....ในชั้นปีที่ 1 (ปี 2531) พอลุงเสธ.ฯ เข้าไปเป็น นนร.ใหม่ๆประมาณเทอมแรก พวกเราจะถูกพี่ๆอีก 4 ชั้นปีเรียกว่า"นักเรียนใหม่"จะอยู่ในสังกัด กองพันที่ 1
โดยมี นนร.ธงชัย รอดย้อย เป็นหัวหน้ากองพันฯ(ตท.25,จปร.36 เพิ่งได้รับการโปรดเกล้าฯเป็น พลตรี ล่าสุด)
การใช้ชีวิต ก็เป็นแบบหุ่นยนต์เลย แทบไม่ต้องคิดอะไร ทำให้ทันตามคำสั่งก็พอ มีบางท่านอยากทราบว่าการเป็น นนร.เขาทำอะไรกันบ้าง ใช้ชีวิตกันอย่างไร ลุงเสธ.ฯ ขอเล่าพอสังเขปคือ...
เช้าตื่นนอน เวลา ตีห้าครึ่ง ออกกำลังกาย อาบน้ำ
หกโมงเช้า ลงไปอ่านหนังสือ
เจ็ดโมงครึ่ง เดินแถวจากฝั่งกรมนักเรียนฯข้ามไปฝั่งกองการศึกษา
แล้วเรียนหนังสือถึงสี่โมงเย็น เดินแถวกลับมาฝั่งกรมนักเรียนฯ
แล้วเปลี่ยนเป็นชุดฝึกเพื่อฝึกวิชาทหารถึงเกือบหกโมงเย็น. รอเข้าแถวเคารพธงชาติแล้วเดินแถวไปทานอาหารเย็น กลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดพละศึกษาเข้าห้องฝึกฝนเพื่ออ่านหนังสือ
สองทุ่มครึ่ง ขึ้นไปเตรียมชุดศึกษา ขัดรองเท้า เครื่องหมาย ไว้ใช้วันต่อไป
แล้วลงไปสวดมนต์ตอนสามทุ่ม แล้วก็นอน
แต่ไม่ค่อยได้นอนสบายเท่าไร เพราะหากเรามีความผิด ก็จะมาเช็คบิลกันห้วงนี้ นี่ล่ะแล้วแต่ใครจะโดนมาก โดนน้อยขึ้นอยู่กับความเฟอะฟะส่วนตัว
หากเป็นความผิดส่วนรวม ก็ใช้ระบบเหมาจ่ายคือโดนทั้งหมด ....
อ้อลืมบอกไปว่า ทุกคนต้องมีการเข้าเวรด้วยคืนละ 2 ชั่วโมง แล้วแต่จะโดนผลัดไหน
ตั้งแต่สามทุ่มครึ่ง ถึงตีห้าครึ่ง ซึ่งแบ่งเป็น 4 ผลัด มี 2 จุด คือ ใต้ถุนโรงนอน กับหน้า คลังอาวุธ...
ส่วนเรื่อง"กบฏข้าวเหนียวทุเรียน" ที่มาของมันคือ มีอยู่วันหนึ่ง เราเห็นตารางอาหารว่ามื้อเย็นนี้ ขนมจะเป็น "ข้าวเหนียวทุเรียน" ซึ่งลุงเสธ.ฯ ชอบมากๆ กะว่าจะทานให้หนำใจ
แต่ตอนมื้อกลางวัน พี่อ้วน(เป็น จนท.ประจำโรงเลี้ยง) แอบกระซิบกับลุงเสธ.ฯว่าวันนี้พี่ Command จะไม่ให้เรากิน เพื่อฝึกจิตใจให้รู้ถึงความผิดหวัง เพราะ"ข้าวเหนียวทุเรียน"นานๆโรงประกอบเลี้ยงจะทำครั้งหนึ่ง บางทีใน 1 ปีได้ทานเพียงครั้งเดียว
นั่นหมายถึง เป็นขนมหวานที่ นนร.ทุกชั้นปีเฝ้าคอยนั่นเอง.. .
พอ ลุงเสธ.ฯ และผองเพื่อนในโต๊ะอาหารซึ่งใน 1 โต๊ะมี 2วงๆละ 5 คน รวม 10 คน ได้ยินเช่นนั้น จึงวางแผนกันว่าวันนี้จะต้องฟาด ข้าวเหนียวทุเรียน ก่อนสิ่งใด...
