ไม่ใช่แค่ ม.จ.จุลเจิม! เผยประวัติ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เรื่องราวที่เจอ
นิตยสาร ศิลปวัฒนธรรม เคยนำเสนอเรื่อง "อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย" เกือบถูก "รื้อ" เพื่อสร้างอนุสาวรีย์ให้ "รัชกาลที่ 7" เขียนโดย เมฆา วิรุฬหก ความว่า อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยถูกสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงการปกครองปี พ.ศ. 2475 โดยกลุ่มคณะราษฎร
แต่เมื่อกลุ่มคณะราษฎรแตกสลาย และ กลุ่มอำนาจเก่าเริ่มกลับมามีบทบาทมากขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อนุสาวรีย์แห่งนี้ก็เกือบสิ้นชื่อ เมื่อรัฐบาลในยุคนั้นเสนอให้มีการ "รื้อ" อนุสาวรีย์แห่งนี้ทิ้งเพื่อสร้าง อนุสาวรีย์ของรัชกาลที่ 7 ขึ้นมาแทนที่
ซึ่งระบุว่า กรมประชาสัมพันธ์ได้ประกาศในเดือนกรกฎาคม 2495 ว่า ทางคณะรัฐมนตรีได้มีมติจัดสร้างอนุสาวรีย์ให้กับ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยที่สี่แยกถนนราชดำเนินตัดกับถนนดินสอ ซึ่งก็ต้องรื้อถอนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยออก เพื่อก่อสร้างอนุสาวรีย์ของพระปกเกล้าฯ ขึ้นแทนที่ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ที่เพิ่งก่อสร้างเสร็จและทำพิธีเปิด เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2483
คณะรัฐมนตรีได้แต่งตั้งให้ พล.ต.บัญญัติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา รมว.มหาดไทย พระยาราชภักดี ปลัดกระทรวงมหาดไทย พ.ท. หลวงบุรกรรมโกวิท อธิบดีกรมโยธาเทศบาล หม่อมทวีวงศ์ ถวัลย์ศักดิ์ ม.จ. สมัยเฉลิม กฤดากร ม.จ. ยาใจ จิตรพงศ์ ม.ร.ว. เทวธิราช ป. มาลากุล ศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี เป็นกรรมการ และ ม.ล.ปุ่ม มาลากุล เป็นทั้งกรรมการและเลขานุการในการดำเนินการสร้างอนุสาวรีย์ดังกล่าว
การก่อรัฐประหารในปี พ.ศ. 2494 คณะผู้ก่อการได้ประกาศให้นำรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2475 มาใช้แทนรัฐธรรมนูญฉบับกษัตริย์นิยม โดยอ้างถึงความสำคัญทางแบบพิธีในฐานะที่รัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2475 เป็นรัฐธรรมนูญที่ได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่ 7 และในบทบัญญัติก็ได้วางแนวทางการแก้ไขไว้แล้ว "ไม่เป็นการสมควรที่ใครจะยกเลิกและสร้างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ แต่เป็นที่น่าเสียใจว่าในชั่วเวลาไม่ถึง 20 ปี ก็ได้มีการแก้ไขและทำรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่หลายครั้ง"
แรกทีเดียวแผนโครงการต้องการให้สร้างอนุสาวรีย์ของพระปกเกล้าฯ บริเวณสนามหญ้าด้านหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคมมุขตะวันออก แต่คณะกรรมการฯ มองว่า พื้นที่ดังกล่าวคับแคบไม่สะดวกแก่ประชาชนที่จะเข้าไปสักการะ พล.ต.บัญญัติ ประธานคณะกรรมการฯ จึงเสนอว่า
"ควรจะสร้างตรงอนุสสาวรีย์ประชาธิปตัยปัจจุบันนี้ เพราะเท่าที่เป็นอยู่ขณะนี้เป็นอนุสสาวรีย์ซึ่งเป็นของสิ่งหนึ่งคือรัฐธรรมนูญ ที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทาน จึงมิใช่พระองค์ท่าน เป็นเพียงวัตถุส่งของเท่านั้น ฉะนั้นเหตุใดจึงไม่เอาพระบรมรูปของพระองค์ท่านตั้งแทน"
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (ประทับรถลาก) ทอดพระเนตรร้านในงานฉลองรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2476 (ภาพจาก The Illustrated London News)
แม้คณะกรรมการฯ จะประกอบด้วยบุคคลที่มีส่วนในการสร้างอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยอยู่ด้วย แต่การคัดค้านการสร้างอนุสาวรีย์ของพระปกเกล้าขึ้นแทนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นเรื่องยาก ซึ่งศรัญญูกล่าวว่าเนื่องมาจาก "กรรมการฯ ส่วนใหญ่มีแนวคิดและอุดมการณ์โน้มเอียงไปทางอนุรักษ์นิยม"
ส่วนเหตุที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยยังคงอยู่รอดมาได้ถึงปัจจุบัน ศรัญญู กล่าวว่า เป็นเพราะโครงการประสบปัญหาขาดงบประมาณ แม้ฝ่ายราชสำนักจะพยายามผลักดันให้มีการสร้างอย่างเร่งด่วน แต่ กระทรวงการคลังที่พล.ต.ประยูร นั่งเก้าอี้เป็นรัฐมนตรีอยู่ด้วยนั้นไม่อาจจัดหาเงินมาได้ และเสนอให้ใช้งบในปี พ.ศ. 2496 แทน คณะกรรมการฯ จึงไปขอให้จอมพล ป. นำงบจากกองสลากมาใช้ แต่จอมพล ป. อ้างว่า เงินสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ใช้ไปหมดแล้ว
สุดท้าย พล.ต.บัญญัติ จึงทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรีในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2496 ให้ระงับการจัดสร้างไว้ก่อนเนื่องจากติดขัดเรื่องงบประมาณ ซึ่งจอมพล ป. รับทราบ พร้อมแสดงความเห็นว่า "เมื่อยังไม่มีเงินก็ให้รอไปก่อน ส่วนการสร้างที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลางนั้น ดูจะไม่เหมาะสม"
อย่างไรก็ดี โครงการรื้อถอนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยของรัฐบาลถนอมก็มิได้เกิดขึ้น และเหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ที่ประชาชนออกมาขับไล่รัฐบาลถนอมก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การก่อสร้างอนุสาวรีย์ของพระปกเกล้าฯ ประสบผลสำเร็จ (แล้วเสร็จในปี 2523 หลังรัฐบาลสัญญา ธรรมศักดิ์ อนุมัติในปี 2517) ซึ่งศรัญญูกล่าวว่า เป็นเพราะอุดมการณ์กษัตริย์ประชาธิปไตยของพระปกเกล้าคือพลังสำคัญในการโค่นล้มรัฐบาลเผด็จการทหาร