"ความผูกโกรธ ดังไฟสุมขอน"
" .. ไฟสุมขอนมีความร้อนกรุ่นอยู่ตลอดเวลาเป็นเช่นไร
ความผูกโกรธไว้ก็เป็นเช่นนั้น เผารุมร้อนกรุ่นอยู่เช่นนั้น
แตกต่างกันเพียงที่ไฟสุมขอนร้อนอยู่ที่ขอนไม้
แต่ความผูกโกรธร้อนอยู่ในหัวอก
การดับไฟสุมขอน ต้องใช้น้ำราด
ไฟดับสนิทแล้วขอนก็มอดไหม้
ทิ้งความสกปรกเลอะเทอะหลงเหลืออยู่
แต่การดับความผูกโกรธ ใช้สติปัญญาหยุดความคิดปรุงแต่งเพียงเท่านั้น
ความผูกโกรธก็จะดับ
นอกจากจะไม่หลงเหลือความสกปรกอยู่หลังการดับความผูกโกรธ
ยังจะมีความผ่องใสเยือกเย็นอีกด้วย .. "
สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก