6ประเทศที่คนไทยเคยฝันถึง แต่ชีวิตจริงอาจไม่เป็นอย่างที่คิด


6ประเทศที่คนไทยเคยฝันถึง แต่ชีวิตจริงอาจไม่เป็นอย่างที่คิด


หลายครั้งที่คนไทยเรามักมองหาโอกาสและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในต่างแดน ด้วยความเชื่อที่ว่าการไปใช้ชีวิตในต่างประเทศจะนำมาซึ่งสิ่งที่ดีกว่า แต่จากประสบการณ์จริงของหลายๆ คน กลับพบว่าความเป็นจริงนั้นแตกต่างจากที่วาดฝันไว้มาก วันนี้ได้รวบรวมเรื่องราวจาก 6 ประเทศที่เคยเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของคนไทยจำนวนมาก แต่สุดท้ายแล้วกลับต้องเผชิญกับความท้าทายที่ทำให้พวกเขาต้องกลับมาทบทวนความคิดใหม่

เกาหลีใต้: เสน่ห์เค-ป๊อปที่มาพร้อมความจริงอันโหดหิน

เกาหลีใต้ดึงดูดใจคนไทยจำนวนมากด้วยภาพลักษณ์ที่ทันสมัย อาหารอร่อย แฟชั่น เทคโนโลยี และค่าแรงที่ดูสูง แต่เมื่อได้สัมผัสชีวิตจริง หลายคนพบว่าเส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ วัฒนธรรมการทำงานที่เข้มงวด มีระเบียบวินัยสูง และการแบ่งชนชั้นอย่างชัดเจน สร้างความอึดอัดให้กับคนไทยที่คุ้นเคยกับความผ่อนคลายมากกว่า นอกจากนี้ อุปสรรคทางภาษายังเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันและการเข้าถึงบริการต่างๆ เป็นเรื่องยาก แม้ค่าแรงจะสูง แต่ค่าครองชีพ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างโซลหรือปูซาน ก็สูงลิบลิ่ว จนทำให้หลายคนรู้สึกว่าเป็นการเอาชีวิตรอดมากกว่าการใช้ชีวิตอย่างแท้จริง

อิสราเอล: ดินแดนแห่งโอกาสที่แลกมาด้วยความเสี่ยง

อิสราเอลเคยเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของแรงงานไทยที่ต้องการค่าแรงสูง โดยเฉพาะในภาคเกษตรกรรม แต่ความเป็นจริงคือ งานหนักมาก ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่รุนแรง ไม่ว่าจะเป็นร้อนจัดหรือหนาวจัด ทำงานเป็นเวลานาน และมีเวลาพักผ่อนน้อย สภาพความเป็นอยู่ก็มักจะเรียบง่าย ห้องพักรวม ขาดสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน ทำให้การติดต่อกับครอบครัวเป็นเรื่องยาก ความรู้สึกโดดเดี่ยวยิ่งเพิ่มขึ้นจากการต้องอยู่ห่างไกลในฟาร์ม และความแตกต่างทางภาษาและวัฒนธรรม ยิ่งไปกว่านั้น สถานการณ์ความขัดแย้งและสงครามที่ทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ได้ทำให้ประเทศนี้กลายเป็นพื้นที่อันตราย แรงงานไทยจำนวนมากต้องเผชิญกับความเสี่ยงถึงชีวิต ทำให้หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่าผลตอบแทนทางการเงินคุ้มค่ากับความเสี่ยงที่ต้องเผชิญหรือไม่

สหราชอาณาจักร (อังกฤษ): ความศิวิไลซ์ที่มาพร้อมความเย็นชา

อังกฤษมักถูกมองว่าเป็นประเทศที่เจริญ มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม มหาวิทยาลัยระดับโลก และไลฟ์สไตล์ที่ดูดีมีระดับ แต่สำหรับคนไทยจำนวนไม่น้อย สภาพอากาศที่มักจะฝนตกบ่อย ขาดแสงแดด และอากาศเย็นชื้น เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตใจ วัฒนธรรมที่แม้จะสุภาพแต่ก็ดูห่างเหินและสงวนท่าที ทำให้คนไทยผูกมิตรได้ยาก และสำเนียงภาษาอังกฤษที่หลากหลายก็เป็นอุปสรรคในการสื่อสาร ค่าครองชีพ โดยเฉพาะในลอนดอน สูงมาก ทั้งค่าที่พัก ค่าเดินทาง และค่าอาหาร นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงนโยบายหลัง Brexit ยิ่งทำให้ชีวิตของแรงงานและนักศึกษาต่างชาติยากลำบากและไม่มั่นคง