อันเนื่องมาจากการทานอาหารของ "นักเรียนใหม่"นั้น ต้องนั่งเก้าอี้เพียงแค่ 1 ใน 3 หลังตรง ทานอาหารแบบ"ฉาก"จะต้องทานตามคำสั่ง
โดยที่นายทหารเวรฯจะสั่งว่า "พร้อมแล้ว เชิญรับประทาน" ทุกคนรวมถึงนักเรียนใหม่อย่างพวกเราถึงทานได้
หลังจากนั้นจะมีคำสั่งเฉพาะ"นักเรียนใหม่"คือ "นักเรียนใหม่ ดื่มน้ำได้" "นักเรียนใหม่ ทานขนมได้" จนทานจบก็จะสั่งลุก แล้วลงไปเข้าแถวเพื่อเดินทางกลับกองร้อย นี่คือลำดับการปฏิบัติคร่าวๆ ณ โรงเลี้ยง ...
เมื่อลุงเสธ.ฯ และผองเพื่อนรู้เช่นนั้น พอนายทหารเวรฯสั่ง "พร้อมแล้ว เชิญรับประทาน" ในกลุ่มเราและวงข้างๆจึงฟาด "ข้าวเหนียวทุเรียน" ให้หนำใจก่อนเลย แล้วค่อยทานอาหารหลักอื่นๆ
พอทานไปได้สักพัก. พอ พี่Command เห็นว่าส่วนใหญ่ทานอาหารหลักเสร็จแล้ว จึงจะเป็นการสั่งให้ทานขนมได้
...แต่มันเป็นไปตามที่ พี่อ้วนกระซิบบอกคือ กลับมีคำสั่งดังๆห้วนๆออกมาว่า "นักเรียนใหม่ อิ่มไม่อิ่ม... ลุก ไปเข้าแถวหน้าโรงเลี้ยง"...พระเจ้าช่วยกล้วยทอด แล้ว"ข้าวเหนียวทุเรียน"ล่ะยังไม่ได้ทานกันเลย ...
เพื่อนๆของลุงเสธ.ฯ ส่วนใหญ่มองอำลาข้าวเหนียวทุเรียน อย่างหมดอาลัยตายอยาก
แต่วงลุงเสธ.ฯและผองเพื่อนแอบยิ้มกริ่มในใจว่าพวกเราได้สำเร็จโทษ"ข้าวเหนียวทุเรียน"ไปก่อนหน้าเรียบร้อยแล้ว...
.... ความซวยเลยมาเยือนเมื่อพี่ Command เหลือบมาเห็นว่าในวงลุงเสธ.ฯ"ข้าวเหนียวทุเรียน"ได้อันตรธานหายไปเกลี้ยง แม้แต่เศษทุเรียนหรือข้าวเหนียวสักเม็ดก็ไม่เหลือ
จึงมีการตรวจสอบว่าใครทานไปบ้างให้ยกมือยอมรับผิดมาแต่โดยดี..
ด้วยระบบเกียรติศักดิ์ที่เริ่มสั่งสมมา ลุงเสธ.ฯและผองเพื่อนก็ยอมรับ จึงกลายเป็น"กลุ่มกบฏข้าวเหนียวทุเรียน" ไแโดยปริยาย
หากสำเร็จคงต้องเรียกว่า "กลุ่มปฏิวัติรัฐประหารข้าวเหนียวทุเรียน" แต่เมื่อไม่สำเร็จก็กลายเป็น "กบฏ" ไปตามระเบียบครับ..
.... สุดท้ายเจ้าข้าวเหนียวทุเรียนได้ไปพำนักพักอยู่ในท้องลุงเสธ.ฯ และผองเพื่อนได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงนั่นหมายถึงกระเพาะยังไม่ได้ย่อยและดูดซึมเอาความอร่อยของ"ข้าวเหนียวทุเรียน"ถ้วยนั้นไปเลย มันก็ต้องออกมาชมโลกภายนอกเสียแล้ว อย่าไปรู้เลยนะครับว่ามันมีกรรมวิธีเช่นไร....
...ที่เล่ามาก็คงตอบข้อสงสัยในแฟนคลับเรื่องเล่าของลุงเสธ.ฯในภาคการเป็น นนร.ได้พอสังเขปนะครับ
ณ ที่ที่นั้นใน"รั้วแดงกำแพงเหลือง"จะปลูกฝัง หล่อหลอมให้พวกเราแกร่งทั้งกายและใจ ได้ลิ้มรสความผิดหวัง ความเหนื่อย ความหิว ความง่วง และประสบกับสิ่งต่างๆมากมาย เพื่อการเติบโตเป็นนายทหารที่ดีในอนาคต
ดั่งสโลแกนบทหนึ่งของพวกเราคือ "เรียน รัก รู้ รบ เจนจบหมดสิ้นคือ อัศวิน จปร."
ลุงเสธ.ทัย ๒๙๔๐ ๑๓ มี.ค.๖๐