4 โรคที่เกิดจากการกิน เผ็ด...คนทานรสจัด รีบป้องกันด่วน!!

อาหารไทยมักมีส่วนประกอบจากเครื่องเทศหลากหลายชนิด ช่วยให้มีกลิ่นหอมและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจาก เปรี้ยว หวาน มัน เค็มแล้ว อีกหนึ่งรสที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ "รสเผ็ด" บางบ้านที่มีผู้สูงอายุอยู่ในบ้านมักต้องมีน้ำพริกมาทานในทุกมื้ออาหาร เพราะถ้าวันไหนไม่ได้กินเผ็ดจะรู้สึกกินไม่อร่อย กินอย่างไรก็ไม่อิ่มกันเลยทีเดียว ซึ่งจริงๆ แล้วการกินเผ็ดนั้นให้ประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง แต่ทว่าถ้ากินเผ็ดแบบเกินลิมิตหรือมีอาการเจ็บป่วยอยู่ การกินเผ็ดก็อาจนำพาโรคมาเยี่ยมเยียนได้แบบไม่รู้ตัว แล้วโรคที่เกิดจากการกินเผ็ดจะมีโรคอะไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไม "พริก" ที่เป็นแค่ผักสวนครัวเม็ดเล็กๆ จึงมีรสชาติที่เผ็ดร้อนนัก บางคนกินแล้วน้ำมูกน้ำตาไหล บางคนเหงื่อออกจนผิวแดงไปทั้งตัว บางคนโชคร้ายหน่อย กินอร่อยทางปาก แต่เวลาขับถ่ายกลับแสบร้อนจนไม่อยากเข้าห้องน้ำเลยทีเดียว ขอบอกว่าความเผ็ดร้อนนี้เกิดจาก "สารแคปไซซิน" ที่อยู่ในพริก สารนี้จะเข้าไปจับกับตัวรับที่เรียกว่า TRPV1 ที่มีอยู่ทั่วร่างกาย และทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย เมื่อร่างกายได้รับสารแคปไซซินเข้าไป อุณหภูมิร่างกายจะสูงขึ้น สารนี้จะส่งสัญญาณไปที่สมอง ส่งผลให้เรารู้สึกแสบร้อนที่ปาก ส่วนใครที่ทานเผ็ดแล้วน้ำมูกน้ำตาไหลก็เพราะเจ้าสารแคปไซซิน มีผลทำให้โพรงจมูกและเยื่อบุระคายเคือง ร่างกายจึงตอบสนองด้วยการที่น้ำตาไหลลงมาในช่องจมูก ซึ่งน้ำตาจัดเป็นสิ่งแปลกปลอมในจมูกดังนั้นจึงต้องมีน้ำมูกไปจับสิ่งแปลกปลอมแล้วขับออกมานั่นเอง

สารแคปไซซินไม่ได้ทำให้รู้สึกแสบร้อนที่ปากเท่านั้น แต่ยังสามารถทำให้กระเพาะอาหารและทวารหนักระคายเคืองได้ด้วย เนื่องจากสารนี้ไม่สามารถถูกย่อยได้ทั้งหมด บางส่วนจึงหลงเหลือและถูกขับถ่ายออกจากทวารหนัก จึงเป็นที่มาของ "อร่อยปาก ลำบากตูด" นั่นเอง

4 โรคที่มากับการกินเผ็ด

1. ท้องเสีย เป็นโรคอันดับแรกๆ ที่จะพบเสมอๆ หลังจากการกินเผ็ด ซึ่งจริงๆ แล้วความเผ็ดของพริกไม่ได้ทำให้ท้องเสียโดยตรง แต่เพราะสารแคปไซซินที่ทำให้อุณหภูมิสูงในร่างกายสูงขึ้น ร่างกายจึงพยายามลดอุณหภูมิด้วยการขับออกมาทางเหงื่อและทำให้รู้สึกหิวน้ำ เมื่อดื่มน้ำไปมากๆ สารแคปไซซินที่ไม่สามารถย่อยได้หมด ร่างกายจึงพยายามขับสารนี้ออกไป ทำให้กระเพาะและลำไส้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว อาหารที่กินเข้าไปก็จะเคลื่อนผ่านระบบย่อยอาหารเร็วมากผิดปกติ เมื่อไปรวมกับน้ำที่ดื่มเข้าไปเยอะๆ จึงเป็นที่มาของอาการท้องเสียหรือถ่ายเหลวนั่นเอง