ญี่ปุ่น: ดินแดนแห่งระเบียบวินัยที่ซ่อนเร้นความโดดเดี่ยว

ญี่ปุ่นดึงดูดใจด้วยความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย วัฒนธรรมที่น่าสนใจ อาหารเลิศรส และเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ แต่ภายใต้ภาพลักษณ์อันสวยงามนี้ ซ่อนไว้ด้วยวัฒนธรรมการทำงานและความคาดหวังทางสังคมที่สูงมาก ผู้คนต้องทำงานภายใต้แรงกดดันมหาศาลเพื่อความสมบูรณ์แบบและระเบียบวินัย ซึ่งสร้างความเครียดให้กับคนไทยไม่น้อย ความเหงาและการถูกโดดเดี่ยวเป็นปัญหาสำคัญ เพราะการสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคนญี่ปุ่นเป็นเรื่องยากเนื่องจากความแตกต่างทางวัฒนธรรมในการสื่อสารและการแสดงออกทางอารมณ์ ค่าครองชีพที่สูง โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ทำให้แม้จะมีรายได้ดี การเก็บออมเงินก็เป็นเรื่องท้าทาย และระบบราชการที่เข้มงวดสำหรับชาวต่างชาติในเรื่องวีซ่าและการเข้าถึงบริการต่างๆ ก็เป็นอีกหนึ่งความไม่สะดวกที่ต้องเจอ

เนเธอร์แลนด์: คุณภาพชีวิตที่ดีที่มาพร้อมความห่างเหิน

เนเธอร์แลนด์ดูเหมือนจะเป็นประเทศที่สมบูรณ์แบบ ด้วยเมืองที่สวยงาม ปลอดภัย การคมนาคมสะดวก มีเสรีภาพสูง และคุณภาพชีวิตที่ดี แต่คนไทยหลายคนรับรู้ถึง "ความเย็นชา" ไม่ใช่แค่สภาพอากาศ แต่จากผู้คนด้วย ซึ่งถูกมองว่าไม่ค่อยเปิดเผย ทำให้ผูกมิตรได้ยาก การสื่อสารที่ตรงไปตรงมาของชาวดัตช์ก็อาจทำให้คนไทยที่ไม่คุ้นเคยกับการสื่อสารทางอ้อมรู้สึกขัดใจ แม้จะมีระบบสวัสดิการสังคมที่ดี แต่การเข้าถึงก็อาจเป็นเรื่องยากสำหรับชาวต่างชาติเนื่องจากระบบราชการและอุปสรรคทางภาษา แม้จะมีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่คนไทยจำนวนมากก็ไม่รู้สึก "เหมือนอยู่บ้าน" และคิดถึงความอบอุ่นของวัฒนธรรมและความสัมพันธ์แบบไทยๆ ค่าครองชีพที่สูงก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การเก็บเงินเป็นเรื่องท้าทาย

สหรัฐอเมริกา: ความฝันแบบอเมริกันที่ต้องแลกด้วยความโดดเดี่ยว

"ความฝันแบบอเมริกัน" ที่ว่าด้วยโอกาส เสรีภาพ และความเท่าเทียมกัน เป็นสิ่งที่ดึงดูดใจคนจำนวนมากให้เดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา แต่สิ่งที่สร้างความตกใจอย่างมากคือ ค่าครองชีพที่สูงลิบลิ่ว โดยเฉพาะค่าที่พักในเมืองใหญ่และค่ารักษาพยาบาล ความเหงาและการถูกโดดเดี่ยวทางสังคมเป็นเรื่องปกติ แม้แต่สำหรับผู้ที่พูดภาษาอังกฤษได้ เพราะขาดการสนับสนุนจากครอบครัวและชุมชน ความแตกแยกทางสังคมก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้รู้สึกไม่เป็นส่วนหนึ่ง การถูกเอารัดเอาเปรียบในตลาดแรงงานเป็นความเสี่ยง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ถือวีซ่าทำงานหรือแรงงานที่ไม่มีเอกสาร ซึ่งต้องทำงานเป็นเวลานาน ไม่มีสวัสดิการ และต้องอยู่ด้วยความหวาดกลัว แม้แต่ผู้ที่ทำงานอย่างถูกกฎหมายในสายอาชีพ การแข่งขันก็สูงมาก และระบบถูกอธิบายว่าเป็นทุนนิยมสุดขั้วที่การเอาชีวิตรอดต้องใช้ความพยายามอย่างมหาศาล หลายคนกลับมาประเทศไทยและชื่นชมคุณภาพชีวิตในด้านต่างๆ เช่น ครอบครัว อาหาร การเข้าถึงการรักษาพยาบาล และความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคม โดยรู้สึกว่าอเมริกาสอนให้พวกเขาเติบโต แต่ประเทศไทยสอนให้พวกเขารักตัวเอง

สรุปได้ว่า
บางครั้งประสบการณ์เพียงครั้งเดียวในต่างแดนก็เพียงพอที่จะสอนให้เราได้รู้ว่าที่นั่นไม่ใช่ที่ที่เหมาะสม และการได้กลับมายังบ้านเกิด เพื่อปกป้องความเป็นอยู่ที่ดีของตนเอง ก็เป็นสิ่งที่ไม่ผิดเลย


เครดิต :
เครดิต : ที่นี่ดอทคอม ทันทุกเรื่องฮิต


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์