เเพทย์เตือน อาหารเช้า 2 อย่าง กินคู่กันซ้ำๆอันตรายถึงชีวิต!

เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานกรณีแพทย์รายหนึ่งออกมาแชร์เคสคนไข้วัย 26 ปีที่ต้องการลดน้ำหนักแทบไม่กินเนื้อสัตว์ เลือกกินแต่ผักกับธัญพืชทุกวัน และเลือกกินโจ๊กกับปาท่องโก๋เป็นมื้อเช้า ติดกันนาน 2 เดือน สุดท้ายพบเป็นลมหมดสติ เสียชีวิตในที่สุด

ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นประเทศเวียดนามเผยว่า เคสหญิงสาวรายนี้อายุ 26 ปี เธอกำลังลดน้ำหนัก กินแต่ผักหรือธัญพืชทุกวัน แทบไม่กินเนื้อสัตว์ โดยอาหารเช้าที่มักเลือกทานคือโจ๊กไข่เค็มคู่กับชาเผือก หรือซีเรียล และเพียง 2 เดือน ก็เห็นผลการลดน้ำหนักได้ทันตา

อย่างไรก็ตาม ไม่นานหลังจากนั้น ขณะที่เธอออกกำลังกายกระโดดเชือกที่บ้านตนเอง จู่ๆ เธอเริ่มรู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรงและหมดสติไป สามีของเธอเป็นผู้มาพบและรีบนำส่งห้องฉุกเฉินทันที ต่อมาผลตรวจพบว่า ภรรยามี "เลือดออกในสมอง" น่าเศร้าเธอเสียชีวิต เนื่องจากการเสียเลือดมากเกินไป

หลังจากการเสียชีวิตอันน่าสลดของเธอครั้งนี้ แพทย์ทราบในภายหลังถึงนิสัยการทานอาหารของเธอ โดยพบว่า มื้อเช้าที่เธอมักจะทานเป็นประจำคือ โจ๊กไข่เค็ม หรือไข่เยี่ยวม้า คู่กับปาท่องโก๋ด้วย ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตได้ง่าย

ทั้งนี้ โจ๊กถือเป็นหนึ่งในอาหารเช้ายอดนิยมที่สุดเมนูหนึ่ง อย่างไรก็ดีส่วนผสมบางอย่างอาจไม่ดีต่อหลอดเลือด อย่าง ไข่เค็ม-ไข่เยี่ยวม้ามีสารตะกั่วเป็นโลหะหนัก และมีคอเลสเตอรอลสูงมาก หากรับประทานเป็นประจำ หลังจากผ่านไประยะหนึ่งจะทำให้หลอดเลือดหดตัว ส่งผลให้หลอดเลือดแข็งตัวได้ง่าย

นอกจากนี้ ปาท่องโก๋ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มักถูกนำมาทานคู่กับโจ๊ก แต่การทานเข้าไปก็เหมือนเพิ่มการอุดตันของหลอดเลือด ไขมันจะเพิ่มความหนืดของเลือด และอาจทำให้หลอดเลือดอุดตัน เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะหลอดเลือดแข็งอีกด้วย

สำหรับ โรคเลือดออกในสมอง (Intracerebral hemorrhage/Brain bleeds) คือ ภาวะที่หลอดเลือดในสมองแตก ทำให้เลือดไหลออกไปกดเนื้อเยื่อสมอง ทำให้สมองขาดออกซิเจนและไม่สามารถทำหน้าที่ของสมองส่วนนั้นได้ ภาวะเลือดออกในสมองเป็นอันตรายถึงชีวิต และมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ป่วยจะต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์โดยเร็วที่สุด