เช็คกันให้ดี อาการปวดหัวตรงไหน บอกโรคได้!
1. โรคปวดศีรษะที่พบมากที่สุด เป็นโรคปวดหัวที่เกิดจากการเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณรอบศีรษะ ตำแหน่งที่ปวดศีรษะที่พบบ่อยคือ ตำแหน่งบริเวณหน้าผากและขมับทั้งสองข้าง บางครั้งร้าวมาที่ด้านหลังของศีรษะและต้นคอ รวมถึงบ่าไหล่ร่วมด้วย อันนี้เป็นภาวะที่สัมพันธ์กับความเครียดด้วย
2. ปวดศีรษะจากโรคไมเกรน จะมีอาการปวดบริเวณขมับด้านใดด้านหนึ่งโดยเฉพาะ อาจจะปวดสลับกันได้ระหว่างข้างซ้ายหรือข้างขวา และเวลาปวดบางครั้งอาจจะมีปวดร้าวเข้ามาที่กระบอกตาร่วมด้วย คนไข้ก็จะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ และขณะที่มีอาการปวด ถ้าอยู่ในที่แสงสว่างจ้า เสียงดังหรือว่ากลิ่นฉุนอาการจะแย่ลง
3. ปวดอันต่อไปก็เป็นปวดที่พบบ่อย คือปวดบริเวณโหนกแก้มทั้งสองข้างลงมาจนถึงบริเวณหน้าผากด้วย หรือว่าปวดตรงบริเวณดั้งจมูก อันนี้เป็นตำแหน่งของไซนัส ถ้าเกิดมีการอักเสบของไซนัส คนไข้ก็จะมีอาการปวดที่ตรงตำแหน่งนี้
4. ปวดที่เกิดจากการอักเสบของกราม มักจะมีอาการปวดบริเวณหน้าใบหู ซึ่งสัมพันธ์กับการเคี้ยวอาหารร่วมด้วย คนไข้บางคนอาจจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองมีการกัดฟันตอนเวลานอน ตื่นเช้ามาก็รู้สึกว่าเวลาขยับปากหรือเวลาเคี้ยวอาหาร จะรู้สึกปวดบริเวณหน้าใบหู อาจจะสัมพันธ์กับภาวะกระดูกกรามหน้าใบหูอักเสบได้
5. อาการปวดอาจจะมาจากโรคที่ร้ายแรงมากกว่านั้นได้อีก ไม่ว่าจะเป็นโรคหลอดเลือดสมอง หรือว่าโรคเนื้องอกสมอง ซึ่งพวกนี้ อาการปวดจะมีลักษณะรุนแรง มีการปวดที่เป็นอย่างรุนแรงมากขึ้นชนิดที่ว่า ในชาตินี้ไม่เคยปวดแบบนี้มาก่อน ไม่เคยปวดแบบนี้จนถึงอายุเกิน 50 ปี อันนี้เราก็เริ่มสงสัยแล้ว นอกจากนี้อาจจะมีอาการมองเห็นที่ผิดปกติ ไม่ว่าจะเห็นภาพซ้อน หรือว่ามองเห็นไม่ชัด มีการชาหรืออ่อนแรงของกล้ามเนื้อต่าง ๆ ของร่างกายร่วมด้วย หรือบางคนอาจจะมีลักษณะพฤติกรรมที่ผิดปกติไปกว่าเดิม รวมไปถึงชัก เมื่อมีอาการเหล่านี้ แนะนำให้มาพบแพทย์โดยเร่งด่วน หรือว่าอาการปวดศีรษะที่มีไข้หรือคอแข็งร่วมด้วย พวกนี้อาจจะเป็นตัวบอกว่ามีการอักเสบของเยื่อหุ้มสมอง อันนี้ก็แนะนำให้มาพบแพทย์
ผศ.พญ.แสงศุลี ธรรมไกรสร ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล