เรื่องของผมหงอก ถึงยังไม่หงอกก็ต้องอ่าน!

หัวข้ออาจฟังที่ไม่เข้าหูอยู่สักหน่อย ก็ใครจะอยากมีผมหงอก แต่เราทุกคนต้องผ่านวัยที่เจอผมหงอกแค่เส้นสองเส้น ไปจนถึงวัยที่ต้องเริ่มทำสีผม เพราะชักจะดึงไม่ไหว

ถึงคุณจะอยู่ในวัยที่ยังไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ แต่การได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับผมหงอก จะทำให้เราเข้าใจธรรมชาติของร่างกาย และรู้วิธีการจัดการกับมันได้ดีขึ้น อ่านแล้วคุณจะรู้ว่า เจอผมหงอกแล้วควรดึงไหม

ส่วนคนที่เริ่มเข้าวัยผมสองสี มักพูดติดตลกกันว่า โชคดีแค่ไหนที่ได้มีอายุยืนยาว จนถึงวันที่ผมหงอกเต็มหัว เมื่อถึงวันนั้น คุณจะต้องเผชิญหน้ากับการตัดสินใจครั้งใหญ่ คือต้องเลือกระหว่างการปล่อยให้ผมหงอกตามธรรมชาติ หรือจะทำสีผมให้ดูทันสมัยดี ไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีใด การได้รู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผมหงอก จะช่วยให้ผมของคุณดูมีสุขภาพดี และคุณก็จะรู้สึกดีไปด้วย

รูขุมขนปลายเส้นผมบนหนังศีรษะมีเซลล์สีที่ผลิตเมลานิน ซึ่งเป็นสารที่สร้างสีผมให้กับเส้นผมต่างๆ กันไป ไม่ว่าจะเป็นสีดำ สีน้ำตาล หรือสีทอง เมื่อคุณอายุมากขึ้น เซลล์เหล่านี้จะเริ่มตายไป เส้นผมที่งอกขึ้นมาใหม่จึงมีสีอ่อนลง และกลายเป็นสีเทา สีเงิน และสีขาวในที่สุด เมื่อรูขุมขนหยุดผลิตเมลานินไปแล้ว จะไม่มีการผลิตเส้นผมที่มีสีเดิมอีกต่อไป พูดอีกอย่างหนึ่งที่ฟังแล้วปวดใจไม่น้อยก็คือ หงอกแล้วหงอกเลย

คุณอาจโทษงานที่ทำ หรือลูกวัยรุ่นจอมเกเรที่ทำให้คุณเครียดจนผมหงอกเร็ว แต่ส่วนใหญ่แล้ว การที่ผมหงอกเร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับยีนในร่างกาย หากพ่อแม่ของคุณเริ่มผมหงอกตั้งแต่ช่วงวัย 30 ปี ก็มีโอกาสสูงที่ผมของคุณจะเริ่มหงอกในวัยเดียวกัน

เช่น สภาวะขาดวิตามินบี 12 โรคไทรอยด์ โรคด่างขาว(Vitiligo) ซึ่งเป็นโรคที่เกิดความผิดปกติกับเซลล์ที่ทำหน้าที่สร้างเม็ดสีผิว และเป็นเสาเหตุให้เซลล์ผลิตสีบนหนังศีรษะถูกทำลาย เป็นต้น

ความเครียดไม่ได้ทำให้ผมหงอกโดยตรง แต่เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมร่วงเร็วขึ้นถึงสามเท่า และมีความเป็นไปได้ที่เมื่อผมของคุณงอกใหม่ มันจะกลายเป็นผมหงอก แทนที่จะเป็นผมสีเดิม

การสูบบุหรี่มีผลกระทบต่อร่างกายของคุณตั้งแต่หัวจรดเท้า รวมถึงเส้นผมบนศีรษะของคุณด้วย มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า ผมของคนสูบบุหรี่จะหงอกก่อนอายุ 30 ปีเร็วกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 2.5 เท่า

ปัญหาที่ใครๆก็อยากรู้คำตอบ เราอาจเคยได้ยินว่า ถ้าดึงผมหงอกหนึ่งเส้น มันจะงอกขึ้นมาเป็นผมหงอกสามเส้น ซึ่งเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง แต่คุณก็ไม่ควรดึงผมหงอกเพียงเพื่ออยากกำจัดมัน เพราะในความเป็นจริงแล้ว ผมที่ขึ้นมาใหม่ก็จะเป็นผมหงอกเหมือนเดิม การดึงผมอาจไปทำลายรูขุมขนที่หนังศีรษะ จนไม่สามารถมีผมงอกออกมาได้อีกเลย นานวันเข้า การดึงผมหงอกจึงมีส่วนทำให้ผมของคุณบางลง ดังนั้น ถึงจะคันมือแค่ไหน ก็ควรปล่อยมันไว้ที่เดิม

ผมหงอกจะบางกว่าผมสีธรรมชาติ เพราะผิวของหนังกำพร้าบางลง เส้นผมต้องการการปกป้องตามธรรมชาติจากน้ำ แสงอัลตราไวโอเลตจากแดด ความชื้น สารเคมี และความร้อนที่เกิดจากการทำผม หากไม่มีสารป้องกัน ผมของคุณจะสูญเสียน้ำ ดังนั้น ผมหงอกจึงทำให้คุณรู้สึกว่าเส้นผมแห้งกรอบและกระด้าง คุณจึงควรบำรุงรักษาผมด้วยการทำทรีทเมนท์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น และหมักผมด้วยน้ำมัน เพื่อให้เส้นผมดูมีน้ำหนัก นอกจากนี้ ความร้อนและแสงจากดวงไฟหรือแสงแดด อาจทำให้ผมสีเทากลายเป็นสีเทาออกเหลือง ซึ่งคุณควรปรึกษาช่างทำผมว่าจะป้องกันเรื่องนี้ได้อย่างไร

เอาเป็นว่าชอบหรือไม่ สักวันผมหงอกมันต้องมาเยือนแน่ๆ ช้าหรือเร็วก็ด้วยปัจจัยหลายอย่าง แต่จงอ่แขนรับมันอย่างเต็มใจ เพราะผมหงอกมาแล้วมาเลย ไม่ไปไหนแน่นอน