อันตราย!! เลิกเหล้า ด้วยหักดิบ

อันตราย!! เลิกเหล้า ด้วยหักดิบ


"พิษสุราเรื้อรัง"


งานวิจัยกลุ่มอาการของโรคที่เกิดจาก หยุดเหล้าในทันที ซึ่งบางรายอาจมีอาการน้อยแค่ตัวสั่น เหงื่อออก ขณะที่บางรายอาจมีอาการหนักหรืออาการถอน โดยเฉพาะผู้ป่วย พิษสุราเรื้อรัง ที่อาจมีอาการได้สองแบบคือ 1. withdrawal stage หรือเกิดอาการ ลงแดง และ 2. delirium tremens ซึ่งเป็นอาการที่หนักกว่าอาการแบบแรก

กลุ่มที่มีอาการลงแดงแบบแรกจะเกิดหลังจากหยุดสุราได้ 12-72 ชั่วโมง จะมีอาการหงุดหงิด ตัวสั่น วิตกกังวล โมโหง่าย อารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า อ่อนเพลีย คิดอะไรไม่ออก มือสั่น ใจสั่น ปวดศีรษะ เหงื่อออกหน้าและมือ คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ หัวใจเต้นเร็ว ส่วนกลุ่มที่มีอาการแบบสอง สมองจะสับสนมีการเปลี่ยนแปลงด้านจิตใจและอารมณ์อย่าง รวดเร็ว มีภาพหลอน ไวต่อแสงเสียง ระดับความรู้สึกเลวลง และมีอาการชักกระตุก ซึ่งมักเกิดหลังอดเหล้าไปประมาณ 24-48 ชั่วโมง หรือประมาณวันที่ 3 หลังหยุดเหล้า


"หักดิบ ทำได้ในผู้ป่วยที่ไม่ติดเหล้าหนัก"


การรักษาผู้ป่วยที่มีอาการไม่มาก หากบางรายอาจมีอาการชักช่วงสั้นก็ต้องตรวจหาว่าได้รับบาดเจ็บทางร่างกายที่ใดบ้าง และให้แพทย์ตรวจหาโรคที่เกิดจากสุรา เช่น ตับ หัวใจ กับต้องพยายามทำให้ผู้ป่วยสงบอย่างรวดเร็ว โดยให้ยาคลายเครียดและวิตามินบี หลังจากนั้นสังเกตอาการอย่างน้อย 2 ชั่วโมง หากอาการไม่เปลี่ยนแปลงก็สามารถกลับบ้านไป โดยรับยาต่อไปอีก 4-5 วัน แล้วไปพบแพทย์ตามนัด ขณะที่ อาการรุนแรงในกลุ่ม delirium tremens จำเป็นต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว โดยให้ยา และให้น้ำเกลือ ผู้ป่วยอาจมีพฤติกรรมก้าวร้าว อาจต้องใช้การรักษาจิตเวชควบคู่

รศ.(พิเศษ)นพ.สุกิจ พันธุ์พิมานมาศ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี ให้ความรู้ว่า...ผู้หยุดเหล้าที่สามารถหยุดหรือเลิกได้ทันทีโดยไม่มีปัญหานั้น ทำได้ในรายที่ไม่ติดหนักหรือไม่มีโรคพิษสุราเรื้อรังประกอบ ซึ่งร่างกายจะปรับตัวได้โดยกลไกธรรมชาติ เพียงแต่ต้องดูอาการอย่างอื่นประกอบด้วย เช่น มีโรคประจำตัวหรือไม่ เป็นโรคตับอักเสบหรือโรคชนิดอื่นอยู่ด้วยหรือเปล่า ถ้ามีก็ควรรับการรักษาอาการดังกล่าวควบคู่กันไป

แอลกอฮอล์เป็นสารพิษที่ทำลายเซลล์ ผู้ที่ดื่มมาก ๆ ดื่มมานาน จะทำลายอวัยวะที่สำคัญ ๆ ของร่างกาย แต่โชคร้ายที่ภาวะพิษสุราเรื้อรังมักปรากฏขึ้นอย่างช้า ๆ และเงียบ ๆ กว่าจะเห็นชัดเจนก็เสียหายมากแล้ว แม้จะหยุดดื่มโรคก็ยังจะดำเนินต่อไป สมองจะถูกทำลาย และถึงแก่ชีวิตในที่สุด อย่างไรก็ตาม การหยุดดื่มก็อาจจะสามารถหยุดโรคได้ ป้องกันความเสียหายบางส่วนได้ ดังนั้น ยิ่งหยุดเร็วเท่าไหร่ก็จะเกิดผลดีมากเท่านั้น !!

