จากทฤษฎีของไบรอัน อีโน นักตีกลองมืออาชีพ ที่ว่ามือกลองจะมีการปรุงแต่งทางจิตที่ไม่เหมือนใคร นักประสาทวิทยา เดวิด อีเกิลแมน จึงได้ทำการทดลองกับอีโน และผลปรากฏว่าสมองของมือกลองนั้นแตกต่างจากคนทั่วไปจริง โดยผลการทดสอบของอีเกิลแมนแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญระหว่างจังหวะของมือกลองและจังหวะของผู้เข้ารับการทดสอบคนอื่นๆ โดยเฉพาะความสามารถในการใช้จังหวะในการทำความเข้าใจรูปแบบของทำนองที่ได้ยินโดยสัญชาตญาณ ซึ่งเป็นความแตกต่างที่ออกจะทำให้มือกลองเหล่านี้อยู่ยาก เหมือนคนที่เป็น Perfect Pitch หรือคนที่มีความสามารถในการได้ยินโน้ตชัดเจนกว่าคนปกตินั่นเอง
อย่างไรก็ตาม การตีกลองมีประโยชน์ด้านการบำบัดทั้งด้านร่างกายและอารมณ์ ที่เรียกว่า "drummer's high" ซึ่งเกิดจากสารเอนดอร์ฟินที่หลั่งออกมาขณะเล่นดนตรี ช่วยให้เกิดความรู้สึกแง่บวกและช่วยให้คนร่วมมือกันทำงานได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ มิกกี้ ฮาร์ท อดีตมือกลองวง Grateful Dead ที่เคยทำการทดลองปฏิกิริยาของสมองในการตอบสนองดนตรี ร่วมกับนักประสาทวิทยา อดัม แกซซาลีย์ กล่าวว่าพลังของจังหวะดนตรีช่วยกระตุ้นความทรงจำของผู้ป่วยอัลไซเมอร์ได้ โดยเขาเล่าว่า เขาเคยตีกลองให้คุณยายที่เป็นอัลไซเมอร์ฟัง และคุณยายก็เรียกชื่อเขา หลังจากที่ไม่เอ่ยปากพูดมาเป็นเวลานาน
แต่สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้ตีกลองแต่อยากจะฝึกคิดให้เหมือนมือกลอง ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าสามารถทำได้หรือไม่
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