2. โรคหัวใจ รสเผ็ดทำให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น บางครั้งก็อาจจะดีมากไปจนทำให้หัวใจทำงานหนัก ดังนั้นหากใครที่กินรสเผ็ดจัดมากๆ อาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจได้ ส่วนใครที่เป็นหัวใจอยู่แล้วควรระมัดระวังและลดระดับความเผ็ดลงมา

3. โรคกระเพาะอาหาร บางเชื่อว่าการกินเผ็ดทำให้เป็นโรคกระเพาะอาหาร ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพียงแต่ว่ารสเผ็ดนั้นจะไปกระตุ้นโรคกระเพาะอาหารที่เป็นอยู่แล้วให้มีอาการแย่ลงมากขึ้น จากงานวิจัยที่เคยตีพิมพ์ในวารสาร Journal of the American Medical Association ได้ระบุว่ารสเผ็ดจากพริกไม่ได้ทำให้เป็นโรคกระเพาะอาหารและไม่ได้ทำให้กระเพาะอาหารเป็นแผล เพราะลำไส้และกระเพาะนั้นไม่ได้ถูกทำลายจากการกินเผ็ดแต่อย่างใด ส่วนใครที่รู้สึกเหมือนเป็นโรคกระเพาะหลังกินเผ็ดก็เพราะว่าสารแคปไซซิน มีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งจะไปกระตุ้นให้หลอดอาหารหดเกร็ง ทำให้รู้สึกจุกแน่นที่ลิ้นปี่ ดังนั้นใครที่เป็นโรคกระเพาะอาหารหรือเป็นแผลในกระเพาะอาหารอยู่แล้วควรไปรักษาให้หายดีก่อน และเลี่ยงการทานอาหารรสเผ็ด

4. ท้องอืด ท้องเฟ้อ โดยปกติแล้วรสเผ็ดร้อนจากพริกจะช่วยขับลม แต่เพราะว่าสารแคปไซซินมีฤทธิ์เป็นกรด เมื่อกินพริกมากในปริมาณมากๆ จะทำให้มีกรดมากไปในกระเพาะอาหาร อาจจะมีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อจากกรดเกินได้ แต่ว่าสำหรับคนปกติทั่วไปก็จะกินเผ็ดแค่เล็กน้อยจากการนำพริกมาประกอบอาหาร สามารถทานได้อย่างปลอดภัย แทบไม่ส่งผลใดๆ ต่อร่างกาย

วิธีแก้เผ็ดง่ายๆ ทำได้อย่างไร?
ใครที่ชอบทานอาหารเผ็ดๆ แต่ดูเหมือนร่างกายไม่ชอบใจ กินแล้วปวดท้อง แน่นท้องหรือเผ็ดจนน้ำตาไหลไม่หายสักที แนะนำให้กินอาหารเผ็ดไปพร้อมกับอาหารมันๆ เช่น นม ไอศกรีม อาหารทอด เป็นต้น เพราะสารแคปไซซินเป็นสารที่ละลายได้ดีในน้ำมัน แต่ละลายในน้ำได้เพียงเล็กน้อย ดังนั้นการดื่มน้ำเย็นๆ ไม่ได้ช่วยให้หายเผ็ด แต่กลับทำให้เผ็ดมากขึ้นไปอีกเพราะน้ำจะช่วยกระจายสารแคปไซซินไปมากกว่าเดิม หรือถ้าหากใครไม่ชอบอาหารมันๆ ก็ทานลูกอม ขนมหวาน หรืออมกลั้วปากด้วยน้ำเกลือก็ช่วยบรรเทาความเผ็ดลงได้เช่นเดียวกัน

ที่จริงแล้วรสเผ็ดมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง แต่ถ้ากินมากไปก็อาจจะเจ็บป่วยได้ หรือถ้าหากปวดท้องเป็นโรคกระเพาะอยู่แล้วก็อาจจะทำให้อาการหนักขึ้นได้ โรคที่เกิดจากการกินเผ็ด กินพริกเยอะๆ ก็อาจเกิดขึ้นได้...ดังนั้นรสเผ็ดถึงแม้จะอร่อย แต่ควรกินอย่างพอดี เพราะการกินอะไรที่มากเกินไปย่อมส่งผลเสียต่อร่างกายเสมอ