อันตราย!! เลิกเหล้า ด้วยหักดิบ



"อันตรายในรายที่ติดเหล้าหนักๆ"


คนที่เลิกเหล้าแบบหยุดทันทีหรือที่เรียกว่าหักดิบ อาจจะมีอาการประกอบทางอารมณ์ เช่น หงุดหงิด กระวนกระวาย ซึ่งสามารถพาไปบำบัดฟื้นฟูได้ เลิกได้ย่อมดีกว่าเลิกไม่ได้ ไม่ใช่เป็นโรคอยู่แต่ไม่กล้าเลิกเหล้าโดยอ้างว่ากลัวเลิกแล้วตาย อันนี้ถือว่าเป็นความเชื่อที่ผิด ซึ่งถ้าหากไม่มั่นใจก็ขอคำปรึกษาจากแพทย์ได้ จะทำให้การเลิกเหล้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น...รอง ผอ.โรงพยาบาลราชวิถีกล่าว

ด้าน พ.ท.นพ.พิชัย แสงชาญชัย จิตแพทย์ กองจิตเวชและประสาทวิทยา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ก็ให้ความรู้เพิ่มเติมในประเด็น เลิกเหล้าแบบหักดิบอาจถึงตาย ว่า...ความเชื่อในเรื่องนี้ถูกต้องเพียงบางส่วนและอาจเกิดขึ้นเฉพาะในรายที่มีพฤติกรรมการดื่มหนักต่อเนื่องมานานหรือเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง เมื่อไม่ได้ดื่มเหล้าจะเกิดอาการทางร่างกาย ซึ่งบางรายอาจแค่เหงื่อออก กระวนกระวาย มือสั่น ใจสั่น แต่ในบางรายที่เกิดอาการหนัก ๆ ก็อาจจะมีอาการทางจิตเวชประกอบเช่น หูแว่ว เห็นภาพหลอน สมอง สับสน และอาจมีอันตรายถึงชีวิต !!

วิธีสังเกตอาการ ให้ดูจากประวัติเก่า ๆ หากเคยเลิกเหล้าแล้วไม่มีอาการถอนหรืออาการชัก ไม่เกิดหูแว่ว ไม่เกิดภาพหลอน แสดงว่าคนนั้นยังไม่ถึงกับติดสุราเรื้อรัง ก็สามารถทำการเลิกเหล้าหรือหยุดดื่มได้ทันทีโดยไม่ต้อง ปรึกษาแพทย์ เพียงแต่ช่วงเลิกเหล้าในระยะแรกอาจเกิดอาการทรมานทางอารมณ์ เกิดความอยากเท่านั้นเอง


"แนะปรึกษาแพทย์ก่อนเลิกเหล้า"


การเลิกเหล้านั้น ถ้าเลิกแบบหยุดทันทีหรือหักดิบ แนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์ หรือโทรศัพท์ไปที่หมายเลข 0-2379-1020 ซึ่งเป็น ฮอตไลน์ให้คำปรึกษาแก่ผู้ที่คิดจะเลิกเหล้า เนื่องจากผู้ต้องการเลิกเหล้าอาจไม่ทราบว่าตนเองเป็นโรคพิษสุราเรื้อรังหรือเปล่า หรือมีอาการอย่างอื่นประกอบ หรือเปล่า ซึ่งที่ดีที่สุดควรปรึกษาแพทย์หรือโทรฯ ไปขอข้อมูล จะได้เลิกเหล้าได้อย่างถูกวิธี และไม่ทรมาน...แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ

เลิกเหล้าหักดิบอาจถึงตาย ก็น่ากลัว...แต่มิใช่ไม่น่าเลิก

อันตรายนี้เกิดขึ้นได้จริง...แต่ก็เป็นความจริงที่แก้ไขได้

ยังไง เลิกเหล้า ก็คือการช่วยให้ เลิกจน

ช่วยให้ เลิกเสี่ยงตาย จากการดื่ม !!!!


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์