กฏแห่งกรรมโลกหน้ามีจริงหรือ

โลกหน้ามีจริงหรือ คนที่ทำบาปไว้แล้วจะไปตกนรกจริงหรือ แล้วนรกที่ว่านั้นอยู่ที่ไหน จะพิสูจน์ได้อย่างไรว่ามีจริง หลายต่อหลายคนมักมีคำถามอย่างนี้เสมอเมื่อพูดถึงนรกสวรรค์ โลกนี้โลกหน้า และไม่เฉพาะกับชาวพุทธเท่านั้น แม้ศาสนาอื่นๆก็มีความสงสัยในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน

เรื่องนรกสวรรค์ การตายแล้วเกิดนี้เป็นข้อถกเถียงกันมานาน ตั้งแต่ยุคก่อนที่พระพุทธเจ้าเกิดเสียอีก และยังเป็นข้อถกเถียงเรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบัน แม้ในอนาคตก็เชื่อว่ายังต้องเป็นข้อถกเถียงกันอีกต่อไป ไม่มีที่สิ้นสุด

เพราะเรื่องนรกสวรรค์ การตายแล้วเกิดนี้ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 และไม่อาจพิสูจน์ได้ด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ แต่พิสูจน์ได้ด้วยจิตที่อบรมอย่างถูกต้องเท่านั้น

ผู้อบรมจิตย่อมเห็นนรก-สวรรค์

การที่จะพิสูจน์อะไรก็ตาม ต้องใช้ประสาทสัมผัสให้ถูกต้องกับสิ่งนั้น เช่น ถ้าต้องการดูรูปก็ต้องใช้ตาดู ถ้าต้องการฟังเสียงก็ต้องใช้หูฟัง จะใช้ตาฟังเสียงแทนหู ฟรือให้หูดูรูปแทนตา อย่างนี้ย่อมไม่อาจรับรู้แทนกันได้ การพิสูจน์เรื่องนรกสวรรค์ก็เช่นกัน นรกสวรรค์เป็นเรื่องที่อยู่เหนือประสาทสัมผัสทั้ง 5 คือไม่อาจจะสัมผัสได้ด้วยตา หู จมูก ลิ้น กาย ดังนั้น การที่จะพิสูจน์ว่านรกมีจริงหรือไม่ จึงไม่อาจพิสูจน์ได้ด้วยตา ฟังเสียงดมกลิ่น ลิ้นรส แต่ะต้องด้วยกาย แต่เป็นเรื่องที่ต้องใช้ใจสัมผัสเท่านั้น

ผู้ที่ฝึกฝนพัฒนาจิตจนถึงขั้นได้อภิญญา ถึงขั้นมีหูทิพย์ ตาทิพย์แล้ว ดังเช่น องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า พระอรหันตสาวก พระอริยบุคคลผู้ทรงอภิญญา ย่อมรู่ย่อมเห็นในนรกสวรรค์ได้ไม่ยากเลย

แต่การที่เราจะฝึกฝนอบรมตนให้ได้อย่างท่านนั้น ดูจะเป็นเรื่องยาก สำหรับคนในยุคปัจจุบันที่มากไปด้วยกิเลสตัณหา จนเมื่อพูดถึงเรื่องการฝึกจิตนั่งกรรมญานก็พากันถอดใจ พาลขี้เกียจไม่อยากจะลงมือทำ หนักเข้าก็พาลไม่เชื่อว่านรกสวรรค์ หรือโลกหน้ามีจริง ทั้งนี้อาจเป็นเพราะจะได้สะดวกใจในการทำชั่วได้ง่ายขึ้น