ท่านพุทธทาสภิกขุ กล่าว่า “ บุญ ”
มีความหมายว่า ทำให้ฟู หรือ พองขึ้น บวมขึ้น นูนขึ้น
บุญ เป็นสิ่งที่ทำให้ฟูใจ พอใจ ชอบใจ จากคำกล่าวนี้ของท่าน เห็นทีคงต้องรู้สึกด้วยตัวเอง = )
นอกจากนี้ ผู้เขียนขอพูดถึง“ บุญ ” จาก หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ พระเถระผู้ใหญ่ อายุ 91 ปีแล้วในปี พ.ศ. 2557 นี้ พระผู้ที่พุทธศาสนิกชนเคารพเลื่อมใสศรัทธามาก จนบางคนกล่าวขานท่านว่า เป็นนักบุญแห่งที่ราบสูง หลวงพ่อคูณ ให้ยึดมั่นและให้เชื่อว่า บาปมีจริง บุญมีจริง ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ให้ปฏิบัติตามศีล ๕ อันเป็น รากเหง้าของศีล เท่านี้ก็นับว่าเป็นมนุษย์สุดประเสริฐแล้ว
หลวงพ่อให้ข้อคิดเกี่ยวกับการทำ“ บุญ ” ว่า การทำบุญ อย่าไปกลัวบุญ อย่าไปอายบุญ ต้องไปแข่งกับเขา ทำเหมือนกับการสร้างพระประธานเอาไว้ในโบสถ์ สร้างได้แค่องค์เดียว ต้องแย่งกันจอง เหมือนกฐินที่จะนำไปทอดวัดที่มีชื่อเสียง ถ้าไม่จองกันไว้ก่อน มีเงินล้นฟ้าเท่าไรก็ทอดไม่ได้ ฉันใด..ก็ฉันนั้น..
วันนี้ หลวงพ่อคูณ ได้ฝากผลงานจากดำริของท่าน ซึ่งท่านต้องการให้เงินทำบุญที่ชาวบ้านนำมาถวายไปใช้ให้เกิดประโยชน์ สิ่งที่หลวงพ่อดำริไว้ ปัจจุบันนี้ เสร็จสิ้นแล้ว คือ “ วิหารเทพวิทยาคม ” วิหารแห่งนี้ มีความวิจิตร สวยงาม ตระการตาอย่างมาก ตกแต่งด้วยเซรามิก ทุนสร้าง 300 ล้านบาท วิหารเทพวิทยาคม เป็นแหล่งความรู้ทางพุทธศานา ผลจากความคิดของหลวงพ่อคูณ ที่สร้างสถาปัตยกรรมอันสวยงาม อลังการเช่นนี้ จะเป็นแรงดึงดูดให้ผู้คนเดินทางไปเยี่ยมชม และเมื่อไปถึงก็จะต้องเข้าไปชมข้างในวิหาร ซึ่งหลวงพ่อได้นำเสนอเรื่องราวของพุทธศานาไว้ ถือเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งก็ว่าได้
| วิหารเทพวิทยาคม วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา เปิดให้เข้าชม ทุกวัน เวลา 08:30 - 17:00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ 044-249-999 |
|
เมื่อวันที่ 31 มี.ค 57 ผู้เขียนได้ฟังสถานีวิทยุสังฆทานธรรม FM 89.25 ช่วงค่ำ ซึ่งทางวัดจะนิมนต์พระจากที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ร่วมสวดอภิธรรมเนื่องในการมรณภาพของ หลวงพ่อสนอง กตปุญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดสังฆทานธรรม
พร้อมนิมนต์ประธานสวดอภิธรรมเทศน์ ซึ่งในวันดังกล่าวนี้ พระที่มาเทศน์ คือ ศาสตราจารย์ ดร. พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
|
ดร.พระมหาประยูร ได้เล่านิทานเรื่องหนึ่ง น่าสนใจดี ผู้เขียนขอนำมาเล่าต่อให้กับท่านผู้อ่านไว้ ณ ที่นี้ เรื่องมีอยู่ว่า
มีเศรษฐีคนหนึ่งรวยมาก เศรษฐีคนนี้ มีภรรยาตั้ง 4 คน ภรรยาคนที่ 4 สาวสวย เศรษฐีรักมากที่สุด มีเงินก็ให้ มีเครื่องประดับก็ให้ มีของอะไรต่างๆ ปรนเปรอ ให้ ภรรยาคนที่ 3 สาว เป็นคนฉลาดในการเข้าสังคม เศรษฐีควงไปนั่น ไปนี้ ภรรยาคนที่ 2 เศรษฐีไว้วางใจมากที่สุด เรียกว่าเพื่อนคู่คิด มิตรคู่ใจ ทำธุรกิจก็เป็นที่ปรึกษา ส่วน ภรรยาคนที่ 1 ก็คือ ภรรยาหลวง ไม่สนใจ ปล่อยให้ผอมแห้ง
