รู้จักNUโควิดสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 ไวรัสกลายพันธ์ที่ร้ายแรงที่สุด


รู้จักNUโควิดสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 ไวรัสกลายพันธ์ที่ร้ายแรงที่สุด

     แอฟริกาใต้ประกาศพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ตัวใหม่ล่าสุด "B.1.1.529" ซึ่งเป็นโควิดกลายพันธุ์ที่ "ร้ายที่สุด" เท่าที่เคยพบมา หลังกลายพันธุ์ 32 ตำแหน่ง มากว่าสายพันธุ์เดลต้าที่กลายพันธุ์ 16 ตำแหน่ง อาจหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกัน และแพร่ระบาดได้รวดเร็วมากกว่า 500% คาดฟักตัวจากผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือผู้ป่วยจากโรคเอดส์

วันนี้ (26 พ.ย.64) นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ให้ข้อมูลถึงการค้นพบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ชนิดกลายพันธุ์แบบใหม่ ที่มีชื่อว่า

ชนิด "B.1.1.529" หรือชื่อภาษากรีกว่า "Nu" (Ν,ν) พบเป็นครั้งแรกที่ประเทศบอสวานา (Botswana) เมื่อวันที่ 11 พ.ย. จากนั้น ตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นในแอฟริกาใต้ กระทั่งมีการยืนยันการค้นพบเมื่อ 24 พ.ย.64

การค้นพบดังกล่าว สร้างความวิตกกังวลให้กับนักวิทยาศาสตร์ เนื่องจากไวรัสตัวนี้มีการกลายพันธุ์ (Mutate) มากกว่า 50 ตำแหน่ง และมีถึง 32 ตำแหน่งที่กลายพันธุ์ในส่วนหนาม หรือเอสโปรตีน (Spike protein) ทำให้เกิดความเสี่ยงที่รูปร่างหน้าตาของหนามจะเปลี่ยนแปลงไป จนทำให้วัคซีนจดจำไม่ได้ ขณะที่สายพันธุ์เดลต้า มีการกลายพันธุ์ที่หนามไวรัสเพียง 16 ตำแหน่ง

สำหรับการกลายพันธุ์ใน 32 ตำแหน่งนั้น มีอย่างน้อย 2 ตำแหน่ง ส่งผลกระทบทำให้เพิ่มความสามารถในการติดเชื้อของไวรัส และลดการจดจำของระบบภูมิคุ้มกันต่อไวรัสด้วย

การกลายพันธุ์ของไวรัสมากมายหลายตำแหน่งในการพบครั้งเดียว น่าจะมาจากผู้ป่วยที่มีภูมิต้านทานบกพร่อง เช่น โรคเอดส์ ซึ่งทำให้เกิดมีการติดเชื้อเรื้อรังอยู่ในตนเอง ซึ่งวัคซีนเกือบทุกตัว ยกเว้นวัคซีนเชื้อตาย เช่น ซิโนแวค และซิโนฟาร์ม จะได้รับผลกระทบจากการที่ไวรัสมีการเปลี่ยนแปลงที่ตำแหน่งหนาม ได้แก่

1) ความสามารถในการเข้าเซลล์ของไวรัส

2) การแพร่ระบาดของไวรัส

3) ระบบเซลล์ภูมิคุ้มกันที่จะโจมตีไวรัส ทำงานลำบากมากขึ้น

นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกจึงกังวลเสมอเวลาพบไวรัสที่มีการเปลี่ยนแปลงส่วนหนาม

 




รู้จักNUโควิดสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 ไวรัสกลายพันธ์ที่ร้ายแรงที่สุด

ด้าน นายโจ ปาห์ลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแอฟริกาใต้ กล่าวว่า โควิดกลายพันธุ์แบบใหม่ B.1.1.529 กำลังระบาดอย่างรวดเร็วในประเทศ แต่ยังไม่ทราบว่าเกิดขึ้นครั้งแรกที่ใด

ทำให้ไวรัสกลายพันธุ์ตัวนี้ สร้างความวิตกกังวลอย่างมาก และอยู่เบื้องหลังการติดเชื้อแบบ "ทวีคูณ" ทำให้กลายเป็น "ภัยคุกคามใหญ่" ในประเทศ

นอกจากแอฟริกาใต้แล้ว ไวรัสชนิดกลายพันธุ์แบบใหม่นี้ยังพบในประเทศบอสวานาที่มีพรมแดนติดกัน และในนักท่องเที่ยวคนหนึ่งที่เดินทางจากแอฟริกใต้ไปยังฮ่องกงด้วย

โดยยอดติดเชื้อสายพันธุ์ B.1.1.529 ล่าสุด พบในแอฟริกาใต้ 77 คน บอสวานา 4 คน ฮ่องกง 2 คน อิสราเอล 1 คน รวม 84 คน

