เลิกเหล้า-เข้าพรรษา พาชีวิตปลอดพิษภัย

"สุราเรื้อรัง แอลกอฮอล์ในเลือด 95%"

เลิกเหล้า-เข้าพรรษา พาชีวิตปลอดพิษภัย


เข้าพรรษาเป็นช่วงเวลามงคลที่สืบเนื่องมาจากครั้งพุทธกาล พระภิกษุสงฆ์จำพรรษาอยู่ตามวัด ไม่ไปค้างแรมที่ไหน วัดวาอารามจะจัดการศึกษา ปฏิบัติธรรมอย่างเข้มข้น

สำหรับฆราวาส กิจกรรมดีๆ ในช่วงเข้าพรรษา 3 เดือนนี้ทำได้หลายอย่าง ที่เน้นมาตลอดทุกปีคือ กิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษา มีหลายหน่วยงานด้วยกันที่สนับสนุนให้กิจกรรมดีๆ แบบนี้เกิดขึ้น เช่นหน่วยงานหลักอย่างสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กระทรวงสาธารณสุข

การติดแอลกอฮอล์นอกจากจะสร้างปัญหาสุขภาพ ยังส่งผลกระทบถึงปัญหาด้านสังคมโดยเฉพาะสถาบันครอบครัว เหล้าเป็นตัวการสร้างปัญหามากมาย ถ้าบ้านไหนมีพ่อนักดื่ม หรือแม่นักดื่ม หรือทั้งพ่อทั้งแม่เป็นนักดื่ม ปัญหาการทะเลาะวิวาทมักเกิดขึ้นเสมอ รวมถึงปัญหาความยากจน ซึ่งข้อมูลศูนย์วิจัยปัญหาสุราชี้ชัดว่า สุราคือที่มาของความยากจน และคนจนจะเสียเงินเพื่อดื่ม 1 ใน 4 ของรายได้ จนทำให้เกิดเป็นปัญหาครอบครัวตามมา

ผลกระทบของแอลกอฮอล์ที่มีต่อร่างกายเรียกว่า มีตั้งแต่แอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งจะผ่านไปตามเซลล์ของเม็ดเลือดอย่างรวดเร็ว ฉะนั้นการดื่มสุราเรื้อรังจะทำให้ระดับแอลกอฮอล์สูงในเลือดถึง 95 เปอร์เซ็นต์

แอลกอฮอล์เริ่มออกฤทธิ์ตั้งแต่เข้าสู่ปากและลำคอ เหล้าจะไประคายเคืองชิ้นเยื่อบุที่ละเอียดอ่อนในปากและหลอดอาหาร เมื่อถึงกระเพาะอาหารและลำไส้จะมีผลกับผนังชั้นนอกสุดทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ ถ้าอาการเช่นนี้เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน เกิดการอักเสบของเยื่อบุชั้นในสุดของผนังกระเพาะหรืออาจจะทะลุได้ในลำไส้เล็ก เหล้ายังเป็นอุปสรรคกับการดูดซึมของสารอาหารบางชนิด เช่น ไขมัน วิตามินบี 6, 12

95% ของเหล้าที่ดื่มเข้าไปจะซึมเข้ากระแสเลือดโดยผ่านเยื่อบุในกระเพาะ และลำไส้อย่างรวดเร็ว เมื่อถึงกระแสเลือดก็จะเข้าไปในเซลล์และตามเนื้อเยื่อต่างๆ ทำให้เซลล์ของเลือดเกาะเป็นก้อนเหนียว ทำให้การไหลเวียนช้าลง ออกซิเจนน้อยลง ทำให้โลหิตจางเพราะเข้าไปลดการสร้างเม็ดเลือดแดง และยังทำให้ความสามารถของเม็ดเลือดขาวในการกลืนเชื้อและทำลายแบคทีเรียช้าลง การทำให้การแข็งตัวของเกล็ดเลือดช้าลงด้วย

"1ใน5เสียชีวิตเมื่อมีปัญหาตับอ่อน"

