เครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ เครื่องหมายแห่งความเป็นพระราชา
เครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ เครื่องหมายแห่งความเป็นพระราชา ซึ่งพราหมณ์ผู้ทำพิธีจะนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย ในวันที่ประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นเครื่องแสดงว่าได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระเจ้าแผ่นดินถูกต้องสมบูรณ์แล้ว
พระแสงองค์นี้ เฉพาะองค์ยาว ๖๔.๕ ซ.ม. ที่สันตอนใกล้จะถึงด้ามคร่ำด้วยทองคำเป็นลวดลายงดงาม ด้ามพระขรรค์ ยาว ๒๕.๔ ซ.ม. สวมฝักแล้วยาว ๑๐๑ ซ.ม. หนัก ๑๙๐๐ กรัม
พระวาลวิชนี ของเดิมสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๑ เป็นพัดใบตาลแบบที่เรียกกันว่า พัชนีฝักมะขาม ที่ใบตาลปิดทอง ขอบขลิบทองคำ ด้ามก็ทำด้วยทองคำต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๔ ทรงพระราชดำริว่า ตามพระบาลีที่เรียกว่า "วาลวิชนี" นั้นไม่ควรจะเป็นพัดใบตาล ควรจะเป็นเครื่องโบกปัดที่ทำด้วยขนจามรี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระแส้จามรีขึ้นเป็นเครื่องราชกกุธภัณฑ์ภายหลังใช้ขนหางช้างเผือกแทน เรียกว่าพระแส้ขนหางช้างเผือก แต่ก็ไม่อาจที่จะเลิกใช้พัดใบตาลของเดิมได้จึงโปรดให้ใช้ควบคู่กัน โดยเรียกของสองสิ่งรวมกันว่า "วาลวิชนี "
ฉลองพระบาท เป็นฉลองพระบาทเชิงงอน ทำด้วยทองคำยาราชาวดีฝังเพชร มีน้ำหนัก ๖๕๐ กรัม สร้างเป็นเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ตั้งแต่รัชกาลที่ ๑ ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระมหาราชครูวามหามุนีเป็นผู้สวมถวาย
ขณะที่เพจ ThaiArmedForce.com ได้โพสต์ข้อความให้ข้อมูลเกี่ยวกับ พระแสงสำคัญเครื่องประกอบในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ระบุข้อความว่า ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในวันนี้นอกจากจะมีการผสมผสานธรรมเนียมเครื่องแต่งกายของยุทโธปกรณ์ยุคใหม่เข้ากับพระราชประเพณี เรายังได้เห็นพระแสงซึ่งถือเป็นยุทธภัณฑ์อันมีความศักดิ์สิทธิ์แห่งราชวงศ์จักรี ที่มีความต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน โดยยุทธภัณฑ์ที่มีความสำคัญในฐานะหนึ่งในเครื่องเบญราชกกุธภัณฑ์ คือ พระแสงขรรคชัยศรี โดยพระขรรค์ หมายถึง พระปัญญาอันจะตัดมลทินถ้อยความไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินให้เห็นแจ้งทั่วทั้งโลกธาตุ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาแต่โบราณของพระมหากษัตริย์
พระแสงดาบอีกองค์หนึ่งที่มีการอัญเชิญออกมาตามเสด็จในพิธีวันนี้ คือ พระแสงดาบคาบค่าย หนึ่งในพระแสงดาบสำคัญที่สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงโปรดมีรับสั่งให้สร้างขึ้นมาใหม่แทนองค์เดิมของสมเด็จพระนเรศวรที่สูญหาญหายไปภายหลังจากการเสียกรุงครั้งที่ 2 นอกจากเป็นส่วนหนึ่งในเครื่องทรงชุดมหาพิชัยยุทธ และเครื่องประกอบในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแล้ว พระแสงดาบคาบค่ายของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชนี้ ยังถือเป็นพระแสงสำคัญองค์หนึ่งในหมู่พระแสงรายตีนทอง สำหรับให้มหาดเล็กเชิญตามเสด็จในพระราชพิธีสำคัญ ดังที่ได้เห็นในพระราชพิธีวันที่ 3 พฤษภาคม 2562
ซึ่งเครื่องประกอบพระบรมราชอิสริยยศที่ใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่ใช้ในงานบรมราชาภิเษกสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ล้วนแต่เป็นของที่สร้างขึ้นใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 1 แทนเครื่องประกอบพระบรมราชอิสริยยศที่สูญสิ้นไปเมื่อคราวเสียงกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 พ.ศ.2310 โดยหมวดพระแสงที่มีการออกในพระราชพิธีวันนี้ ยังมีพระแสงศักดิ์สิทธิ์อีกหลายองค์มีรายนามดังต่อไปนี้ พระแสงดาบเชลย พระแสงจักร พระแสงตรีศูล พระแสงธนู พระแสงดาบเขน พระแสงหอกชัย พระแสงปืนคาบชุดข้ามแม่น้ำสะโตง พระแสงของ้าวเจ้าพระยาแสนพลพ่าย พระแสงดาบใจเพชร พระแสงเวียด พระแสงทวน พระแสงง้าว พระแสงปืนคาบศิลาเคยทรง พระแสงขอตีช้างล้ม พระแสงขอคร่ำด้ามไม้เท้า พระแสงชนักต้น และพระแสงศร