว่าต่อไปจะมีการพิมพ์ลายลิ้นเพื่อยืนยันตัวตนของเราเองในอนาคตหรือเปล่านะ

ยังคงอยู่กับเรื่องลิ้นๆ มีการศึกษากันมาแล้วว่ากล้ามเนื้อที่แข็งแรงที่สุดในร่างกายมนุษย์นั้นไม่ใช่แขนหรือขาอันแข็งแรงที่เราวิ่งและยกน้ำหนักทุกวันเพื่อให้มันเกิดกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ หรอกนะ แต่มันคือสิ่งที่เราไม่ได้บริหารมันเลยนั่นก็คือลิ้น

ถ้าเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์แล้ว ลิ้นมีความแข็งรงมากที่สุดในร่างกายของเราเพราะประกอบด้วยกล้ามเนื้อกว่า 60 มัด ข้อเท็จจริงนี้มีหลายคนไม่เห็นด้วยแต่มันก็คือเรื่องจริง นอกจากนั้นแล้วธรรมชาติยังได้สร้างให้เพศชายมีลิ้นที่ยาวกว่าเพศหญิงโดยเฉลี่ย เพราะอะไรก็ไม่รู้สินะ อิอิ