ครั้งแรกในประวัติศาสตร์! ไทยผลิต ยามะเร็งมุ่งเป้า ได้เอง!

ครั้งแรกของไทย! "ยาอิมครานิบ 100" ยามะเร็งมุ่งเป้าตำรับแรก ผลิตสำเร็จในประเทศ ลดค่าใช้จ่ายกว่า 10 เท่า!

ข่าวดีสำหรับผู้ป่วยมะเร็งในประเทศไทย! โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ประกาศความสำเร็จในการผลิต "ยาอิมครานิบ 100" (IMCRANIB 100) ซึ่งเป็นยารักษามะเร็งแบบมุ่งเป้าตำรับแรกที่ผลิตขึ้นในประเทศไทย โดยพร้อมใช้งานเพื่อรักษาผู้ป่วยมะเร็งตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป

ยามะเร็งมุ่งเป้า: แม่นยำกว่า ลดผลข้างเคียง
"ยาอิมครานิบ 100" เป็นยารักษาแบบมุ่งเป้าที่ออกฤทธิ์โดยการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซีนไคเนส (Tyrosine Kinase Inhibitors) ซึ่งช่วยยับยั้งการเติบโตและการกระจายของเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ค่อยส่งผลกระทบต่อเซลล์ร่างกายปกติ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการข้างเคียงต่ำกว่าการรักษาด้วยเคมีบำบัดแบบดั้งเดิม

ยานี้สามารถใช้รักษาโรคมะเร็งได้หลายประเภท เช่น โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังชนิดซีเอ็มแอล, มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดฟิลาเดลเฟียบวก, มะเร็งเนื้อเยื่อในระบบทางเดินอาหาร (GIST) และมะเร็งผิวหนังชนิดหายาก (DFSP)

แก้ปัญหาข้อจำกัด ลดภาระนำเข้ายา
แม้ว่ายาอิมาทินิบ (ตัวยาสำคัญในอิมครานิบ) จะสามารถเบิกจ่ายจากกองทุนสุขภาพได้ในหลายโรคอยู่แล้ว แต่ยังมีข้อจำกัดในบางโรคและบางระยะของโรคที่ยังไม่ครอบคลุม การผลิตได้เองในประเทศนี้จะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว โดยการขยายขอบเขตการใช้ยาให้ครอบคลุมทุกข้อบ่งชี้ของการรักษา ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการควบคุมโรค ลดความทุกข์ทรมาน และช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการนำเข้ายาจากต่างประเทศได้มากถึง 10 เท่า

พระนโยบายสำคัญ: ยกระดับความมั่นคงทางยาของประเทศ
ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงวางพระนโยบายการวิจัยและผลิตยารักษามะเร็งอย่างรอบคอบ ทรงให้ความสำคัญต่อการดูแลผู้ป่วยในทุกมิติ รวมถึงการพัฒนายารักษามะเร็งชนิดมุ่งเป้าที่มีประสิทธิภาพสูง

ความสำเร็จครั้งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนตำรับยาจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 และนับเป็นพระกรุณาธิคุณที่ช่วยประชาชนคนไทยให้พ้นจากทุกข์ภัยของโรคมะเร็ง อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาองค์ความรู้ เสริมสร้างทักษะความชำนาญด้านเภสัชอุตสาหการและเทคโนโลยีเภสัชกรรมของบุคลากรไทย สร้างความมั่นคงทางยาให้กับประเทศ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนไทยอย่างยั่งยืน