ถาม : การทำใจให้ผ่องใสในกรณีที่มีทุกข์เข้ามารอบด้าน ควรจะปล่อยวางอย่างไร คิดอย่างไรไม่ให้ทุกข์ และไม่ให้ใจเศร้าหมอง ?
ตอบ : เขาให้เลิกคิด ไม่ใช่คิดอย่างไรไม่ให้ใจเศร้าหมอง คิดเมื่อไรก็เจ๊งเมื่อนั้นแหละ..!
หยุดคิดเป็นไหม ? คนเราทุกวันที่ทุกข์อยู่ ส่วนใหญ่แล้วทุกข์เพราะความคิดตัวเอง เพราะความคิดของเราที่มักจะเอาไปเปรียบเทียบกับอดีตที่ผ่านมาแล้ว ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้นเลย น่าจะเป็นอย่างนี้ แล้วก็ไปฟุ้งซ่านถึงอนาคต ว่าควรจะเป็นเช่นนั้น ควรจะเป็นเช่นนี้ เป็นการส่งกำลังใจออกนอก ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านตรัสว่าเป็นสาเหตุของความทุกข์ เพราะฉะนั้น..ถ้าไม่อยากจะทุกข์ก็ต้องหยุดคิด
การที่จะหยุดคิดได้ ต้องหยุดความรู้สึกของเราเอาไว้แค่ลมหายใจเข้าออก ซักซ้อมกำลังใจเราให้เกาะลมหายใจเข้าออกเป็นปกติ ถ้ากำลังใจทรงตัวถึงสมาธิ รัก โลภ โกรธ หลง ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นไฟเผาเราอยู่ จะโดนกำลังของสมาธิกดดับลงชั่วคราว ความทุกข์จะไม่ปรากฏ กำลังใจก็จะผ่องใส
เพราะฉะนั้น..อย่าถามว่าคิดอย่างไร เพราะตอนที่กิเลสรุมตีนี่คิดไม่ทันหรอก เราต้องหยุดคิด ควรจะซักซ้อมบ่อยๆ ทุกเวลาที่มีโอกาส ไม่อย่างนั้นแล้วถ้าเราไปรอ เวลาเจอข้าศึกแล้วค่อยไปซ้อม ไม่ทันรับประทานหรอก อย่างเช่นคนที่กลัวตาย ต้องซักซ้อมถึงความตายอยู่บ่อยๆ ที่ ท่านพุทธทาสภิกขุ ใช้คำว่า "ตายก่อนตาย" ในเมื่อซักซ้อมนึกถึงความตายอยู่บ่อยๆ พยายามทำใจของตนให้ชิน ว่าความตายต้องมาถึงเราอย่างแน่นอน เพราะปกติธรรมดาเป็นเช่นนั้น
ถ้าซักซ้อมจนชิน จะไม่เห็นว่าความตายน่ากลัว บางทีลืมกลัวไปตอนไหนก็ไม่รู้ แต่ถ้าเราไม่ซ้อม ปุบปับจะให้คิดอย่างนั้นได้เลย รอไปก่อนเถิด เพราะฉะนั้น..หยุดคิดให้เป็นนะจ๊ะ หยุดไม่เป็น เย็นไม่ได้ ไม่ได้เล่นสำนวนนะ..นี่เป็นเรื่องจริง
สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
ณ บ้านวิริยบารมี เดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๖
ที่มา : เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนมีนาคม ๒๕๕๖ - หน้า 3 - กระดานสนทนาวัดท่าขนุน