1. การทำสมาธิจะช่วยพัฒนา Working memory
6 สุดยอดวิธีเพิ่มประสิทธิภาพความจำ
Working memory เปรียบเสมือนกับกระดานจดโน๊ตที่ข้อมูลใหม่ๆ มักจะเข้ามาใช้พื้นที่ชั่วคราว เช่น การที่คุณได้ยินชื่อใครสักคน ความจำส่วนนี้จะทำหน้าที่เก็บข้อมูลเหล่านั้นไว้จนคุณทำงานเหล่านั้นเสร็จ ซึ่งถ้ามันไม่สำคัญแล้วคุณก็จะปล่อยให้มันหายไป เว้นเสียแต่ถ้ามันสำคัญคุณจะเปลี่ยนมันเป็นความทรงจำระยะยาวซึ่งสามารถเรียกกลับมาใช้ใหม่ได้ (นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเรื่องบางเรื่องเราจำได้ และเรื่องบางเรื่องเราจำไม่ได้)
Working memory เป็นส่วนที่เราใช้งานแทบทุกวัน ซึ่งถ้าความจำส่วนนี้มีประสิทธิภาพ คุณก็จะใช้ชีวิตได้ง่ายมากขึ้นทีเดียว โดยส่วนมากสำหรับผู้ใหญ่ทั่วไปจะจดจำของได้ประมาณ 7 อย่างใน Working memory แต่ถ้าคุณต้องการเพิ่มปริมาณให้มากขึ้น สิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำคือการฝึกสมาธินั่นเอง
ในการวิจัยพบว่า แม้คนที่ไม่เคยฝึกสมาธิเลยก็จะสามารถเพิ่มความสามารถในการจดจำได้ในช่วงระยะเวลาเพียง 8 สัปดาห์หลังจากเริ่มฝึกสมาธิ เพราะระหว่างการทำสมาธิ สมองของคุณจะหยุดการประมวลผลข้อมูลต่างๆ นั่นไม่เพียงทำให้สมองของคุณว่าง ยังทำให้ผ่อนคลายความเครียดและจดจำได้มากขึ้นด้วย
2. ดื่มกาแฟเพื่อพัฒนาการประกอบความทรงจำเข้าด้วยกัน
ในงานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่า การกินคาเฟอีนเม็ดหลังจากการเรียนรู้อะไรบางอย่างนั้นจะทำให้การเรียกความจำกลับมานั้นดีขึ้น โดยในการทดสอบนั้นพบว่าผู้เข้าร่วมการทดสอบที่ได้รับคาเฟอีนหลังจากการจดจำชุดภาพต่างๆ สามารถทำการทดสอบภายหลังได้ดี ซึ่งนักวิจัยมองว่าเป็นการจดจำที่ลึกกว่าเดิม
เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว บางทีนอกจากที่คุณจะดื่มกาแฟในช่วงเช้าแล้ว การดื่มกาแฟหลังจากที่คุณเรียนรู้อะไรมาตลอดวันก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน
3. การกินเบอรี่จะช่วยทำให้ความทรงจำระยะยาวดีขึ้น
การกินผลเบอรรี่จะช่วยเรามีความสามารถในการจดจำระยะยาวดีขึ้นกว่าเดิม จากการศึกษาของ University of Reading และ Peninsula Medical School พบว่าคนที่ไดเอทอาหารด้วยการกิบเบอรี่เป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์ พบว่าการมีความสามารถในการใช้ความทรงจำที่ดีขึ้นกว่าเดิม โดยเริ่มเห็นผลตั้งแต่ในสัปดาห์ที่ 3
นอกจากนั้นแล้ว ยังมีงานวิจัยอีกหลายงานที่พบว่า แม้ในผู้สูงอายุเองหากได้รับผลเบอรี่อยู่สม่ำเสมอก็สามารถลดอาการความจำเสื่อมได้ด้วยเช่นกัน
4. การออกกำลังกายช่วยให้คุณเรียกความทรงจำได้ดีขึ้น
จากการศึกษากับหนูและมนุษย์แสดงให้เห็นว่า การออกกำลังกายสามารถเพิ่มความสามารถในการเรียกความจำได้ดีขึ้น สำหรับผู้สูงอายุการออกกำลังกายยังสามารถชะลออาการความจำเสื่อมได้ และการออกกำลังกายยังส่งผลกับร่างกายและความสามารถอื่นๆ อีกมากมายซึ่งทำให้กลายเป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณต้องการพัฒนาทักษะด้านความจำรวมทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตด้วย
5. การเคี้ยวหมากฝรั่งจะทำให้คุณมีความจำที่ดีขึ้น
แม้ว่าอาจจะยังไม่มีผลการวิจัยรับรองที่ชัดเจนนักว่า การเคี้ยวหมากฝรั่งขณะที่คุณกำลังเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ช่วยให้มีการจดจำที่ดีขึ้น แต่เมื่อปีที่แล้วมีงานวิจัยที่พบว่าผู้เข้าร่วมทดสอบ ซึ่งทำการเคี้ยวหมากฝรั่งไปด้วยนั้นมีผลการทดสอบในเรื่องการจดจำต่างๆ ที่แม่นยำกว่าและมีความสามารถโต้ตอบได้ดีกว่า
สิ่งที่ทำให้การเคี้ยวหมากฝรั่งดูจะช่วยในเรื่องการจดจำ เพราะมันไปเพิ่มกิจกรรมให้กับ Hippocampus ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของสมองสำหรับเรื่องความทรงจำ (แต่ก็ยังไม่มีงานวิจัยที่อธิบายเรื่องนี้ได้ชัดเจนนัก) และในอีกทฤษฏีหนึ่งสันนิษฐานว่า การเคี้ยวหมากฝรั่งเป็นการเพิ่มออกซิเจนและทำให้สามารถตั้งสมาธิและให้ความสนใจกับสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น
6. การนอนจะช่วยให้คุณจัดระเบียบความจำได้ดีขึ้น
การนอนเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ถูกพิสูจน์ว่า สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งสำหรับการทำให้มีความจำที่ดี เพราะการนอนเป็นช่วงเวลาที่เกิดการเรียบเรียงและประกอบความจำต่างๆ เข้าด้วยกัน ซึ่งทำให้คนที่นอนหลับไม่เพียงพอจะมีปัญหากับการพยายามจดจำหรือเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ การนอนที่ว่าอาจจะไม่ต้องเป็นการนอนระยะยาวก็ได้ เพราะการนอนระยะสั้นก็ทำให้ความจำดีขึ้นได้ด้วย
จากงานวิจัยพบว่าโดยทั่วไปแล้ว เมื่อเราจดจำสิ่งใหม่ๆ มันจะอยู่ในสภาพที่เปราะบางและถ้าสมองต้องพยายามจดจำบางอย่างเพิ่มเข้าไปอีก การนอนจะมีส่วนช่วยให้สมองจัดระเบียบความทรงจำตรงนี้ให้เป็นรูปเป็นร่างก่อนที่จะเลือนหายไปหรือถูกทดแทนด้วย
เรื่องอื่นๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก nuttaputch.com
ขอบคุณภาพประกอบจาก nuttaputch.com, yoga.co.th, boncafe.co.th, board.postjung.com, sport.mthai.com, yurbody.com, healthyhappysleep.com