เตือน! ยาสีฟันชาร์โคล ไม่ช่วยให้ฟันขาวขึ้น ส่งผลเสีย มากกว่าผลดี

ผลการศึกษาครั้งนี้จัดทำโดยทีมวิจัยจากคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ ในอังกฤษ และตีพิมพ์ในวารสารด้านทันตแพทยศาสตร์ British Dental Journal โดยพบหลักฐานบ่งชี้ว่า ผลิตภัณฑ์ยาสีฟันชาร์โคลที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบันมักไม่มีส่วนผสมของสารฟลูออไรด์ที่ช่วยป้องกันฟันผุ

พร้อมชี้ว่า การแปรงฟันด้วยยาสีฟันชนิดนี้มากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพช่องปาก โดยนักวิจัยแนะนำให้ผู้ที่ต้องการมีฟันขาวสะอาดไปพบทันตแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเรื่องการฟอกฟันขาว และใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์จะดีกว่า

ผงถ่าน หรือ ชาร์โคล ถูกนำมาใช้ในการรักษาสุขภาพช่องปากครั้งแรกในอารยธรรมกรีกโบราณ ด้วยความเชื่อว่ามันจะช่วยขจัดคราบฟันและกลิ่นไม่พึงประสงค์จากโรคเหงือกอักเสบ

ดร.โจเซฟ กรีนเวล-โคเอน หนึ่งในทีมวิจัยจากคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ บอกว่า ปัจจุบันร้านค้าต่าง ๆ หันมาจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาสีฟันชาร์โคล ทั้งที่เป็นชนิดครีมและผงขัดฟันมากขึ้น หลังจากบรรดาผู้มีชื่อเสียงเริ่มออกมาพูดเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้

อย่างไรก็ตาม ดร.กรีนเวล-โคเอน ชี้ว่า คำกล่าวอ้างเรื่องสรรพคุณของสินค้าเหล่านี้ไม่เป็นความจริง โดยพิจารณาจากผลการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ยาสีฟันชาร์โคล 50 ชนิดในสหรัฐฯ ที่จัดทำขึ้นเมื่อปี 2017

โดยสินค้าที่นำมาวิเคราะห์บางยี่ห้ออวดอ้างสรรพคุณว่าช่วย "ต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรีย หรือ เชื้อรา" และ "ช่วยฟอกฟันขาว และ ลดปัญหาฟันผุ"

การวิเคราะห์ชี้ว่า ผู้คนซื้อผลิตภัณฑ์เหล่านี้มาใช้เพราะหวังว่ามันจะช่วยแก้ปัญหาในช่องปากได้อย่างรวดเร็วและมีราคาถูก แต่ในความเป็นจริงการแปรงฟันด้วยยาสีฟันประเภทนี้มากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาฟันสึกกร่อน และมีอาการเสียวฟันมากขึ้น

ยาสีฟันชาร์โคลที่วางจำหน่ายตามท้องตลาดในปัจจุบันจะทำจากวัสดุต่าง ๆ เช่น เปลือกถั่ว ใยมะพร้าว ไม้ไผ่ และถ่านหินเลน ที่ผ่านกระบวนการจนกลายสภาพเป็นผงถ่านละเอียด

อย่างไรก็ตาม ดร.กรีนเวล-โคเอน ระบุว่า ยาสีฟันชาร์โคล ทั้งชนิดครีมและผงขัดฟันทำให้เกิดการขัดสีมากกว่ายาสีฟันทั่วไป จึงเพิ่มความเสี่ยงที่จะสร้างความเสียหายต่อเหงือกและเคลือบฟัน (enamel)

นอกจากนี้ หากผู้ที่อุดฟันใช้ยาสีฟันประเภทนี้บ่อยเกินไป อาจทำให้ส่วนที่เป็นผงถ่านเข้าสู่บริเวณที่มีการอุดฟันและขจัดออกได้ยาก "อนุภาคถ่านอาจเข้าไปติดอยู่ในเหงือกและก่อให้เกิดการระคายเคืองได้" ดร.กรีนเวล-โคเอน กล่าว

ด้าน ศาสตราจารย์ เดเมียน วอล์มสลีย์ จากทันตแพทยสมาคมแห่งอังกฤษ กล่าวว่า "ยาสีฟันชาร์โคลไม่ใช่ยาวิเศษสำหรับผู้ต้องการมีฟันที่สวยงาม อีกทั้งยังมีโทษพ่วงมาด้วย"

"ดังนั้นจงอย่าหลงเชื่อคำโฆษณาเกินจริง...ผู้ที่มีปัญหาสีฟันไม่ขาวสะอาดไม่สามารถแก้ไขด้วยการเปลี่ยนเรื่องอาหารการกินหรือรักษาอนามัยในช่องปาก แต่ควรไปพบทันตแพทย์" ศ.วอล์มสลีย์ กล่าว