สุริยุปราคา มาวันตรุษ

สุริยุปราคา มาวันตรุษ


อย่างที่เพื่อน ๆ ชาวที่นี่น่าจะทราบกันดีว่า ในวันนี้ 26 ม.ค. 52 นั้นถือเป็นวันตรุษจีน หรือวัยขึ้นปีใหม่ของชาวจีนนั่นเอง ดังนั้นในวันนี้ชาวจีนจึงมักจะนิยมทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความเชื่อของตนเอง เช่นการไหว้เทพเจ้าต่าง ๆ



แต่ที่พิเศษมากไปกว่านั้นก็คือ ในวันตรุษจีนปีนี้นั้น จะมีปรากฏการณ์ธรรมชาติ อย่าง สุริยุปราคา เกิดขึ้น ซึ่งสุริยุปราคา หรือ สุริยคราส เกิดขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลก โคจรมาอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกันโดยมีดวงจันทร์อยู่ตรงกลาง เมื่อสังเกตจากพื้นโลก จะเห็นดวงจันทร์เคลื่อนเข้ามาบดบังดวงอาทิตย์

โดยปกติแล้วสุริยุปราคามี 4 ประเภท ได้แก่

 สุริยุปราคาบางส่วน: มีเพียงบางส่วนของดวงอาทิตย์เท่านั้นที่ถูกบัง

 สุริยุปราคาเต็มดวง: ดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์หมดทั้งดวง

 สุริยุปราคาวงแหวน: ดวงอาทิตย์มีลักษณะเป็นวงแหวน เกิดเมื่อดวงจันทร์อยู่ในตำแหน่งที่ห่างไกลจากโลก ดวงจันทร์จึงปรากฏเล็กกว่าดวงอาทิตย์

 
สุริยุปราคาผสม: ความโค้งของโลกทำให้สุริยุปราคาคราวเดียวกันกลายเป็นแบบผสมได้ คือ บางส่วนของโลกเห็นสุริยุปราคาเต็มดวง บางส่วนเห็นสุริยุปราคาวงแหวน บริเวณที่เห็นสุริยุปราคาเต็มดวง เป็นส่วนที่อยู่ใกล้ดวงจันทร์มากกว่า


สุริยุปราคา มาวันตรุษ


ในปีนี้ประเทศไทยสามารถสังเกตปรากฏการณ์ธรรม ชาติสุริยุปราคาได้ถึงสองครั้ง

โดยครั้งแรกเกิดขึ้นวันนี้ซึ่งเผอิญ ตรงกับวันตรุษจีน ขณะที่อีกครั้งจะเกิดขึ้นในวันที่ 22 กรกฎาคมช่วงเช้า 07.00-09.00 น. เป็นสุริยุปราคาเต็มดวง แต่ประเทศไทยจะเห็นเป็นบางส่วนเห็นดวงอาทิตย์แหว่งเว้าเป็นบางส่วนเช่นกัน


สุริยุปราคาจะเกิดขึ้นในช่วงพระจันทร์แรม 15 ค่ำ หรือ ขึ้น 1 ค่ำ ครั้งนี้เผอิญตรงกับวันตรุษจีน ในทางดาราศาสตร์สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของการเรียนรู้แสดงให้เห็นว่าดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะ มีดาวเคราะห์โคจรรอบ ลักษณะเดียวกันก็มีดวงจันทร์เป็นบริวารของโลกโคจรรอบโลก

แต่การที่วัตถุสามสิ่งมาบังกันได้จะต้องโคจรได้จังหวะอยู่ ในระนาบเดียวกันและแนวเดียวกัน

เมื่อดวงจันทร์บังแสงอาทิตย์ โลกอยู่ในเงามืดทำให้เราเห็นดวงอาทิตย์ซึ่งโดยทั่วไป พระอาทิตย์มีแสงจ้ามากไม่มีโอกาสที่จะเห็นบรรยากาศชั้นนอกของดวงอาทิตย์ แต่เมื่อเกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้นจึงเป็นอีกโอกาสอันดีในการศึกษา


