งานแต่งงาน คืองานมงคลสำหรับคู่บ่าวสาวที่จะเริ่มต้นชีวิตคู่อย่างมั่นคงและมีความสุข ดังนั้น ในงานแต่งงานแบบไทย จึงมักมีแต่สิ่งของที่เป็นมงคลปรากฏอยู่ โดยเฉพาะกับอาหารและขนมต่าง ๆ ก็ต้องมีชื่อและความหมายที่เป็นมงคลด้วย ซึ่งการเลี้ยงอาหารในงานวิวาห์นั้น แต่ละท้องถิ่นจะมีความแตกต่างกัน ทั้งเรื่องการจัดวาง การเลือกเมนูอาหาร ทั้งนี้ มักจะสอดคล้องกับวัฒนธรรมและคตินิยมประจำท้องถิ่นนั้น ๆ
อย่างไรก็ตาม ในเมื่อมีอาหารที่สื่อถึงความหมายที่เป็นมงคลในงานแต่งงาน เช่น ห่อหมก (จะได้ไม่มีเรื่องขัดข้องหมองใจกัน), ขนมจีบ (รักกันหวานชื่นเหมือนตอนจีบกันใหม่ ๆ), ลาบ (มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง) และขนมจีนน้ำยา (ครองรักกันยาวนาน) ฯลฯ ก็ย่อมต้องมี “อาหารต้องห้าม” หรืออาหารที่ไม่ควรจะมีในงานแต่งเลยก็ว่าได้ โดยมักเป็นอาหารที่มีกลิ่น มีชื่อไม่เป็นมงคล หรือสื่อถึงความหมายที่ไม่ดีเช่นกัน
อาจเพราะใน “ความเชื่อของคนไทยสมัยโบราณ” หากชื่อไม่เป็นมงคล ตลอดจนวิธีการทำที่ผิดพลาด จนทำให้รูปลักษณ์ภายนอกที่เห็น ถูกตีความได้ถึงความไม่เป็นมงคล อาหารประเภทนั้นก็จะถูกกล่าวหาไปโดยปริยายว่าเป็นอาหารที่ไม่เป็นมงคล
สำหรับงานแต่งงานอาหารที่ไม่เป็นมงคล ได้แก่…
- ต้มยำต่าง ๆ เพราะถือว่าเป็นของเผ็ดร้อน เชื่อว่าจะทำให้ชีวิตคู่ของบ่าวสาวเกิดการทะเลาะกันจนเผ็ดร้อนเหมือนกับรสชาติของต้มยำนั่นเอง
- ยำต่าง ๆ เพราะมีชื่อไม่เป็นมงคล อีกทั้งจะไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น
- แกงบอน เพราะเปรียบได้กับปากบอน ปากเสีย ปากไม่ดี ซึ่งอาจกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้ทะเลาะกันจนเลิกรา
- ปลาร้า หรือ ปลาเจ่า เพราะเป็นของหมักดอง มีกลิ่นที่เหม็นโอ่ เชื่อว่าจะทำให้ความรักของทั้งคู่โดนดอง จนเกิดการเหม็นเบื่อหน้าซึ่งกันและกัน
- ตีนไก่ เพราะเชื่อว่าคู่บ่าวสาวจะเกิดการทะเลาะวิวาทกันจนถึงขั้นเลือดตกยางออก
- หอยขม เพราะชื่อไม่เป็นมงคล อีกทั้งยังสื่อถึงความรักที่มีแต่ความขมตามชื่อของหอยนั่นเอง
- หมี่กรอบ เพราะมีลักษณะหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้ง่าย ซึ่งสื่อถึงความหมายที่ถึงการบั่นทอนความรักให้สั้นลง
- ข้าวต้ม เพราะเชื่อว่าเป็นอาหารที่ใช้ในงานอวมงคลหรืองานศพ คนโบราณจึงไม่นิยม
ตลอดจนอาหารชนิดอื่นที่ชื่อและลักษณะไม่เป็นมงคล เช่น ต้มโคล้ง ต้มเปรต ผัดสะตอ ผักกะถิน แกงร้อน แกงดอกงิ้ว แกงกะหรี่ น้ำพริก แมงดา ต้มยำโป๊ะแตก รวมถึงขนมบ้าบิ่นและขนมถังแตก อีกทั้งผลไม้ เช่น ละมุด มังคุด น้อยหน่า น้อยโหน่ง มะเฟือง และมะไฟ เป็นต้น
ทั้งนี้ อาหารในงานมงคล ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นถึงความละเมียดละไมในการดำเนินชีวิตของคนไทยมาช้านาน ในรุ่นลูกรุ่นหลายจึงต้องช่วยรักษาและถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมอันดีนี้ ให้อยู่กับคนรุ่นหลังต่อไป