จนกระทั้งวันหนึ่ง หมอบอกว่า เศรษฐีคนนี้ ป่วยเป็นมะเร็ง ระยะสุดท้าย เศรษฐีก็นึกถึง ภรรยา 4 คน เราจะทิ้งเขา จะดูกระไรอยู่ จะตายอย่างเงียบเหงา ว่าแล้วไปชวนให้ตายตามกันไปซักคนจะดีกว่า เพื่อเป็นเพื่อนในปรโลก
เศรษฐี จึงไปหา ภรรยาคนที่รักมากที่สุด บอกว่า “ น้อง..พี่กำลังจะตายแล้ว เธอตายตามไปกับฉันไหม ”
ภรรยาคนที่ 4 บอกว่า “ ไม่มีทาง ” พูดเสร็จก็เดินหนีไป เศรษฐีช๊อคเลย จึงไปหาภรรยาคนที่ 3
ภรรยาคนที่ 3 บอกว่า “ รีบตายเลยนะ ฉันจะได้มีผัวใหม่ ” นี่หนักเขาไปอีก แล้วเศรษฐีก็ไปหาภรรยาคนที่ 2 ที่เป็นเพื่อนคู่คิด
ภรรยาคนที่ 2 บอกว่า “ ถึงจะรักกัน ก็ส่งแค่เชิงตะกอน ไปเผาที่เมรุให้ จะให้ตายตาม ไม่ยอม ” ในขณะที่เศรษฐีหมดหวัง เศรษฐีก็ได้ยินเสียง ภรรยาคนที่ 1 พูดขึ้นมาเบาๆ ว่า “ พี่ตาย น้องก็จะตายตามด้วย ” พอเศรษฐีหันไป เศรษฐีรู้สึกเสียใจ ที่ปล่อยทิ้งภรรยาคนที่ 1 ไม่อยู่ในสายตา แต่ภรรยาคนที่ 1 คนนี้รักเศรษฐีเหลือเกิน จะตามไปอยู่ปรโลกด้วย
ดร.พระมหาประยูร บอกว่า ชีวิตของคนเราก็เหมือนเศรษฐีคนนี้ ภรรยา 4 คน เป็นปริศนาธรรม ทุกคนมี 4 อย่าง ด้วยกัน คือ
ภรรยาคนที่ 4 สาวสวย เศรษฐีรักมากที่สุด มีเงินก็ให้ มีเครื่องประดับก็ให้ มีของอะไรต่างๆ ปรนเปรอ ให้ หมายถึง ร่างกายของคนเรา เราแต่งหน้าแต่งตาทุกวัน มีอาหารดีๆ ก็ ปรนเปรอก่อน พอเราตาย ก็นอนนิ่งไม่ไปกับเรา แต่เรากลับเอาใจใสร่างกายของเรามาก
ภรรยาคนที่ 3 ที่สาวสวย เข้าสังคม เศรษฐีตาย ฉันจะมีผัวใหม่ หมายถึง ทรัพย์สมบัติ ชื่อเสียง พอเราตาย ก็เปลี่ยนเจ้าของใหม่ บ้าน รถ คนอื่นก็เอาไป
ภรรยาคนที่ 2 ที่เป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่ใจ หมายถึง ญาติ สนิท มิตรสหาย ตายไปเขาก็ไปส่งที่เชิงตะกอน
ส่วน ภรรยาคนที่ 1 หมายถึง บุญ กุศล เวลาเศรษฐีมีชีวิตอยู่ หาแต่ เงิน ทอง ไม่มีเวลาทำบุญ บุญจึงผอมแห้งแรงน้อย เหมือน ภรรยาคนที่ 1 แล้วพอจะติดตามไป ก็ไปได้ไม่มาก
ดร.พระมหาประยูร ให้เราเอาใจใส่ในภรรยาคนที่ 1 คือ การทำบุญ ทำกุศล แล้ว บุญ กุศล จะเป็นเสบียงติดตามตนไปสู่ปรโลก พระพุทธเจ้าตรัส ว่า “ ปุญญานิ ปรโลกัสมิง ปติฏฐา โหนติ ปาณินัง ” บุญทั้งหลายเป็นที่พึ่งของสัตว์ผู้ละโลกนี้ ไปสู่โลกหน้า และท่านยังมีวลี ที่เข้าใจแบบง่ายๆ ว่า
บาป คือ พวกปล้น
บุญกุศล คือ สมบัติใหญ่
ชีวิต คือ การเดินทาง
เรือนร่าง คือ ศาลาอาศัย
เรื่องของคำว่า “ บุญ ” เป็นสิ่งที่ผู้เขียนเห็นว่า คงต้องให้แต่ละท่านสัมผัสด้วยตนเอง ทั้งทาง กาย วาจา ใจ หรือ ในจิตของแต่ละท่าน ด้วยแนวทางที่ได้รับคำแนะนำจากผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ผ่านบทคำสอน ผ่านพระสงฆ์ผู้ศึกษาในเรื่องราวที่ว่าด้วยธรรมะ หรือ ผ่านการฟัง การอ่าน การพบเห็น จากสื่อต่างๆ ที่มีเรื่องราวในสิ่งที่ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ได้บอกเล่า แล้ว จารึกต่อๆ กันไว้ หรือ เรื่องราวที่ว่าด้วย “ ธรรม ” นั้นเอง
ขออนุโมทนาบุญ กับ ทุกท่าน ที่ได้ สร้างบุญ ทำบุญ หรือ ก่อให้เกิดบุญ
ขอขอบคุณทุกแหล่งข้อมูลธรรมะ
ผึ้ง สารพัดธรรม
.tnnthailand.com