หมอไขข้อสงสัย 7 ความเชื่อโควิด-19 ชัวร์หรือมั่วนิ่ม!

สารพัดข้อมูลข่าวสารในช่วงโควิด-19 จริงบ้าง มั่วบ้าง ทำให้ประชาชนหลายคนปฏิบัติตัวไม่ถูก เสี่ยงต่อการติดเชื้อควิด-19 หรือการมีสุขอนามัยที่ไม่ดี อย่างสาระน่ารู้ "7 ความเชื่อเกี่ยวกับ COVID-19 จริงชัวร์หรือมั่วนิ่ม" ของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี โดย ศ. พญ.ศศิโสภิณ เกียรติบูรณกุล ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ความรู้ ดังนี้

1.ฉีดแอลกอฮอล์ใส่หน้ากากอนามัยแล้วนำมาใช้ต่อได้

ไม่จริง การฉีดแอลกอฮอล์ใส่หน้ากากอนามัย เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะด้านหน้าของหน้ากากอนามัยมีการเคลือบสารกันซึมไว้ ดังนั้นการฉีดแอลกอฮอล์ใส่หน้ากากอนามัย จะทำให้คุณสมบัติของสารกันซึมนั้นเสื่อมประสิทธิภาพ เกิดการรั่วซึมและไม่สามารถป้องกันฝุ่นหรือเชื้อโรคได้

2.การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ลดความเสี่ยงในการเป็นโควิด-19

ไม่จริง วัคซีนไข้หวัดใหญ่สามารถป้องกันได้เฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่เท่านั้น ไม่สามารถป้องกันโควิด-19 ได้ แต่การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จะลดความรุนแรงของไข้หวัดใหญ่ ซึ่งอาจจะพบการติดเชื้อร่วมกับโควิด-19

3.ไม่มีไข้ก็สามารถเป็นโควิด-19 ได้

จริง ผู้ติดเชื้อโควิด-19 บางรายอาจไม่มีไข้ได้ บางรายไม่มีอาการใดๆ เลย แต่หากเข้าสู่ระยะที่เป็นมากขึ้น หรือต้องนอนโรงพยาบาล มักจะมีไข้ชัดเจน ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับระยะของโรค

4.การกินวิตามิน หรือสมุนไพร จะช่วยป้องกันโควิด-19

ไม่จริง เพราะยังไม่มีวิตามินหรือสมุนไพรที่ช่วยป้องกันโควิด-19 ได้ อย่างไรก็ตาม ต้องรอการศึกษาวิจัยเพิ่มเติม

5.คนทั่วไปไม่จำเป็นต้องใช้หน้ากากอนามัยประเภทเอ็น 95 (N95)

จริง เพราะหน้ากากอนามัยเอ็น 95 ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้คนทั่วไปใช้ในชีวิตประจำวัน หรือใส่เป็นเวลานานๆ เนื่องจากหน้ากากอนามัยประเภทนี้มีคุณสมบัติป้องกันเชื้อโรคได้สูง เมื่อใส่นานๆ จะเกิดความอึดอัด จึงเหมาะสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ที่ต้องใกล้ชิดกับผู้ป่วย ส่วนคนทั่วไปโดยเฉพาะคนที่ไม่ป่วย สามารถใช้หน้ากากอนามัยแบบผ้าได้ สามารถประหยัดและนำกลับมาใช้ซ้ำได้

6.หากเคยเป็นโควิด-19 แล้วร่างกายจะมีภูมิต้านทาน

จริง ตามหลักการทั่วไปของการติดเชื้อไวรัสนั้น หากหายดีแล้ว ร่างกายจะมีภูมิคุ้มกันหรือภูมิต้านทานป้องกันการกลับเป็นโรคซ้ำ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป เพราะมีรายงานผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อซ้ำแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นจากระดับภูมิคุ้มกันที่ลดลงและหรือการติดเชื้อไวรัสที่กลายพันธุ์

 

7.ล้างมือด้วยสบู่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ดีกว่าเจลแอลกอฮอล์

ไม่จริง เพราะการล้างมือด้วยสบู่และเจลแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น 70 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปนั้น มีประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อได้ไม่ต่างกัน แต่การล้างมือด้วยสบู่มีข้อดีกว่า เพราะสามารถล้างคราบเปอะเปื้อนได้สะอาด และหมดจดกว่าเจลแอลกอฮอล์ ส่วนเจลแอลกอฮอล์จะเหมาะสำหรับการพกพาใช้ระหว่างวัน

คุณหมอคอนเฟิร์ม