ยิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งสงบเย็น
ยิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งสงบเย็น เป็นตัวอย่างแห่งความตกผลึกด้วยปัญญา
จะพูดจะจาอะไรออกมา ต้องบ่งบอกถึงสติปัญญา
ไม่ใช่บ่งบอกถึงความงมงาย ยึดมั่นถือมั่น อะไรอยู่ไม่รู้
บ่งบอกถึงทิฐิมานะ แปลว่าใช้ไม่ได้
ใครได้ยินได้ฟัง ได้สนทนาด้วย รู้สึกสงบเย็น
ใครทุกข์ร้อนมา ได้ยินได้ฟัง ต้องสงบเย็น
คนที่จะพูดแบบนั้นได้ ข้างในจะต้องเป็นอย่างนั้น
หมายถึงใจตัวเองต้องสงบเย็นด้วย
มีสติสัมปชัญญะรักษาใจอยู่
ทำอะไรต้องไม่วุ่นวายวู่วามกับคนอื่นเขา
ปล่อยได้ง่าย วางได้ง่าย
ต้องฝึกพวกนี้ไว้ให้คล่องเลย
เพราะว่าถึงวันหนึ่ง ส่ิงที่เราละได้ยากที่สุด
คือการละการยึดถือในอัตตาตัวตน
ถ้าต้องป่วย ต้องเจ็บ ต้องตาย อะไรขึ้นมา
จะได้รู้สึกว่าวางได้ง่ายขึ้น
ดังนั้นการที่จะวางอัตตาตัวตนที่เรายึดถือว่าเป็นของเรา
จึงต้องหัดวางสิ่งภายนอกทั้งหลายให้เป็น
ลูกหลาน ทรัพย์สิน เงินทอง หมา แมว อะไรก็แล้วแต่
หัดวางให้เป็น วางใจให้ถูก
ไม่ไปทุกข์ร้อนอะไรกับเขามากมายนัก
เขาเป็นอย่างไรก็เป็นกรรมของเขา
ช่วยได้เตือนได้ก็ช่วย
บอกได้เตือนได้ก็บอก บอกไม่ได้เตือนไม่ได้ก็หยุดพูด
รักษาใจตัวเอง
เตือนใจตัวเอง
แทนที่จะเที่ยวเตือนคนอื่น ให้เตือนตัวเองบ่อยๆ
ใจเราทุกข์อยู่ไหม เตือนตัวเอง
ใจเรายึดถืออะไรอยู่ เตือนตัวเอง
ใจเราไปเกาะเกี่ยวกับอะไร เตือนตัวเอง
พอเตือนตัวเองแบบนี้บ่อยๆ จะเห็นว่า
สติสัมปชัญญะเข้าไปรู้ทันอารมณ์ได้เร็ว
พอกระทบกับอารมณ์ภายนอก
ไม่ว่ากับคนที่เรารักคนที่เราเกลียดอะไรก็แล้วแต่
ก็จะวางได้ง่าย เป็นธรรมชาติอยู่แบบนี้เลย
จะพูดจะจาอะไรออกมา ต้องบ่งบอกถึงสติปัญญา
ไม่ใช่บ่งบอกถึงความงมงาย ยึดมั่นถือมั่น อะไรอยู่ไม่รู้
บ่งบอกถึงทิฐิมานะ แปลว่าใช้ไม่ได้
ใครได้ยินได้ฟัง ได้สนทนาด้วย รู้สึกสงบเย็น
ใครทุกข์ร้อนมา ได้ยินได้ฟัง ต้องสงบเย็น
คนที่จะพูดแบบนั้นได้ ข้างในจะต้องเป็นอย่างนั้น
หมายถึงใจตัวเองต้องสงบเย็นด้วย
มีสติสัมปชัญญะรักษาใจอยู่
ทำอะไรต้องไม่วุ่นวายวู่วามกับคนอื่นเขา
ปล่อยได้ง่าย วางได้ง่าย
ต้องฝึกพวกนี้ไว้ให้คล่องเลย
เพราะว่าถึงวันหนึ่ง ส่ิงที่เราละได้ยากที่สุด
คือการละการยึดถือในอัตตาตัวตน
ถ้าต้องป่วย ต้องเจ็บ ต้องตาย อะไรขึ้นมา
จะได้รู้สึกว่าวางได้ง่ายขึ้น
ดังนั้นการที่จะวางอัตตาตัวตนที่เรายึดถือว่าเป็นของเรา
จึงต้องหัดวางสิ่งภายนอกทั้งหลายให้เป็น
ลูกหลาน ทรัพย์สิน เงินทอง หมา แมว อะไรก็แล้วแต่
หัดวางให้เป็น วางใจให้ถูก
ไม่ไปทุกข์ร้อนอะไรกับเขามากมายนัก
เขาเป็นอย่างไรก็เป็นกรรมของเขา
ช่วยได้เตือนได้ก็ช่วย
บอกได้เตือนได้ก็บอก บอกไม่ได้เตือนไม่ได้ก็หยุดพูด
รักษาใจตัวเอง
เตือนใจตัวเอง
แทนที่จะเที่ยวเตือนคนอื่น ให้เตือนตัวเองบ่อยๆ
ใจเราทุกข์อยู่ไหม เตือนตัวเอง
ใจเรายึดถืออะไรอยู่ เตือนตัวเอง
ใจเราไปเกาะเกี่ยวกับอะไร เตือนตัวเอง
พอเตือนตัวเองแบบนี้บ่อยๆ จะเห็นว่า
สติสัมปชัญญะเข้าไปรู้ทันอารมณ์ได้เร็ว
พอกระทบกับอารมณ์ภายนอก
ไม่ว่ากับคนที่เรารักคนที่เราเกลียดอะไรก็แล้วแต่
ก็จะวางได้ง่าย เป็นธรรมชาติอยู่แบบนี้เลย
น้อมนำคำสอนพระอาจารย์มหาวิเชียร ชินวํโส
วัดวังหิน จ.พิษณุโลก
ภาวนาวิมุติสถาน
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!