จากพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ความตอนหนึ่งดังนี้
"...เรื่องของสุขภาพอนามัย พวกข้าพเจ้าตอนเด็กๆ ถูกวางระบบชีวิตเสียยิ่งกว่าอยู่โรงเรียนประจำไปเสียอีก ตื่นแต่เช้าต้องเดินไปโรงเรียนเพื่อออกกำลัง วันไหนเป็นวันหยุด ท่านต้องให้ออกไปอยู่ข้างนอก เพื่อรับอากาศบริสุทธิ์จะอุดอู้อยู่แต่ในบ้านไม่ได้ ต้องอยู่กลางแจ้งให้มากที่สุด อาหารการกินก็ต้องให้ถูกหลักโภชนาการ มีโปรตีน คาร์โบไฮเดรตครบทุกประการ ถ้ายังรับประทานไม่ครบตามที่กำหนดไว้ ก็ต้องรับประทานอยู่อย่างนั้นเอง เวลารับประทานอาหารโดยเฉพาะอย่างยิ่งมื้อกลางวันและมื้อเย็นจะมาประทับอยู่ด้วย ดูว่ารับประทานดีหรือยัง มารยาทโต๊ะเป็นอย่างไร สอนและคุยเรื่องต่างๆ คลุกก๋วยเตี๋ยวพระราชทานนอกจาก การรับประทานให้ถูกหลักโภชนาการ รับประทานให้เรียบร้อยแล้วท่านยังไม่ให้เลือกอาหาร ไม่ให้เรื่องมาก มีอะไรก็ต้องรับประทานให้ได้ ทรงทราบว่า ไม่ชอบอะไรก็ต้องซ้อมรับประทานของนั้น"
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงให้เหตุผลว่า ถ้าอีกหน่อยเราไปไหน ทั้งในและนอกประเทศ เราจะเลือกอาหารไม่ได้ เจ้าภาพเขาจะเสียใจ การนอนนั้น ต้องนอนตั้งแต่ยังไม่มืดดี จะเที่ยววิ่งไปรอบๆ เหมือนเด็กอื่นเขาก็ไม่ได้ ถึงเวลาออกกำลังกาย ก็ต้องออกจริงๆ ทูลกระหม่อมพ่อและสมเด็จแม่ ท่านทรงแข็งแรงและโปรดกีฬาทั้งคู่เราก็เลยโดนกันหนักหน่อย เมื่อตอนเล็กๆ โดนให้หัดกายบริหาร ซึ่งข้าพเจ้าไม่ชอบ ลองแล้วทั้งครูไทย และครูฝรั่งก็ไม่สำเร็จท่านก็ต้องเอามาทรงสอนเอง ปรากฏว่าท่านต้องทรงสอนไปตะเบ็งไป "น้อย ๆๆๆๆๆๆๆๆ" จนกระทั่งเมื่อเสร็จช่วงกายบริหารแล้ว องครักษ์เวรที่อยู่เวรหน้าห้อง แอบกระซิบนางสนองพระโอษฐ์ท่านหนึ่งว่า "คุณน้อยครับ คุณไปทำอะไรเข้า สมเด็จท่านถึงได้กริ้วคุณแบบนี้"
ปรากฏว่า งานนี้ทรงเลิกไป เพราะทรงเหนื่อย (กว่าทรงออกกายบริหารเอง)..."