นายตูลิอู จี โอลิเวรา ผู้อำนวยการศูนย์เพื่อการตอบสนองโรคระบาดและนวัตกรรมในแอฟริกาใต้ กล่าวว่า ไวรัสชนิดนี้แพร่ระบาดได้รวดเร็วเพียง 1 สัปดาห์ ตรวจพบผู้ติดเชื้อมีจำนวนเท่าๆ กับช่วงโควิดเดลต้าระบาดในเวลา 1 เดือน ซึ่งอาจแพร่เชื้อได้เร็วมากกว่า 500%

เพราะฉะนั้นอาจจะได้เห็นระบบสาธารณสุขรองรับผู้ติดเชื้อจำนวนมากในอีกหลายวัน หรือหลายสัปดาห์ข้างหน้า และแนะนำให้คนทั่วไปงดเข้าร่วมกิจกรรมที่มีคนจำนวนมาก

ขณะที่ ศูนย์ป้องกันสุขภาพของฮ่องกง รายงานถึงการพบผู้ติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์ใหม่ จำนวน 2 ราย ซึ่งได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์มาแล้วและกักตัวอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งบนเกาะเช็กแลปก๊กของฮ่องกง โดยรายแรก เป็นชายวัย 36 ปี เดินทางมาจากแอฟริกาใต้ เมื่อวันที่ 11 พ.ย. และตรวจพบเชื้อในอีก 2 วันต่อมา ขณะกักตัวอยู่ในโรงแรม

ส่วนผู้ป่วยรายที่สองที่พบติดเชื้อสายพันธุ์เดียวกัน เป็นผู้ชายอายุ 62 ปี เดินทางมาจากแคนาดา ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่า ผู้ป่วยรายที่สองนี้อาจติดเชื้อมาจากผู้ป่วยรายแรกที่กักตัวอยู่ในโรงแรมห้องข้างๆ

รายงานอ้างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ฮ่องกงพบว่า ผู้ป่วยรายแรกใช้หน้ากากแบบใช้ซ้ำได้ ชนิดที่มีวาล์วเปิดปิดให้อากาศผ่าน จึงนำหน้ากากดังกล่าวไปตรวจสอบ พบมีเชื้อสะสมอยู่ในหน้ากาก

และทำให้สันนิษฐานว่า นี่อาจเป็นสาเหตุให้เชื้อแพร่ทางอากาศไปยังผู้ป่วยรายที่สองในที่สุด ทำให้รัฐบาลฮ่องกงต้องสั่งห้ามการใช้หน้ากากอนามัยประเภทดังกล่าวในระหว่างกักตัวที่โรงแรม

หลังเกิดเหตุ ทางการฮ่องกงได้สั่งย้ายผู้ที่กักตัว 12 คน ที่อาศัยอยู่ในห้องใกล้เคียงกับผู้ป่วยโควิดออกไปยังสถานที่อื่นแล้ว และให้กักตัวเป็นเวลา 14 วัน โดยจนถึงตอนนี้ยังไม่มีรายงานการพบติดเชื้อเพิ่มเติม

ขณะเดียวกัน วันนี้ (26 พ.ย.64) องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ประชุมฉุกเฉินเพื่อหาทางรับมือโควิดกลายพันธุ์ตัวใหม่ล่าสุดนี้ เบื้องต้นจัดให้อยู่ในหมวดต้องติดตามกันต่อไป หรือ VUM (Variant Under Monitoring) ซึ่งอยู่ในลำดับถัดจาก VOC : Variant of Concern และ VOI : Variant of Interest

ด้าน ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้ว่าโควิดสายพันธุ์ใหม่ "B.1.1.529" ที่พบในแอฟริกาใต้ มีแนวโน้มแพร่กระจายเชื้อได้เร็ว และเกรงว่าจะดื้อต่อวัคซีน แนะยกระดับมาตรการควบคุมนักท่องเที่ยวแอฟริกาใต้ ให้มากกว่าแค่ Test to go เท่านั้น หวั่นหลุดเข้ามาระบาดในประเทศไทย



รู้จักNUโควิดสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 ไวรัสกลายพันธ์ที่ร้ายแรงที่สุด

เครดิตแหล่งข้อมูล : tnnthailand


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ : องุ่นเปรี้ยว แก้เกี้ยวไป
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 58.8.3.173

58.8.3.173,,ppp-58-8-3-173.revip2.asianet.co.th ความคิดเห็นที่ 2 [อ้างอิง]
เรารัก ...เซินเจิ้น


[ วันเสาร์ ที่ 27 พฤศจิกายน 2564 เวลา 08:57 น. ]
คุณ : 1
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 115.87.239.38

115.87.239.38,,ppp-115-87-239-38.revip4.asianet.co.th ความคิดเห็นที่ 3 [อ้างอิง]
ขอบคุณบทความนี้ค่ะ เป็นแอดมินที่เขียนข่าวดีที่สุดของที่นี่เลยค่ะ


[ วันจันทร์ ที่ 29 พฤศจิกายน 2564 เวลา 09:55 น. ]
ตามข่าวteenee.com จาก LineToday เข้าไปคลิ๊กกดติดตามได้เลย
กระทู้เด็ดน่าแชร์