สุริยุปราคา มาวันตรุษ


ซึ่งแน่นอนว่าในทางโหราศาสตร์เองก็ไม่ได้นิ่งเฉยแต่อย่างใด เพราะล่าสุดก็มีการทำนายทายทักเกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นออกมาเช่นกันดังนี้

อุปราคาครั้งนี้เกิดตรงกับวันตรุษจีนซึ่งนาน ๆ ครั้งจึงจะเกิดขึ้น อย่างที่กล่าวมาทางโหราศาสตร์อธิบายถึงอิทธิพลของ   อุปราคาด้านต่าง ๆ อย่างรัศมีของคราสพาดผ่านดาวอะไรในดวงชะตา จะมีก็ในราศีตรงข้ามมีดาวจันทร์อยู่ตรงข้ามอยู่ในภพที่สี่

ภพนี้หมายถึงที่ดินเรื่องการเกษตร เจ้าของที่ดิน คนงานพืชผลที่เกิดจากพื้นดินเหมืองแร่ อาคารพืชผลไร่นา ธัญญาหาร เหตุการณ์ภายในประเทศ ฯลฯ ดาวเคราะห์ที่อยู่ในภพนี้อาจมีอิทธิพลต่อดินฟ้าอากาศก็อาจทำให้ดินฟ้าอากาศเปลี่ยนแปรปรวนจากหนาวจัดอาจร้อนขึ้นได้


อีกสิ่งที่มีความสำคัญดาวอะไรเข้ามาสมาคมกับอุปราคา การเกิดอุปราคาครั้งนี้ไม่ใช่แค่ พระอาทิตย์ถูกบังอย่างเดียว


พระจันทร์ดับประการที่สามดาวพฤหัสบดีอยู่ตรงนี้ด้วย ฉะนั้นเมื่อดาวพฤหัสบดีดับแล้วอยู่ใกล้กับอุปราคาความหมายของดาวพฤหัสบดีก็จะ เสียไป เมื่อดาวพฤหัสบดีดับอยู่ในรัศมีของคราสพาดผ่านต้องเพ่งเล็ง ต้องระวังดูแลผู้หลักผู้ใหญ่ ดูแลการใช้ความรู้ มีสติมีความรอบคอบในการใช้ความรู้วิชาการในการประกอบอาชีพ ส่วนอังคาร ยกเข้าไปในราศีธาตุดินก็ต้องระมัดระวังเรื่องดิน อุบัติภัยที่เกิดจากดิน อากาศยานตึกสูงก็ต้องระมัดระวัง ระวังอุบัติภัยทั้งที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ ภัยธรรมชาติ เป็นต้น
 
ทางด้านดีของอุปราคาก็มีเพราะเมื่อนานครั้งที่เกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความสนใจมีการศึกษาให้ความรู้กัน อุปราคาที่เกิดขึ้นจึงเป็นเหมือนการเตือนสติสอนใจให้อภัยกัน สำรวจการดำเนินชีวิตเมื่อเห็นว่าสิ่งไหนไม่ดีก็ปรับปรุงแก้ไข ดำเนินชีวิตด้วยความสุขุมรอบคอบระมัดระวัง อีกด้านหนึ่งเป็นเหมือนกำลังใจให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ แก้ไขทำสิ่งดีในปัจจุบันซึ่งก็จะส่งผลในอนาคตทั้งที่ใกล้และไกล 
 

จากที่กล่าวมาส่วนหนึ่งนี้คือสุริยุปราคาปรากฏการณ์ท้องฟ้าอีกช่วงเวลาที่มีความหมายเป็นเวลาดีในการส่งเสริมความรู้ศึกษาดาราศาสตร์อย่างใกล้ชิดอีกครั้งหนึ่ง


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์