อากาศร้อนแบบนี้ ใครจะไปทนความเย็นเกินห้ามใจไหวของ "ไอศกรีม " ได้กัน สำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก อยู่ล่ะ จะอดใจกับไอศกรีมได้เหรอ...
1. อย่าซื้อมากักตุน
ถ้าคุณมีไอศกรีม เก็บอยู่ในช่องฟรีซของตู้เย็นละก็ จิตใจมันก็จะพะวักพะวนนึกอยากจะกิน และยังเป็นเรื่องง่ายที่สามารถไปหยิบกินได้ทุกเวลา ต่อให้ช่วงนี้อากาศจะร้อนแค่ไหน ไอศกรีมก็ยังเป็นของที่สมควรจะเดินทางไปซื้อหาเมื่อความอยากเข้าครอบงำจริง ๆ มากกว่า
2. จัดไปให้หายอยาก แต่ต้องมีลิมิต
จำกัดปริมาณการกินของตัวเองสักหน่อย อย่าซัดโฮกตามใจปากท่องให้ขึ้นใจว่าไอศกรีมไม่ใช่ข้าว ไม่ใช่อาหารจำเป็นที่ขาดไม่ได้ กินให้รู้สึกปลื้มปริ่มว่าได้กินก็พอแล้ว
3. อย่าหลงระเริงกับคำว่า "ไขมัน 0%"
ต่อให้เป็นไอศกรีมเชอร์เบ็ตไขมันต่ำแค่ไหน ก็อย่าลืมว่ารสชาติหวานอร่อยนั่นน่ะ น้ำตาลล้วน ๆ ปัจจัยแห่งความอ้วนที่พร้อมจะวิ่งเข้าหา เมื่อไรก็ตามที่คุณเผลอตัวจนกินมากเกินไป ถึงเขาจะบอกว่า ไขมัน 0% แต่เขาไม่ได้บอกนี่ว่าแคลอรี 0%…ชัดนะ?
4. ให้ไอศกรีมเป็นเพชรยอดมงกุฎ
งงล่ะสิ ! หลักการนี้พูดง่าย ๆ ก็คือ ให้กินผลไม้ไปพร้อม ๆ กับไอศกรีม อาจจะใช้เป็นผลไม้แช่ช่องแข็งให้เย็นฉ่ำก็ได้ โดยสมมติให้ผลไม้เป็นฐานมงกุฎ ส่วนไอศกรีมก็เป็นเหมือนเพชรที่ประดับอยู่บนยอดมงกุฎนั่นเอง ทุกช้อนที่คุณตักไอศกรีมขึ้นมาต้องมีผลไม้ติดอยู่ด้วย
5. Single-Serve ก็พอแล้วนะ
ต่อให้เมื่อคำนวณแล้วราคาของไอศกรีมถ้วยใหญ่จะคุ้มกว่าแค่ไหนก็ตาม ซื้อในปริมาณน้อย ๆ แค่เสิร์ฟเดียวก็พอแล้ว เพราะเมื่อลองเทียบกับสุขภาพและรูปร่างที่เสียไปเมื่อคุณกินเยอะ ราคาที่ลดลงถือว่าไม่คุ้มเลย ซึ่งขนาด 1 เสิร์ฟของไอศกรีมอยู่ที่ประมาณส้มครึ่งผลเท่านั้นเอง
6. ทำเองได้เลย
ถ้าคุณชื่นชอบไอศกรีมมากจริง ๆ ก็ลงทุนซื้อเครื่องทำไอศกรีมแล้วลงมือทำเองไปเลย เพราะจะได้ควบคุมปริมาณของส่วนผสมอ้วน ๆ ได้ง่าย ๆ และก็ซัดได้เต็มคราบแบบไม่ต้องกลัวหุ่นเสีย