การขอเงินด่วนให้ได้จริง ขอกู้ยังไงไม่ให้โดนหลอก

เงินด่วนถือเป็นสิ่งที่ใครๆ ต่างก็อยากที่จะได้มาอยู่ในมือ ไม่ว่าจะเป็นเงินด่วนสำหรับการนำไปชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ หรือจะเป็นการนำเงินไปใช้ตกแต่งบ้านหรือพัฒนาธุรกิจของคุณให้เดินหน้าต่อไปได้ แต่การมองหาตัวช่วยอย่างเงินด่วนนั้น เราจะได้จริงหรือไม่ ก็เป็นคำถามที่หลายๆ คนให้ความสนใจกันอยู่ไม่น้อย เนื่องจากทุกวันนี้ก็มีผู้ให้บริการเงินด่วนที่เป็นเงินกู้นอกระบบอยู่ไม่น้อย อีกทั้งยังมีดอกเบี้ยที่สูง และไม่อยู่ในกรอบของกฎหมายอีกด้วย วันนี้เราก็เลยอยากที่จะมาแนะนำเกี่ยวกับการขอเงินด่วนให้ได้จริงจริงและเป็นเงินด่วนถูกกฎหมายมาฝากทุกคนอีกด้วย ถ้าพร้อมแล้ว ตามไปดูกันเลยว่าจะมีอะไรกันบ้าง

เลือกจากผู้ให้บริการเงินด่วน
     ต้องบอกว่าถ้าใครต้องการที่จะกู้เงินด่วนให้ได้จริง ต้องพิจารณาถึงผู้ให้บริการเงินด่วนให้ดี ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร สถาบันทางการเงิน ผ่านการขอสินเชื่อต่างๆ เป็นต้น ซึ่งในส่วนนี้เราก็ควรพิจารณาว่าสถาบันทางการเงินนั้นๆ ให้บริการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และมีขั้นตอนหรือรายละเอียดอย่างไรบ้าง รวมไปถึงโปรโมชันหรือรายละเอียดของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ว่ามีรายละเอียดอะไรบ้างที่น่าสนใจ ซึ่งอย่าลืมว่าการขอเงินด่วนให้ได้จริงนั้น ควรจะต้องเปรียบเทียบกับที่อื่นๆ เพื่อให้คุ้มค่ามากที่สุดด้วย

พิจารณาดอกเบี้ยให้ดี
      สำหรับการขอสินเชื่อหรือกู้เงินด่วนให้ได้จริงนั้น อย่าลืมพิจารณาถึงดอกเบี้ยที่กำหนดเอาไว้ให้ดี เพราะว่าตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (หรือแบงค์ชาติ) กำหนดเอาไว้นั้น สถาบันการเงินจะสามารถเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมใดๆ ได้ไม่เกินร้อยละ 36 ต่อปี เมื่อนำมาเทียบแล้ว ก็จะสามารถเก็บค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้ไม่เกินร้อยละ 3% ต่อเดือน ซึ่งก่อนที่จะตัดสินใจขอกู้สินเชื่อเงินด่วน ก็ควรที่จะต้องพิจารณาถึงเรื่องของดอกเบี้ยให้ดีด้วย

มีสัญญาเงินกู้ที่ชัดเจน และเป็นธรรม
     ในส่วนของตัวเอกสารและสัญญาการเงินด่วนให้ได้จริงนั้น ควรที่จะต้องมีเอกสารที่ครบถ้วน ชัดเจน มีการระบุรายละเอียดของการกู้ยืมอย่างครบถ้วน ทั้งเรื่องของค่าใช้จ่าย ดอกเบี้ย วันที่กู้ยืม วันครบกำหนดเงินกู้ และต้องมีความเป็นธรรมกับทั้งฝ่ายผู้กู้และสถาบันทางการเงินที่ต้องการยื่นกู้อีกด้วย ดังนั้น ก่อนที่จะลงลายมือชื่อ ควรที่จะต้องอ่านรายละเอียดให้ดีและครบถ้วนการติดตามทวงถามหนี้

และที่สำคัญเลยก็คือเรื่องของการทวงนี้ แม้ว่าจะเป็นการกู้เงินด่วนให้ได้จริง แต่เมื่อขาดการชำระหนี้หรือชำระหนี้ไม่ตรงตามกำหนด ก็จะมีการทวงถามและติดตามหนี้นั้น ซึ่งการทวงหนี้ของสถาบันทางการเงินต่างๆ นั้นก็จะอยู่ในขอบเขตที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ ถ้าหากใครมีปัญหาเกี่ยวกับการชำระหนี้ ให้แจ้งต่อสถาบันทางการเงินที่เป็นเจ้าของหนี้ทราบ เพื่อขอเลื่อนกำหนดชำระหนี้ หรือพักการชำระหนี้ก่อนที่จะเริ่มชำระหนี้ใหม่