เลิกเหล้า-เข้าพรรษา พาชีวิตปลอดพิษภัย


นอกจากนั้นยังทำลายตับอ่อน ทำให้เซลตับอ่อนระคายเคือง บวมขึ้น ทำให้การไหลของน้ำย่อยไม่คล่องตัว สารเคมีไม่สามารถเข้าไปในลำไส้เล็กได้ ทำให้ย่อยตัวตับอ่อนเอง และทำให้เลือดออกอย่างเฉียบพลัน จนถึงเกิดการอักเสบของตับอ่อน และพบว่า 1 ใน 5 จะเสียชีวิตไปในครั้งแรกเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับตับอ่อน ทำให้การสร้างอินซูลินขาดหายไป และเป็นเบาหวาน

เหล้าหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยังเป็นอันตรายต่อเซลล์ตับเพราะทุกครั้งที่ดื่มเซลล์ของตับจะถูกทำลายทำให้ตับแข็ง เสี่ยงต่อการเป็นโรคตับถึง 8 เท่าเมื่อเทียบกับคนปกติที่ไม่ดื่มเหล้า

หัวใจ ทำให้กล้ามเนื้อของหัวใจบวม เกิดเป็นพิษกับหัวใจ เป็นเหตุทำให้การสะสมของไขมันมากขึ้นและทำให้การเผาผลาญช้าตามไปด้วย

กระเพาะปัสสาวะและไต แอลกอฮอล์ทำให้เยื่อบุของกระเพาะปัสสาวะบวมขึ้น ไม่สามารถยืดตามปกติได้ในไต เกิดการระคายเคือง สูญเสียน้ำมากขึ้น

ผลต่อต่อมเพศ ต่อมอัณฑะจะบวม ความสามารถทางเพศลดลง ความรู้สึกสุดยอดจะถูกขัดขวาง

ผลต่อสมอง จะกดศูนย์กลางของสมองทำให้การประสานงานเสื่อมลงเรื่อยๆ สับสน จำความไม่ได้ เซื่องซึม ชา หรือสลบ โคม่าและตายได้ เซลล์สมองจะถูกฆ่า เมื่อเซลล์สมองถูกทำลายแล้วจะสร้างขึ้นใหม่ไม่ได้ การดื่มเป็นประจำระยะหนึ่งจะทำให้ความจำ การตัดสินใจ และความสามารถในการเรียนรู้เสื่อมไป

"สร้างแรงจูงใจเลิกสุราเพื่อตนเองและครอบครัว"

เลิกเหล้า-เข้าพรรษา พาชีวิตปลอดพิษภัย


พิษภัยมากขนาดนี้การใช้ช่วงเข้าพรรษามาเป็นจุดเริ่มต้นในการรณรงค์ให้งดเหล้า จึงถือเป็นการสร้างแรงจูงใจอย่างหนึ่งเพื่อให้เกิดผลสำเร็จในที่สุด

ถ้าใครคิดอยากจะเลิกเหล้าลองปฏิบัติตามข้อแนะนำเหล่านี้อาจจะสามารถทำได้สำเร็จ

1.ตั้งใจและวางเป้าหมายชีวิตว่าเลิกดื่มเพื่อใคร เช่น ลูก ภรรยา พ่อแม่ เปรียบเทียบผลดี-ผลเสียของการดื่มและไม่ดื่ม

2.หยุดดื่มทันทีที่ตั้งใจ หากทำได้ค่อยๆ ลดปริมาณการดื่มให้น้อยลง

3.หลีกเลี่ยงหรือจำกัดเวลาพบปะกับกลุ่มเพื่อนที่ดื่ม

4.หากถูกชักชวนให้ดื่ม หลีกเลี่ยงโดยอ้างว่าแพทย์สั่งห้าม มีธุระสำคัญ และออกจากสถานที่นั้นให้เร็วที่สุด

บอกเพื่อนตามตรงว่าเลิกดื่มแล้ว การเลิกดื่มสิ่งสำคัญต้องขึ้นอยู่กับจิตใจเราเอง ถ้าเราคิดว่าจะไม่ดื่มเพื่อนก็ไม่สามารถบังคับเราได้

