ชาวบ้านท้องถิ่นในประเทศเติร์กเมนิสถาน เรียกมันว่า “ประตูสู่นรก” ( Door to Hell ) เพราะเป็นหลุมขนาดใหญ่ที่มีไฟลุกโชติช่วงมาตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี
โกเซล ยาซคูเลียวา วัย 34 ปี ชาวกรุง อาชกาบัต เมืองหลวงเติร์กเมนิสถาน เดินทางมาชมประตูสู่นรก เพื่อให้เห็นเป็นขวัญตาตัวเอง และบอกว่า ประตูสู่นรกทำให้รู้สึกเหมือนหยุดหายใจ แต่ถึงกระนั้น ยังมีชาวต่างชาติเดินทางมาชมหลุมดังกล่าวที่ตั้งอยู่ใจกลางคาราคุม หนึ่งในทะเลทรายขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งทางการเติร์กเมนิสถานหวังให้ประตูสู่นรกเป็นแหล่งดึงดูดนัก ท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางมายังเติร์กเมนิสถาน อดีตสาธารณรัฐโซเวียตมากขึ้น หลังแยกตัวจากสหภาพโซเวียต ทุกปีมีนักท่องเที่ยวจาก 50 ประเทศมาเยือนเติร์กเมนิสถานปีละ 12,000- 15,000 คน ซึ่งถือว่าน้อยมาก
ดังนั้นเจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวเติร์กเมนิสถานกล่าวว่า ประตูสู่นรกจะได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว และหลุมไฟได้รับความสนใจมากขึ้นทุกทีโดยเฉพาะในหมู่ชาวต่างชาติ ทะเลทรายอันไร้ชีวิตชีวาจะกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับการท่องเที่ยวในรูปแบบที่แตกต่างออกไปจากการท่องเที่ยวเชิงนิเวศไปสู่กีฬาที่ท้าทาย ประตูสู่นรกแห่งนี้อยู่ใกล้กับหมู่บ้านเดอร์เวเซ มีผู้อยู่อาศัยราว 350 คน
คาราคุม หรือแบล็ก แซนด์ (ทะเลทรายสีดำ) ครอบคลุมพื้นที่ของเติร์กเมนิสถาน ประเทศเอเชียกลางในช่วงฤดูร้อนถึงร้อยละ 80 ด้วยอุณหภูมิร้อนจัดที่สูงกว่า 50 องศาเซลเซียส แต่ในช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิหนาวสะท้าน เพราะลดลงไปถึงขั้นติดลบ 20 องศาเซลเซียส การเดินทางไปยังหลุมไฟที่อยู่ห่างจากเมืองหลวงเติร์กเมนิสถานไปทางเหนือราว 270 กิโลเมตรนั้น ไม่มีป้ายบอกถนน แต่คนนำทางรู้วิธีพานักท่องเที่ยวไปชมประตูสู่นรก ซึ่งปรากฏการณ์นี้เป็นผลจากการคำนวณผิดพลาดของทีมนักวิทยาศาสตร์โซเวียต
อนาโตลี บุชมากิ้น นักธรณีวิทยาท้องถิ่นกล่าวว่า หลุมดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากนักธรณี วิทยาโซเวียตพยายามขุดหาแหล่งก๊าซธรรมชาติ เมื่อปี 2514 แต่พื้นดินเหนือบริเวณขุดเจาะกลับ พังถล่ม จนเกิดหลุมขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลาง 70 เมตร และพบมีแก๊สพิษฟุ้งกระจาย จึงตัดสินใจจุดไฟเผา แรกเริ่มคาดว่าจะดับลงได้เองภายในเวลา 1-2 วัน แต่ไม่เป็นดังที่คาดการณ์ไว้ เพราะเปลวเพลิงยังคงสว่างไสวอยู่จนถึงปัจจุบัน
ปีที่แล้ว ประธานาธิบดี กูร์บันกูลี เบอร์ดีมูฮาเม ดอฟ แห่งเติร์กเมนิสถานได้กำหนดเขตสงวนทางธรรมชาติในทะเลทรายคาราคุมครอบคลุมพื้นที่กว่า 500,000 ไร่ รวมทั้งประตูสู่นรก โอเวซ คูร์บานอฟ
เจ้าหน้าที่สถาบันทะเลทรายแห่งชาติบอกว่า เป้าหมายหลักของเขตสงวนแห่งใหม่คือ การอนุรักษ์ทะเลทรายแห่งใหญ่ที่สุดของโลกและแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ดี หลุมไฟได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้คนที่รักการเดินทางและนักวิจัยต่าง ๆ เจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวเติร์กเมนิสถานแนะนำว่า นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางด้วยรถจี๊ปและรถเอทีวีหรือควอดไบต์ หรือขี่อูฐไปตามเนินทรายของคาราคุม ซึ่งภารกิจหลักของเราคือการสร้างภาพน่าดึงดูดใจของเติร์กเมนิสถานให้เป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยว.
ฮิวแมน