ทำไมซานต้าครอสต้องใสชุดสีแดง
ประเพณีมอบของขวัญที่ทำกันในวันคริสต์มาสนี้ เริ่มต้นใคริสต์ศตวรรษ ที่ 12 โดยเหล่าแม่ชีฝรั่งเศลผู้ที่ประทับใจในตำนานของ นักบุญนิโคลาส ได้นำ ขนม ถั่ว ผลไม้ ไปใส่ในถุงเท้าที่หน้าบ้านของผู้คนที่ยากจน ทำให้ประเพณีนี้แพร่หลายอย่างรวดเร็วไปทั่วยุโรป จึงจะเห็นได้ว่า ชาวยุโรปตอนเหนือขึ้นไปจะให้ความสำคัญกับท่าน นักบุญนิโคลาสและผู้ที่มีความศรัทธาในตัวท่าน จึงได้ทำการฉลองถึงนักบุญนิโคลาสเข้าไปกับเทศกาลคริสต์มาส แต่การเกิดขึ้นของซานตาคลอสนั้น มาจากทางฝั่งของอเมริกา
นักบุญนิโคลัส เป็นนักบุญที่ชาวฮอลแลนด์ให้ความนับถืออย่างมาก เมื่อชาวฮอลแลนด์กลุ่มหนึ่ง อพยพไปอยู่ในอเมริกาก็ได้รักษาประเพณี การฉลองนักบุญนิโคลาส ไว้ โดยการมอบของขวัญให้แก่เด็กๆ ทำให้ประเพณีนี้ได้แพร่หลายไปในอเมริกา แล้วจากชื่อนักบุญนิโคลัส ซึ่งชาวฮอลแลนด์เรียกวาชื่อ "ซินเตอร์คลาส" (Sinter Claes) หรือที่เด็กชาวดัชท์เรียกว่า "ซาน นิโคลาส" หรือ "Sankt Klous" ก็ได้ถูกเรียกจนเพี้ยนไปเป็น "ซานตาคลอส" ในช่วง ค.ศ. 1870
หลายคนอาจไม่รู้ว่า แต่เดิมนั้นลุงซานตาไม่ได้อ้วนท้วน และสวมชุดแดงอย่างที่เราๆ เห็นกัน เริ่มแรกนั้น ภาพของซานตาคลอสถูกวาดให้เป็นชายหนุ่มผอมสูง จนถึง ค.ศ.1890 ศิลปินชาวสวีเดนนามว่า เจนนี ไนสตรอมก็ได้จับซานตาคลอสเปลี่ยนจากชุดสีเขียวเป็นสีแดงในบัตรอวยพรวันคริสต์มาสของเธอ และที่ทำให้ซานตาคลอสมีภาพลักษณ์เป็นชายอ้วนสวมชุดสีแดงก็เมื่อ มีจิตรกรชาวสวีเดนอีกคน นำซานตาคลอสมาเป็น presenter ให้กับเครื่องดื่มน้ำดำยี่ห้อหนึ่ง ในปี ค.ศ. 1931
และแล้วทั้งโลกก็ต้องตามอเมริกา วัฒธรรมซานตาคลอสที่มีชายแก่ใจดี รูปร่างอ้วน ใส่ชุดสีแดง มีกวางเรนเดียร์คอยลากเลื่อน อาศัยอยู่ที่ขั้วโลกเหนือ และมาแจกของขวัญแก่เด็กๆ ทางปล่องไฟ จึงเกิดขึ้นในวันคริสต์มาส
แม้ซานตาคลอสจะเป็นเพียงตำนานเล่าขาน แต่ทุกวันนี้ซานตาคลอสที่มีชื่อเสียงบนเกาะกรีนแลนด์และฟินแลนด์ ต่างก็ต้องคอยตอบจดหมายจากเด็กๆ ทั่วมุมโลกที่เขียนจดหมายและขอของขวัญกันอย่างเอาจริงเอาจัง ปีละนับแสนนับล้านฉบับ
ซานตาคลอสจึงเป็นตำนานที่สวยงามสำหรับเด็กๆ และปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือสัญลักษณ์สำคัญของเทศกาลคริสต์มาส แต่เราไม่ควรหลงลืมว่า โดยเนื้อแท้แล้วบุคคลสำคัญอันเป็นจุดก่อเกิดเรื่องราวในวันนี้คือ “การให้เราระลึกถึง การถือกำเนิดของพระเยซูเจ้า”