5 สถิติที่จะทำให้เข้าใจว่าทำไมเราถึงควรหยุดการรังแกในโลกไซเบอร์!

Cyber Bullying หรือการกลั่นแกล้งรังแกกันในในโลกออนไลน์เป็นประเด็นที่คนให้ความสำคัญกันมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ จนมีหลายหน่วยงานและองค์กรที่จัดตั้งขึ้นเพื่อรับมือกับปัญหานี้โดยเฉพาะ อย่างเช่น The Cybersmile Foundation มูลนิธิที่ก่อตั้งขึ้นในอังกฤษเมื่อปี 2010 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการรับรู้และป้องกันการกลั่นแกล้งที่เกิดขึ้นทั่วโลก

มูลนิธินี้ยังเป็นที่มาของการกำหนด Stop Cyber Bullying Day หรือวันแห่งการต่อต้านการรังแกในโลกไซเบอร์ขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2012 โดยกำหนดให้ตรงกับทุกๆ วันศุกร์ที่ 3 ของเดือนมิถุนายนทุกปี ซึ่งสำหรับปี 2017 นี้ก็คือวันที่ 16 มิถุนายน

เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ของเรื่องนี้มากขึ้น เราจึงรวบรวม 5 สถิติเกี่ยวกับพฤติกรรมแบบนี้ที่จะทำให้คุณเข้าใจมากขึ้นว่า ทำไมเราถึงควรหยุดการรังแกกันในโลกออนไลน์

43% ของเด็กและวัยรุ่นเคยมีประสบการณ์โดนกลั่นแกล้งออนไลน์

และยิ่งไปกว่านั้น 1 ใน 4 ของคนที่โดนแกล้งเคยผ่านประสบการณ์นี้มาแล้วมากกว่า 1 ครั้ง นั่นอาจอธิบายสถิติที่ว่า 70% ของเด็กวัยเรียนเคยเห็นการกลั่นแกล้งประเภทนี้ ถึงแม้ว่าตัวเองจะไม่ใช่คนที่ถูกรังแกก็ตาม

โทรศัพท์มือถือเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการกลั่นแกล้งทางไซเบอร์มากที่สุด

ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า 80% ของคนในวัยเรียนในโทรศัพท์มือถือเกือบตลอดเวลา การกลั่นแกล้งจึงเกิดขึ้นได้ง่ายเมื่อมีโทรศัพท์มือถืออยู่ในมือ

81% ของเด็กและวัยรุ่นมองว่าคนที่แกล้งคนอื่นทางโลกออนไลน์สามารถหนีจากความผิดได้ง่ายกว่า

เมื่อเทียบกับการกลั่นแกล้งกันซึ่งๆ หน้า นั่นจึงอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมเหยื่อของการรังแกประเภทนี้จึงสูงกว่าที่หลายคนคาด

เพียง 1 ใน 10 ของเหยื่อที่ถูกกลั่นแกล้งที่จะเล่าให้พ่อแม่หรือคนที่ไว้ใจฟัง

นั่นหมายความว่า เหยื่อส่วนใหญ่เลือกที่จะเก็บเรื่องนี้ไว้กับตัว เช่นเดียวกับการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรณีที่การกลั่นแกล้งนั้นรุนแรงขึ้น

เหยื่อของการกลั่นแกล้งมีความคิดที่จะฆ่าตัวตายมากกว่าคนทั่วไป 2-9 เท่า

ที่มา - noozup