เปิด 5 คำเเนะนำ ทำงานที่บ้านอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ


เปิด 5 คำเเนะนำ ทำงานที่บ้านอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

มนุษย์เงินเดือนจำนวนไม่น้อยกำลังทยอยเข้าสู่โหมดทำงานบ้านเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ สำหรับบางคนนี่อาจเป็นครั้งแรกที่ได้ "work from home" แต่หลายคนอาจจะเคยมีประสบการณ์มาก่อนแล้ว

การทำงานที่บ้านได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ มาตั้งแต่ก่อนที่จะมีการระบาดของโควิด-19 ในสหราชอาณาจักรมีคนที่ทำงานที่บ้านอยู่ราว 1.5 ล้านคน

ถ้าหากคุณไม่ได้ป่วยหรืออยู่ในช่วงกักกันโรค 14 วัน แต่มีอันต้องทำงานที่บ้านตามนโยบายของรัฐบาลที่ลดการรวมตัวของคนหมู่มากและการเดินทางโดยไม่จำเป็น คุณจะทำงานที่บ้านอย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและไม่ห่อเหี่ยวจนเกินไป

1.อาบน้ำ-แต่งตัว
สำหรับบางคน การได้ใสชุดนอนทำงานอยู่บ้านทั้งวันช่างเป็นอะไรที่น่าหลงใหล แต่ความจริงก็คือการลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวจะช่วยให้คุณสดชื่น สมองแล่นและพร้อมสำหรับการทำงาน ส่วนจะแต่งตัวแบบจัดเต็มแค่ไหนนั้นก็คือขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละคน รวมทั้งลักษณะงานที่ทำ เช่น ถ้าคุณต้องประชุมวิดีโอคอล การแต่งตัวให้ดูดีไว้ก็น่าจะดี

แต่สำหรับคนที่ไม่จำเป็นต้องพบปะใครจริง ๆ การแต่งตัวเท่ากับเป็นการบังคับให้ตัวเองอาบน้ำและสลัดจากชุดนอนที่ทำให้เราง่วงงุนและอยากจะพักผ่อนตลอดเวลา อย่างน้อย ๆ เปลี่ยนมาเป็นเสื้อยืด-กางเกงยีนส์ก็ยังดี

การใส่ชุดทำงานยังช่วยสร้างแรงกระตุ้นให้เราออกไปนอกบ้านบ้าง และเมื่อถึงเวลาเลิกงาน การได้เปลี่ยนจากชุดทำงานมาเป็นชุดอยู่บ้านก็ช่วยให้คุณเปลี่ยนจากโหมดการทำงานมาเป็นโหมดพักผ่อนได้อย่างเต็มที่



2.แบ่งเวลาให้ชัดเจน
ถ้าคุณเป็นพนักงานบริษัท ชั่วโมงการทำงานจะค่อนข้างชัดเจน และคุณก็ควรจะยึดตามชั่วโมงการทำงานนั้นเหมือนตอนอยู่ที่ออฟฟิศ เช่น เริ่มทำงานเวลาเดียวกับที่คุณเดินทางถึงที่ทำงาน และเลิกงานเมื่อหมดเวลาทำงาน

เอ็ม เชลดอน บล็อกเกอร์และนักเขียนอิสระซึ่งทำงานที่บ้านบอกว่า เธอกำหนดเวลาการทำงานเหมือนกันทุกวัน เพราะ "การได้เข้านอนในเวลาที่เหมาะสมจะทำให้คุณได้นอนอย่างเต็มอิ่มและตื่นมาเริ่มต้นวันใหม่ในเวลาเดียวกันทุกวัน"



เธอแนะนำว่าการทำสิ่งต่าง ๆ ให้เป็นกิจวัตรในแต่ละวันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานที่บ้าน

"บางครั้งฉันจะจองคลาสฟิตเนสหรือเตรียมชุดออกกำลังกายไว้เพื่อเตือนให้ตัวเองลุกจากโต๊ะทำงานเมื่อถึงเวลาเลิกงาน" เชลดอนแนะนำ "ช่วงแรก ๆ อาจจะยากอยู่สักหน่อย แต่อีกหน่อยก็ชินไปเอง"

เรื่องการจัดสถานที่ก็สำคัญ คุณควรจัดบริเวณสำหรับทำงานให้เป็นสัดส่วน มีโต๊ะและเก้าอี้ทำงานเหมือนกับที่ออฟฟิศ ถ้ามีคนอยู่ที่บ้านด้วย คุณควรจะหามุมที่ไม่ถูกรบกวน

อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญของการทำงานที่บ้านคืออย่าทำตัวให้ยุ่งเกินไป เพราะหลายคนมีแนวโน้มที่จะรู้สึกไม่มั่นใจเมื่อต้องทำงานที่บ้าน เขาหรือเธอจึงมักจะแสดงให้คนอื่นเห็นว่าตัวเองทำงานอยู่หรือทำงานเต็มที่

"คนจำนวนไม่น้อยมักจะสื่อสารมากเกินความจำเป็นเวลาทำงานที่บ้าน อาจเป็นเพราะต้องการให้คนอื่นเห็นว่าทำงานหรือเพื่อให้แน่ใจว่าคนอื่นรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรถ้าหากว่ามันไม่เยอะเกินไป แต่ละคนย่อมรู้ตัวดีว่าตัวเองทำอะไรอยู่และทำงานได้ตามเป้าหรือไม่" รอส โรบินสัน แห่งบริษัทอิกนาตาซึ่งทำงานร่วมกันบรรดาฟรีแลนซ์ให้คำแนะนำ

