เราเข้าใจเรื่องราวของเวลาอย่างที่เคยเข้าใจอย่างนี้บ้างหรือเปล่า……
ตอนเด็กๆ ... เมื่ออยากไปทะเล
เราคิดถึงเรื่องราวของน้ำใสๆ ทรายสวยๆ ทิวทัศน์ที่มีบรรยากาศดีๆ จริงสิไปทะเลบ้างครั้งเขาบอกว่าต้องออกอาการแบบเหงาๆ เท้าที่ย่ำไปบนพื้นทรายรวมกับระลอกคลื่นที่กระทบฝั่ง สายลมและแสงแดดไม่ว่ายามเช้าสดใสหรือว่ายามบ่ายแก่ๆเมื่อพระอาทิตย์จะตกยังไงก็ยังคงมีเสน่ห์
ตอนเด็กๆ ... เมื่อคิดถึงเรื่องราวของภูเขา
เราคิดถึงป่าเขียวขจี เราคิดถึงน้ำตกหรือลำธารที่เย็นชื่นใจ เราคิดถึงพันธ์ไม้ป่าที่สวยๆ ต้นไม่ใหญ่ที่ทะมึนน่าเกรงขาม ยังคงคิดถึงเรื่องราวของนกและผีเสื้อสวยงาม และยังมีสัตว์ป่าที่ยังคงมีอยู่ ที่สำคัญคือการผจญภัยมากมายไม่ว่าจะเดินป่า หรือพักแรม แล้วยังเสน่ห์อีกมากมาย
ตอนเด็กๆ ... เมื่อคิดถึงมื้ออาหาร
เราคิดถึงโต๊ะและบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติก อยากมีห้องสวยๆแบบในหนังนะ
อาหารบนโต๊ะต้องมีเยอะที่สุด และแน่นอนต้องมีอาหารโปรดด้วย ยิ่งวันไหนมีอาหารที่เราชอบที่สุดในโลกบนโต๊ะ วันนั้นมื้ออาหารก็จะดีที่สุดในโลกเลย
ตอนเด็กๆ
เรามองสิ่งรอบข้างด้วยความกระวนกระวายเพื่อเรียกร้องเพื่อให้ได้มา บางโอกาสเราหงุดหงิดกับบรรยากาศที่ไม่เหมือนอย่างในละครที่มีแต่ความสุข เรามักจะเรียกร้องมากมายไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตาสวยๆ เจ้าอุลตร้าแมนหรือเจ้ามดแดงตัวโปรด ของขวัญหรือสิ่งของ
แล้วเวลาก็ผ่านไป……………………………………………
เราเริ่มรู้ว่าไปทะเลที่ไหนมันก็เป็นทะเล มีน้ำมีหาดทราย มีสายลมและกลิ่นไอของทะเล
เราเริ่มรู้ว่าไปภูเขามันก็มีป่าที่มีลำธาร มีสีเขียวของต้นไม้ ภูเขาก็คือภูเขานั่นแหละ
เราเริ่มรู้ว่าทานอาหารอย่างมากก็แค่อิ่มไม่ว่าอาหารจะดีหรือไม่ สถานที่จะเป็นอย่างไรก็ไม่สำคัญ แหมมันก็กินอิ่มเหมือนกันนั้นแหละ
เราเริ่มรู้ว่าข้อเรียกร้องหลายอย่างไม่ใช่เรื่องจำเป็นถึงที่สุด บางโอกาสถึงขนาดบอกว่าอะไรก็ได้
เพราะอะไร…………..
เพราะเมื่อเวลาแห่งชีวิตผ่านไปจนเราเข้าใจ เราจะรู้ว่า ไปทะเลก็ไร้ค่า ไปภูเขาก็ไม่ได้มีความสุข ทานอาหารที่ว่าเลิศรส บรรยากาศที่ว่าสุดยอดก็ไร้ความรู้สึกที่ดี การเรียกร้องและอยากได้ดูเหมือนจะมีข้อจำกัดน้อยลง
เพราะทุกอย่างแม้เราจะได้ แต่เราไม่มีคนมี่เรารักหรือคนที่เราเคารพอยู่ด้วย
ชีวิตของเราจะเหลืออะไร
………………………………………………
คุณค่าของเวลาที่แท้จริงคือการที่เราได้อยู่กับคนที่เรารัก หรืออยู่กับคนที่รักเราต่างหาก
อย่ามัวแต่เรียกร้องสิ่งที่เป็นมายา จนลืมความสำคัญของคนดีที่อยู่เคียงข้าง
เหมือนภาษิตที่ว่า “บางครั้งเราจะรู้คุณค่าของสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็ต่อเมื่อสูญเสียสิ่งนั้นไปแล้วเราก็ไม่สามารถเรียกเอาวันเก่าๆที่ดีกลับมาได้อีกเลย