มาสเตอร์การ์ด แนะ 7 ขั้นตอนง่าย ๆ ป้องกันการปลอมแปลงและโจรกรรมบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งบัตรเครดิตและบัตรเอทีเอ็ม
จากรายงานข่าวตามสื่อต่างๆเกี่ยวกับการแอบดูดข้อมูลบัตรเอทีเอ็ม หรือที่เรียกกันว่า สคิมมิงและการแฮ็กข้อมูลออนไลน์ในหลายๆ ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย
แสดงให้เห็นว่าอาชญากรสมัยนี้ มีวิธีการที่ซับซ้อนมากขึ้นในการโจรกรรมเงินในบัตร หรือขโมยข้อมูลระบุตัวตนของเจ้าของบัตรฯกุญแจสำคัญในการต่อสู้กับการโจรกรรมในลักษณะนี้อยู่ที่การเปิดรับข้อมูลข่าวสารและรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ต้องพึงระมัดระวังมาสเตอร์การ์ด จึงขอแนะนำ 7 ขั้นตอนง่ายๆ ในการป้องกันจากการโจรกรรมและปลอมแปลงดังนี้
1.เซ็นชื่อบนบัตรของคุณ: เซ็นลายมือชื่อบนบัตรใหม่ทันทีที่คุณได้รับมา ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นเซ็นแทนในกรณีที่บัตรสูญหายหรือถูกขโมยแล้วอาจนำไปรูดซื้อสินค้า
2.ระวังผู้ไม่หวังดีมาหลอกล้วงข้อมูล: อย่าตอบอีเมล์หรือข้อความทางโทรศัพท์ที่น่าสงสัย โดยเฉพาะกรณีที่ขอให้คุณบอกข้อมูลส่วนตัวนั่นอาจเป็นแผนของแก๊งมิจฉาชีพที่จ้องจะขโมยข้อมูลของคุณ
3.หาข้อมูลก่อนเสมอ: ก่อนที่จะซื้อสินค้าหรือบริการใดๆ ควรค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทที่คุณไม่คุ้นเคยโดยการค้นหาจากอินเตอร์เน็ต สอบถามเพื่อนๆ หรือโทรสอบถามสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่หมายเลข 1166ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณซื้อสินค้าหรือบริการกับบริษัทที่มีชื่อเสียงไว้ใจได้เท่านั้น
4.ป้องกันข้อมูลของคุณ: เก็บรักษาข้อมูลบัตรในโทรศัพท์ด้วยวิธีที่ปลอดภัยรัดกุมต้องแน่ใจว่าข้อมูลนั้นสามารถเข้าถึงได้โดยใช้รหัสผ่าน/รหัสลับเท่านั้น วิธีนี้จะช่วยปกป้องข้อมูลของคุณในกรณีที่มือถือของคุณสูญหายหรือถูกขโมย
5.ตรวจสอบซ้ำ: ตรวจสอบบัตรของคุณเป็นระยะๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีบัตรใบไหนหายไปหลายคนมักคิดว่าบัตรต่างๆยังคงอยู่ในที่ของมันแต่จะไม่ดีกว่าหรือหากเราจะตรวจสอบดูสักหน่อยว่าบัตรทุกใบยังคงอยู่ในสถานที่ปลอดภัยไม่หายไปไหน
6.ตรวจทานอย่างละเอียด:ตรวจทานใบแจ้งหนี้บัตรเครดิตของคุณอย่างละเอียดทุกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีรายการที่น่าสงสัยพ่วงมาด้วยตรวจสอบค่าใช้จ่ายทุกรายการที่ไม่คุ้นเคยโดยไล่เลียงดูในรายละเอียดของใบแจ้งหนี้ที่คุณได้รับ
7.ฉีกเอกสารก่อนทิ้ง:ถ้าคุณได้รับใบแจ้งยอดบัญชี หรือข้อมูลบัตรที่เป็นเอกสารควรฉีกเอกสารเหล่านั้นก่อนทิ้งลงถังขยะ ทั้งนี้เพื่อรักษาข้อมูลสำคัญของคุณให้ปลอดภัยหลังจากที่เอกสารพวกนั้นหลุดจากมือคุณไปแล้ว