5.ไปให้ห่างจากจุดที่ซื้อหาเหล้าได้ง่าย

6.วางแผนทำกิจกรรมอย่างอื่นแทนในช่วงเวลาที่เคยดื่ม เช่น ออกกำลังกาย

หมั่นนำเป้าหมายของการเลิกเหล้าที่วางไว้มาคิดทบทวนเพื่อสร้างกำลังใจให้ตัวเอง คิดถึงข้อเสียของการดื่ม ทั้งเรื่องสุขภาพ ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ครอบครัว ความเสียหายจากการดื่มที่จะตามมา รายได้ที่เสียไป เหล่านี้ล้วนช่วยทำให้เกิดแรงจูงใจ เพื่อละเลิกแอลกอฮอล์ได้ส่วนหนึ่ง สิ่งสำคัญคือความตั้งใจจริงที่จะเริ่มทำสิ่งดีให้กับตนเอง

แต่ยังมีคนอีกส่วนที่ติดเหล้าจนเข้าขั้นพิษสุราเรื้อรัง ซึ่งถือเป็นโรคชนิดหนึ่ง จะเลิกได้ยากมากขึ้น จำเป็นต้องอาศัยแพทย์หรือยาเข้าช่วย

ผู้ที่เป็นพิษสุราเรื้อรังจะมีลักษณะดังต่อไปนี้คือ มีความอยากหรือกระหายอย่างมากที่ต้องการจะดื่มสุรา ควบคุมตัวเองไม่ได้ หมายถึงพยายามเลิกหลายครั้งแต่ทำไม่สำเร็จ

คนที่มีอาการพิษสุราเรื้อรังเมื่อห่างจากสุราจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เหงื่อออก มือสั่น กระวนกระวาย และอาการดังกล่าวมักจะหายไปเมื่อดื่มสุราหรือกินยานอนหลับ และมีอาการเหมือนดื้อยา ต้องการดื่มสุราในขนาดมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้สุราออกฤทธิ์เท่าเดิม


"ยังไม่สายเกินไป หากจะเริ่มวันนี้"


หากตอบคำถามข้อใดข้อหนึ่งใน 4 ข้อนี้ หรือตอบว่าใช่มากกว่า 1 ข้อ ก็ยิ่งมีความเป็นไปได้ของปัญหาเกี่ยวกับการดื่มสุรามากขึ้น

1.คุณเคยรู้สึกอยากเลิกการดื่มสุราของคุณไหม

2.คุณเคยรู้สึกรำคาญหลายๆ คนที่พยายามให้คุณเลิกดื่มสุราไหม

3.คุณเคยรู้สึกผิด หรือรู้สึกไม่ดีกับการดื่มสุราของคุณไหม

4.คุณเคยดื่มสุราตั้งแต่เช้า เพื่อที่จะลดอาการไม่สบายหรือเมาค้างไหม

ถ้าใช่ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อหาทางรักษา หากตอบว่า "ไม่ใช่" แต่คุณมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ มีปัญหาการงาน ความสัมพันธ์กับบุคคล หรือปัญหาเกี่ยวกับกฎหมาย ก็ควรไปพบแพทย์เช่นกันเพื่อรับการช่วยเหลือ

สำหรับคนที่มีอาการพิษสุราเรื้อรัง หากหยุดดื่มด้วยตนเองบางรายอาจเกิดอาการลงแดง ใจสั่น หงุดหงิด โมโหง่ายอารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า เบื่ออาหาร เพลีย นอนไม่หลับ เป็นต้น และอาจเกิดอาการมากกว่าลงแดง ซึ่งกลุ่มนี้อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายตนเองและคนอื่น คือ เห็นภาพหลอน มีการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจอย่างรวดเร็ว ไวต่อแสง เสียง มีอาการชักกระตุก ซึ่งหากเกิดอาการเหล่านี้ต้องรีบนำส่งแพทย์อย่างรวดเร็วเพื่อรักษา

รู้ถึงพิษภัยเช่นนี้ก็ควรเริ่มต้นให้สิ่งดีๆ กับตัวเองด้วยการเลิกเหล้าในช่วงเข้าพรรษานี้เป็นก้าวแรก ก็ยังไม่สายเกินไป


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์