แต่ในหนังสือทั้ง ๒ เล่มก็ยังได้เขียนถึงอาหารที่ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ไม่ทรงโปรดเสวยมาก ถึงกับโบกพระหัตถ์ให้ย้ายออกไปโดยมีหัวเรื่องว่า "ในหลวงไม่ทรงโปรดเสวยปลานิล" โดยมีการอธิบายไว้ว่า เมื่อทุกครั้งที่มีผู้นำปลานิลมาตั้งเครื่องเสวย จะโบกพระหัตถ์ให้ย้ายไปไว้ที่อื่นโดยที่ไม่รับสั่งอะไรเลย จนวันหนึ่งมีผู้กล้าหาญชาญชัยกราบบังคมทูลถามว่า เพราะเหตุใดจึงไม่โปรดเสวยปลานิล ในหลวงรัชกาลที่ ๙ มีพระกระแสรับสั่งกลับมาว่า "ก็เลี้ยงมันมาเหมือนลูก แล้วจะกินได้อย่างไร"
เรื่องนี้มีตำนาน
ในราวปี พ.ศ. ๒๕๒๔ แรกครั้งพระจักรพรรดิอากิฮิโต ประเทศญี่ปุ่น ยังทรงฐานันดรศักดิ์เป็นพระมกุฎราชกุมาร ได้ส่งปลานิลทางเครื่องบินจำนวน ๑๐๐ ตัวมาทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙ ปรากฏว่า เมื่อเดินทางมาถึงเมืองไทย ปลาตายเกือบหมด เหลือรอดอย่างใกล้ตายเพียง ๑๐ ตัว ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงเป็นห่วงเป็นใยปลานิลเหล่านี้ จึงมีพระราชกระแสรับสั่งให้นำไปไว้ในพระที่นั่ง และทรงเลี้ยงอย่างประคบประหงม ให้อาหารด้วยพระองค์เอง จนปลานิลทั้ง ๑๐ ตัวรอดชีวิต ปลานิลทั้ง ๑๐ ตัวได้สนองพระเดชพระคุณแพร่พันธ์ไปอีกมากมายตามพระราชประสงค์ เป็นอาหารคนไทย ๖๒ ล้านคนมาจนถึงทุกวันนี้
สกุลไทย ๑๑พฤศจิกายน ๒๕๒๘