หมอแนะ! สาวทำเล็บเน้นร้านสะอาด ลดเสี่ยงติดเชื้อทำเล็บเน่า
วันนี้ (17 ธ.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังมีการเผยแพร่ข่าวผู้ป่วยหญิงติดเชื้อที่นิ้วหัวแม่มือลามเข้าข้อกระดูก หลังไปทำเล็บที่ร้านเสริมความงามแห่งหนึ่ง และมีการขูดร่องเล็บ ตัดแต่ง และต่อเล็บปลอมด้วยกาวตราช้างนั้น พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย ระบุว่า การเข้าไปใช้บริการทำเล็บในร้านเสริมสวย ผู้ใช้บริการควรเลือกร้านที่เน้นความสะอาด ปลอดภัย ก่อนทำทุกครั้ง และไม่ควรให้ช่างทำเล็บแซะที่ขอบเล็บ เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบเป็นหนองและลุกลามถึงข้อกระดูกได้
ขณะที่ร้านเสริมสวยต้องให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดเครื่องมือเครื่องใช้ เพื่อป้องกันเชื้อโรคไม่ให้แพร่กระจายไปสู่ผู้ใช้บริการ ซึ่งร้านเสริมสวยจะต้องทำความสะอาดเครื่องมือทำเล็บ ตะไบเล็บ ที่แคะเล็บและที่ตัดเล็บ โดยฆ่าเชื้อโรคด้วยเอทิลแอลกอฮอล์หลังการใช้งานทุกครั้ง ส่วนช่างทำเล็บ ต้องดูแลสุขภาพอนามัยตนเองให้แข็งแรง และรักษาความสะอาดสม่ำเสมอ ใส่ผ้าปิดปากปิดจมูก รวมถึงตรวจสุขภาพประจำปีและมีใบรับรองแพทย์ หากเป็นโรคติดต่อต้องรักษาตนเองจนหายเป็นปกติ
นอกจากนี้ยังไม่มีการจัดการขยะที่เป็นอันตราย เช่น ใบมีดโกน ภาชนะบรรจุน้ำยาดัดผม กระป๋องสเปรย์ และที่สำคัญผู้ให้บริการบางคนมีอาการเจ็บป่วยในขณะให้บริการ เช่น ไอ จาม โดยไม่ใส่หน้ากากอนามัย อาจแพร่เชื้อโรคได้ โดยในการตรวจประเมินครั้งนี้ เจ้าพนักงานกองสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ได้แนะนำให้ผู้ประกอบการเสริมความงามทำความสะอาดอุปกรณ์ เครื่องมือให้บ่อยขึ้น หากไม่ปรับปรุงแก้ไขจะใช้มาตรการยึดใบอนุญาต
1. พื้น ผนัง อ่างสระผม และเตียง ต้องไม่มีคราบสกปรก ไม่ชำรุด
2. สถานประกอบการ อุปกรณ์ เครื่องมือเสริมความงามต่างๆ เช่น ผ้าคลุมสระผม หวี กรรไกร แปรงม้วนผม ต้องทำความสะอาดทุกวัน โดยเฉพาะที่แคะเล็บ ตะไบเล็บ ต้องทำความสะอาดแล้วต้องใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรค
3. ควรจัดการขยะที่เป็นอันตราย ได้แก่ ใบมีดโกน ภาชนะบรรจุน้ำยาดัดผม และกระป๋องสเปรย์ ให้เรียบร้อย
4. มีใบอนุญาตประกอบการจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นแสดงในที่เปิดเผยและเห็นได้ชัด
5. ช่างทำผมมีอาการเจ็บป่วยในขณะให้บริการ เช่น ไอ จาม ควรใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง เพื่อไม่แพร่เชื้อโรคให้ผู้มารับบริการ