3. ออกไปนอกบ้านบ้าง (ถ้าหากคุณไม่ได้อยู่ระหว่างกักกันโรค)
การทำงานที่บ้านไม่ได้หมายความว่าต้องเก็บตัวอยู่ในบ้านทั้งวันทั้งคืน คุณอาจจะรู้สึกดีที่ไม่ต้องเจอรถติดหรือเบียดเสียดบนรถไฟฟ้า แต่อย่างน้อยคุณก็ควรออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้าง การออกไปเปิดหูเปิดตาจะช่วยให้สมองโลดแล่นและได้มุมมองใหม่ ๆ มาสร้างสรรค์ผลงาน



แมทธิว ไนท์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มลีปเปอร์ ซึ่งให้ความช่วยเหลือคนทำงานฟรีแลนซ์บอกว่าการได้ออกไปเดินเล่นข้างนอกให้ความรู้สึกอยากทำงานมากขึ้น

"แต่ละคนมีช่วงเวลาที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังทำงานอยู่แตกต่างกันไป สำหรับผมการออกไปเดินเล่นแถวบ้านนับว่าเป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน" เขาแนะ

แต่ถ้าใครที่ไม่สามารถออกไปนอกบ้านได้จริง ๆ ก็อาจจะเปลี่ยนบรรยากาศในบ้านให้ใกล้เคียงออฟฟิศได้

จิลเลียน โรช-ซอนเดอร์ พนักงานบริษัทที่ปรึกษาแห่งหนึ่งบอกว่า "ฉันชอบทำงานท่ามกลางผู้คน เมื่อต้องทำงานที่บ้าน ฉันก็เลยเปิดเสียงบรรยากาศร้านคอฟฟี่ชอปจากแอปพลิเคชันเพื่อสร้างบรรยากาศ

4. โทรศัพท์คุยกัน
คนที่ทำงานที่บ้านมักมีแนวโน้มที่จะรู้สึกโดดเดี่ยว ต่างจากเวลาอยู่ที่ทำงานที่คุณมักจะมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานอยู่เกือบตลอดเวลา แต่พอทำงานที่บ้าน คุณแทบไม่ได้พูดกับใคร

เนื่องจากแต่ละวันคุณพูดกับคนอื่นน้อยลงมาก จึงควรหาเวลายกหูโทรศัพท์คุยกับเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนสนิทบ้าง แทนที่จะเอาแต่ส่งอีเมลหรือตอบข้อความในแอปพลิเคชันสนทนา



"คนจำนวนมากเอาแต่ส่งอีเมลและข้อความ แทนที่จะยกหูโทรศัพท์พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานหรือคนรู้จัก" ฮิวโก มาร์ติเมอร์ ฮาร์วีย์ ซึ่งเป็นฟรีแลนซ์ของบริษัทที่ปรึกษาแห่งหนึ่งตั้งข้อสังเกต

"หลังจากนั่งทำงานคนเดียวมาทั้งวัน การได้สนทนากับคนอื่นจะช่วยให้คุณรู้สึกกระชุ่มกระชวยและผลิตงานได้มากกว่าการนั่งโต้ตอบอีเมล"

แจค อีแวนส์ หัวหน้านักจิตวิทยาของบริษัทโรเบิร์ตสันคูเปอร์ ซึ่งมีแผนจะให้พนักงานทั้งหมดทำงานที่บ้านชั่วคราวกล่าวว่า บริษัทตั้งใจว่าจะให้พนักงานเข้าประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์วันละ 30 นาทีเพื่อจะได้พูดคุยแบบได้ยินเสียงกันและกัน

"ก่อนพักกลางวันเราจะให้พนักงานมาสนทนากันผ่านวิดีโอคอล ไม่ต้องมีหัวข้อหรือวาระอะไรพิเศษ เราแค่ไม่อยากให้พวกเขาง่วนอยู่กับการทำงานเพียงลำพัง เพราะการสนทนาจะรักษาปฏิสัมพันธ์ทางสังคมเอาไว้" เขาระบุ

5. พักบ่อย ๆ
แม้การทำงานและกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเป็นกิจวัตรจะเป็นเรื่องดี แต่ชีวิตก็ไม่ควรต้องทำอะไรซ้ำ ๆ อยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญคือคุณไม่ควรนั่งทำงานอยู่หน้าจอตลอดทั้งวัน คุณควรพักสายตาจากหน้าจอเป็นระยะ ๆ และลุกจากเก้าอี้ไปทำโน่นทำนี่บ้างเหมือนเวลาที่คุณอยู่ออฟฟิศ



หลายคนใชัเทคนิกโพโมโดโรซึ่งกำหนดว่าทุก ๆ 25 นาที จะต้องพัก 5 นาที

นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่ชี้ว่าการพักบ่อย ๆ แต่พักสั้น ๆ ตลอดวัน มีประโยชน์มากกว่าการพักน้อย ๆ แต่พักนาน ๆ

"คุณควรพักสายตาจากหน้าจอด้วยการลุกขึ้นยืน ยืดเหยียด เคลื่อนไหวไปมาหรือออกไปเดินเล่นใกล้ ๆ" เอลลี วิลสัน ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทเวอร์ทาเลนท์ซึ่งมีพนักงานกว่า 50 คนที่ทำงานที่บ้านให้คำแนะนำ

"การทำงานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานโดยไม่พักเลยจะทำให้ผลิตภาพของคุณตกต่ำลง คุณจะรู้สึกเหนื่อยล้า และหมดไฟที่จะทำงานนั้นต่อให้เสร็จลุล่วง" วิลสันเตือน



เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี BBC NEWS


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!


Love Attack  เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน

Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้

Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว
ตามข่าวteenee.com จาก LineToday เข้าไปคลิ๊กกดติดตามได้เลย
กระทู้เด็ดน่าแชร์