" หลักของการเจริญวิปัสสนา คือให้มีสติ
รู้รูปธรรม นามธรรม ตามความเป็นจริง
ด้วยจิตที่ตั้งมั่น และเป็นกลาง "
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ได้นำพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาเทศนาสั่งสอนผู้สนใจในธรรมปฎิบัติด้วยภาษาที่สามารถสื่อสารและเข้าใจได้ง่าย สำหรับคนในยุคปัจจุบัน สำหรับเรื่องราว "แนวทางการปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนา" ในกท.นี้ คือสรุปพระธรรมเทศนาของหลวงพ่อ จำนวน 10 กัณฑ์ ระหว่างเดือนมิถุนายน ถึงเดือนกันยายน ๒๕๕๑ โดยคัดเอาเฉพาะหลักคำสอนที่สำคัญมาเขียน เพื่อให้ผู้ที่ต้องการศึกษาสามารถทำความเข้าใจคำสอนได้ง่ายยิ่งขึ้น และผู้โพสหวังว่าจะเป็นอีกช่องทางหนึ่ง ในการเผยแผ่สัจธรรมของพระพุทธองค์ ให้กว้างขวางยิ่งขึ้นไป ซึ่งหลวงพ่อก็ได้เมตตาอนุญาต ให้เผยแผ่เป็นธรรมทาน นับว่าเป็นความกรุณาอย่างหาที่สุดมิได้ และหากมีข้อผิดพลาดใดๆ เกิดขึ้น ข้าพเจ้าขอน้อมรับเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว
ด้วยจิตคารวะ / สีลสิกขา
๑. โอกาสทองของชีวิต
พวกเรามีบุญวาสนานะ ได้เกิดในแผ่นดินซึ่งศาสนาพุทธยังดำรงอยู่ หลักธรรมแท้ ๆ ที่พระพุทธเจ้าสอน ยังได้รับการถ่ายทอดอยู่ เราได้เกิดเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ได้พบสัตบุรุษแล้วมีศรัทธาสนใจที่จะศึกษา..ยากมากนะที่จะมีสภาวะอย่างนี้ ธรรมะของพระพุทธเจ้ากระจ่าง แจ่มแจ้ง พิสูจน์ได้ด้วยตนเอง และต้องเห็นผลเร็วด้วย ใครๆ ไปเรียนธรรมะจากพระพุทธเจ้า ถึงอุทานบอก " แจ่มแจ้งนักพระเจ้าข้า เหมือนเปิดของคว่ำให้หงาย " ง่าย คว่ำๆ อยู่ จับหงาย มันยากเหรอ
ธรรมะของพระพุทธเจ้า
งดงามในเบื้องต้น คือชี้ทางให้เราเดินไปได้ งดงามในท่ามกลาง คือมีเหตุมีผลสมบูรณ์อย่างนี้ถูก อย่างนี้ผิด พิสูจน์ได้ด้วยตัวเองอยู่ตลอดเวลา งดงามในที่สุดคือ เราละกิเลสได้จริง ๆ ความทุกข์ตกหายไปได้จริงๆ เป็นลำดับๆ ไป
แต่ถ้าเรารู้ลงในกายในใจ มันไม่ใช่ของดีของวิเศษ กายนี้ใจนี้เป็นแต่ตัวทุกข์ พอเห็นอย่างนี้แจ่มแจ้งนะ มันจะวาง ไม่ยึดถือกาย ไม่ยึดถือใจ เมื่อไม่ยึดถือกายไม่ยึดถือใจ จะยึดอะไรอีก ไม่มีแล้ว เพราะสิ่งที่ยึดมากที่สุดคือกายกับใจ ระหว่างกายกับใจ ก็ยึดใจมากกว่ากาย
วัตถุประสงค์ของเราชาวพุทธก็คือ ต้องพ้นทุกข์ พ้นทุกข์ก็คือนิพพานนั่นเอง คือพ้นจากความยึดถือกาย ยึดถือใจ เพราะกายกับใจคือตัวทุกข์
เรามีเป้าหมายอยู่ ๔ เป้าหมาย